พ.ร.บ.มาตรา 301 และ 305 กับจุดยืนคาทอลิก

กรุงเทพฯ 28 ม.ค.-จัดเวทีสัมมนา พ.ร.บ.มาตรา 301 และ 305 กับจุดยืนคาทอลิก หลัง ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 301และ 305ความผิดฐานทําให้แท้งลูก หรือทําแท้ง


ภาคี 5 หน่วยงาน นำโดยกรรมาธิการฝ่ายสังคม สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่ง ประเทศไทย จัดสัมมนาหัวข้อ “พ.ร.บ.มาตรา 301และ 305 กับจุดยืนคาทอลิก”เพื่อชักชวนให้คิด ไตร่ตรองด้วยความเข้าใจ ท้ังในด้านประเด็นทางกฎหมายบ้านเมือง สาระสําคัญของร่างพระราชบัญญัติ ดังกล่าว รวมถึงเข้าใจมุมมอง และจุดยืนของพระศาสนจักรคาทอลิก กฎแห่งจริยธรรมและความเป็นมนุษย์ และบทบาทขององค์กรศาสนา และภาครัฐ ในการที่จะจัดระบบดูแลและเยียวยาสตรีเมื่อประสบ ปัญหานี้ โดยหวังเป็นเวทีการสร้างความเข้าใจใช้ปัญญาในการแก้ไขปัญหา

จากที่คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบ “ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 301และ 305ความผิดฐานทําให้แท้งลูก” หรือ “ทําแท้ง” เมื่อ17 พฤศจิกายน 2563 และสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้ทําหนังสือลงวันที่ 6 มกราคม 2564 ถึงประธานคณะกรรมาธิการ การศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา เพื่อแสดงถึงจุดยืนของคริสตชนคาทอลิก และคําสอนของพระศาสนจักรคาทอลิก เกี่ยวกับการออกกฎหมายดังกล่าว


นอกจากนี้ยังมีคริสตศาสนิกชนผู้ไม่เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัตินี้ได้ร่วมลงนามคัดค้านด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2564 สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติรับร่าง จากนั้นวุฒิสภาก็มีมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดยในร่างนี้ได้ระบุให้มีผลบังคับใช้ก่อนวันที่ 12กุมภาพันธ์ศกนี้

โดยการเสวนาครั้งนี้ เป็นการแสดงหลักการและเหตุผล ตามหลักจริยธรรม และจุดยืนอันมั่นคงของพระศาสนจักรคาทอลิกที่ไม่เห็นด้วยกับการทําแท้งด้วยความจงใจ (direct abortion) เพราะความเชื่อของคริสตชนเห็นว่าสิทธิขั้นพื้นฐานแห่งการมีชีวิตอยู่ของมนุษย์ เป็นของประทานอันล้ำค่า พระศาสนจักรคาทอลิกเห็นความสําคัญของชีวิตมนุษย์ และยังคงต่อสู้ เพื่อรักษาไว้ ซึ่งศักดิ์ศรีและคุณค่าพื้นฐานของชีวิตมนุษย์ที่เริ่มตั้งแต่เกิดการปฏิสนธิในครรภ์มารดา และสิ้นสุดลงเมื่อ ต้องตายตามธรรมชาติ

ทั้งนี้ ไม่จํากัดเฉพาะในขอบเขตของพระศาสนจักรคาทอลิกเท่านั้น แต่รวมไปถึงมนษุย์ ทุกคนที่มีน้ำใจดี (all people of good will) อีกด้วย พระศาสนจักรคาทอลิกเรียกร้องให้พิจารณาถึงการ เคารพศักดิ์ศรีของมนุษย์ ซึ่งตั้งอยู่บน “กฎศีลธรรมตามธรรมชาติ” ที่พระเจ้าทรงจารึกลงในจิตใจของมนุษย์ ทุกคน เหตุผลดังนี้มนุษย์ทุกคนสามารถเข้าถึงความจริงนี้ได้อย่างเท่าเทียมกัน มีการดําเนินการอย่างจริงจัง มาโดยตลอดตั้งแตร่ะดับสากลเป็นต้นมา


โดยยกตัวอย่างจากสมณสาส์น “ข่าวดีเรื่องชีวิตนุษย์” (EvangeliumVitae) ที่สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ทรงประกาศไว้ แสดงจุดยืนของ พระศาสนจักรคาทอลิกที่มีต่อการปกป้องชีวิตมนุษย์จากความรุนแรง ดังเช่นการทําแท้ง และทำทารุณต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

อากาศร้อน และร้อนจัดบางพื้นที่ ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอากาศร้อนโดยทั่วไป และร้อนจัดบางพื้นที่ มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่ง

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก