“อสมท” ปรับโครงสร้างใหม่รับแผนธุรกิจในอนาคต

กรุงเทพฯ 25 ม.ค.-“อสมท” ปรับโครงสร้างใหม่รับแผนธุรกิจในอนาคต พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ปี 64 เป็นผู้นำสื่อที่มีความน่าเชื่อถือ เที่ยงตรงและรวดเร็ว

“อสมท” เดินหน้าวิสัยทัศน์ใหม่ เป็นผู้นำเสนอเนื้อหาที่น่าเชื่อถือ เที่ยงตรง และรวดเร็ว โดยใช้สื่อโทรทัศน์และวิทยุเป็นธุรกิจหลักที่สร้างกำไร พร้อมปรับโครงสร้างใหม่ให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจในอนาคต เร่งเดินหน้าพัฒนาธุรกิจที่ดินย่านรัชดา-พระราม 9


นายสิโรตม์ รัตนามหัทธนะ กรรมการ และ รักษาการในตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2564 บมจ.อสมท จะขับเคลื่อนการดำเนินงาน ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นผู้นำเสนอเนื้อหาที่น่าเชื่อถือ เที่ยงตรง และรวดเร็ว Provider of trustworthy, accurate and timely content” มุ่งนำเสนอเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ เสริมสร้างความฉลาด เพื่อสร้างสังคม ตื่นรู้ ผ่านทุกช่องทางที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และรับผิดชอบต่อสังคม ภาพรวมในปีนี้ บมจ. อสมท จะมุ่งเน้นสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจสื่อดั้งเดิมที่มีอยู่คือธุรกิจสื่อโทรทัศน์และธุรกิจสื่อวิทยุ ซึ่ง อสมท มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการทำงานด้านสื่อสารมวลชน รวมถึงความพร้อมของอุปกรณ์ในการแพร่ภาพและกระจายเสียง โดยดำเนินการแพร่ภาพออกอากาศ ผ่านโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลระดับชาติจำนวน 39 สถานีหลัก และ 129 สถานีเสริม ทั่วประเทศ ตลอดจนความพร้อมในการให้บริการของเครือข่ายสถานีวิทยุ อสมท ที่มีมากถึง 62 สถานี ซึ่งสามารถให้บริการครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ฝ่ายบริหาร บมจ.อสมท จึงต้องการพัฒนาธุรกิจเดิม ให้มีความแข็งแรง เพื่อรักษารายได้และเรตติ้ง ก่อนปรับระบบการผลิตให้มีความเป็นดิจิทัลมากยิ่งขึ้นในอนาคต

“ปัจจุบันธุรกิจสื่อโทรทัศน์และวิทยุส่วนใหญ่จะปรับตัวให้เป็นสื่อดิจิทัลแพลตฟอร์มมากขึ้น แต่ข้อเท็จจริงยังเป็นที่ประจักษ์ว่าตัวเลขของคนที่รับชมโทรทัศน์ และวิทยุไม่ได้น้อยลงจากเดิมมาก แต่กลับมีการเติบโตและมีการแข่งขันที่สูงขึ้นในทุกปี ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำมากที่สุดในตอนนี้คือ การพัฒนาธุรกิจเดิมที่เรามี ให้น่าสนใจ และหลากหลายเพื่อสอดรับกับคนทุกกลุ่ม รวมถึงเตรียมแผนปรับตัวให้พร้อมกับสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงในอนาคต” นายสิโรตม์ กล่าว


นายสิโรตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้จะต้องเผชิญกับภาวะการชะลอตัวของเศษฐกิจอันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ประกอบกับการเกิดขึ้นของสื่อดิจิทัลภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วและรุนแรง ทำให้ บมจ.อสมท ต้องปรับแผนธุรกิจ รวมถึงปรับโครงสร้างองค์กรและกระบวนการทำงานให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

“ในปี 2563 ที่ผ่านมา บมจ. อสมท ได้เปิดโครงการร่วมใจจากองค์กร (MSP) เพื่อปรับลดจำนวนบุคลากรให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจในอนาคต ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวสามารถช่วยลดค่าใช้จ่าย ด้านบุคลากรได้มากถึง 25 % ขณะที่ปี 2564 ฝ่ายบริหารได้บูรณาการการทำงานของส่วนงานขาย และส่วนงานการตลาดให้มีเป้าหมายในการสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ของ อสมท และเตรียมใช้ กลยุทธ์ Strategic Partnership ในการหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจใหม่ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะทางการเงินของ อสมท” นายสิโรตม์ ระบุ

นอกจากนี้เราจะมุ่งเน้นการสร้างรายได้จากการพัฒนาสินทรัพย์ที่ดินที่ อสมท มีอยู่ให้เกิดมูลค่าทางธุรกิจ อาทิ การพัฒนาโครงการบนที่ดินย่านรัชดา-พระราม 9 หลังจากปีที่ผ่านมา บมจ.อสมท ได้เปิดให้นักลงทุนและบุคคลที่สนใจร่วมเสนอแนวคิดในการพัฒนาที่ดินกรรมสิทธิ์ของ อสมท บนพื้นที่ 50 ไร่ ติดศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อให้การพัฒนาที่ดินเกิดประโยชน์สูงสุด โดยเชื่อว่าจะได้ นักลงทุนเข้ามาพัฒนาที่ดินฯ ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2564


สำหรับแฟนรายการของช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 ในปี 2564 บมจ.อสมท ได้ส่งรายการแนว ส่งเสริมความรู้และสาระบันเทิง หลากหลายแนวตลอดทั้งสัปดาห์ พร้อมซีรีส์ดังจากทุกมุมโลก ทั้งเอเชียฟอร์มยักษ์ พรีเมียมจากประเทศอังกฤษ ตลอดจนซีรีส์อินเดียยอดนิยม ในส่วนของธุรกิจวิทยุ อสมท ได้วางแผนธุรกิจเพื่อรองรับการเรียกคืนคลื่นความถี่ที่อาจจะมีขึ้นในปี 2565 โดยให้แต่ละคลื่น เตรียมความพร้อมในการนำเสนอเนื้อหาสาระใน Platform ออนไลน์มากขึ้น นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือการนำเสนอในรูปแบบดิจิทัลมากยิ่งขึ้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]