fbpx

ศบค.ชี้แนวโน้มผู้ติดเชื้อในประเทศ ลดลง จากมาตรการค้นหาเชิงรุก

ทำเนียบรัฐบาล 24 ม.ค.-ศบค.เผยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 198 ราย พบเสียชีวิต 1 ราย 71 ปี จากสมุทรสาคร แนวโน้มตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง หากสัปดาห์หน้าตัวเลขยังคงที่ คาดอาจผ่อนคลายมาตรการบางอย่าง

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ รองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันอาทิตย์ 24 ม.ค.64 ว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 198 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 191 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 7 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมที่ 13,500 ราย หายป่วยแล้ว 10,567 ราย และวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสมที่ 73 ราย สำหรับการติดเชื้อโควิด-19 ในระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.63 – 24 ม.ค.64 มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 9,263 ราย หายป่วยแล้ว 6,627 ราย เสียชีวิตสะสม 13 ราย


สำหรับผู้เสียชีวิต 1 ราย วันนี้ เป็นหญิงไทย อายุ 73 ปี มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง โรคสมองเสื่อม และลมชัก ภูมิลำเนาอยู่ที่จ.สมุทรสาคร มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อในครอบครัวที่จ.สมุทรสาครเช่นกัน มีอาการตั้งแต่ วันที่4 ม.ค.64 คือ ไอ มีเสมหะ อ่อนเพลีย และเข้ารับการรักษาในรพ.สมุทรสาคร วันที่ 7 ม.ค.64 และตรวจหาเชื้อโควิด-19 เนื่องจากสอบถามประวัติว่าได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยัน วันที่ 9 ม.ค.64 ผลยืนยัน ว่า ผลเป็นบวกและมีอาการเหนื่อยมากขึ้น ผลเอกซเรย์ปอด พบว่ามีอาการอักเสบรุนแรง ผู้ป่วยเหนื่อยมากขึ้น แพทย์ให้การช่วยเหลือโดยใส่ท่อช่วยหายใจและส่งตัวไปรักษาต่อที่รพ.ตากสิน จากนั้น วันที่ 9-20ม.ค.64 แน้วโน้มมีอาการดีขึ้น สามารถนำท่อช่วยหายใจออกได้ในวันที่ 20 ม.ค.64 แต่ยังมีรายงานเสมหะมาก เหนียวข้น และยังไม่มีแรงไอขับเสมหะจึงต้องใช้เครื่องช่วยดูดเสมหะเป็นระยะ แต่ว่าในวันที่ 23 ม.ค.64 พบว่าผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว หัวใจหยุดเต้น แพทย์ทำการกู้ชีพ กว่า 30 นาที แต่ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษา และเสียชีวิต ในเวลา 01.33 น.

สำหรับกราฟรายงานแนวโน้มของการติดเชื้อ ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.64 เป็นต้นมา จะเห็นว่าตัวเลขมีลักษณะขึ้นลงตลอดเวลา เป็นสัญญาณที่บอก ว่า ยังไว้ใจไม่ได้ การ์ดตกไม่ได้ หากแยกเป็นรายจังหวัด สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ วันนี้ 198 ราย ที่เป็นติดเชื้อในประเทศ 191 ราย แบ่งเป็นจากการเฝ้าระวังและระบบบริการ 118 ราย นั้น คือ จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 76 ราย เป็นเพศหญิง 49 ราย อายุ 6-73 ปี และเพศชาย 26 ราย อายุ19-58 ปี กรุงเทพมหานคร จำนวน 21 ราย เป็นเพศหญิง 5 ราย อายุ 27-31 ปี และเพศชาย 16 ราย อายุ22-43 ปี จังหวัดนนทบุรี 1 ราย เป็นเพศชาย อายุ 30ปี สัญชาติไทย และสมุทรสงคราม 7 ราย เป็นเพศหญิง 5 ราย อายุ 38-58ปี และเพศชาย 2 ราย อายุ23,36ปี สัญชาติไทย จังหวัดราชบุรี 1 ราย เป็นเพศหญิง อายุ43 ปี สัญชาติไทย และสมุทรปราการ 12 ราย เป็นเพศหญิง 8 ราย อายุ5-51 ปี และเพศชาย 4 ราย อายุ 26-45ปี


ส่วนที่ผู้ติดเชื้อจากการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 73 ราย คือ จังหวัดสมุทรสาคร 72 ราย เป็นสัญชาติไทย 2 ราย แรงงานประเทศเพื่อนบ้าน 70 ราย และจังหวัดระยอง 1 ราย เป็นเพศหญิง อายุ 16 ปี สัญชาติไทย สำหรับผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 7 ราย คือ เบลเยียม 1 ราย มาเลเซีย 1ราย บารเรน 1 ราย ฝรั่งเศส 2 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย และเมียนมา 1 ราย

สำหรับ 10 อันดับแรก ของจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด ยังคงเป็น 1.สมุทรสาคร 2. กรุงเทพมหานคร 3.ชลบุรี 4.ระยอง 5.สมุทรปราการ 6.จันทบี 7.นนทบุรี 8.อ่างทอง 9.ปทุมธานี 10.นครปฐม

ทั้งนี้ จากแผนที่แสดงรายจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อในประเทศ รายสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. – 24 ม.ค. 64 พบผู้ติดเชื้อรวม 63 จังหวัด และมีจำนวนลดลงต่อเนื่อง จนวันนี้ 24 ม.ค.64 เหลือผู้ติดเชื้อ 7 จังหวัด ถือเป็นแนวโน้มที่ดี จากการตรวจค้นหาเชิงรุก ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2564 ในจังหวัดสมุทรสาครที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อ กว่า 5,000 ราย จากการตรวจเชิงรุกกว่า 70,000 รายนั้น อีก 5 วันถัดจากนี้ จะมีการตรวจเชิงรุกเพิ่มมากขึ้น ในโรงงานขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ตลาด ชุมชน หอพักคนงาน โดยต้องตรวจให้เสร็จสิ้นภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อนำไปสู่การวางแผนผ่อนคลายมาตรการต่างๆ และลดจำนวนผู้ติดเชื้อน้อยลง และ 1-7 ก.พ.64 จะเก็บรายละเอียดในพื้นที่ที่ยังมีความเสี่ยง และคาดว่า 8-15 ก.พ.64 การติดเชื้อจะเบาบางลง ซึ่งจ.สมุทรสาครจะเป็นตัวอย่าง ที่จะทำแบบนี้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยใช้จ.สมุทรสาครเป็นโมเดล ในการกำหนดระยะเวลาผ่อนคลายมาตรการ หาก 25-31 ม.ค.64 ทุกพื้นที่ช่วยกันเฝ้าระวังมาตรการอย่างเข้มข้น และในสัปดาห์หน้า ตัวเลขติดเชื้อยังดีอย่างต่อเนื่อง ภายในต้นเดือนก.พ.64 สถานศึกษา อาจจะเปิดการเรียนการสอนในบางพื้นที่ ส่วนร้านอาหาร สถานบริการต่างๆ ให้ติดตามอย่างใกล้ชิด คาดว่า ในช่วงสัปดาห์หน้าจะมีรายละเอียดของการผ่อนคลายมาตรการบางอย่างออกมา ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชน อย่าการ์ดตก


สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อใกล้ 100 ล้านคนแล้ว สะสมที่ 99,322,604 ราย อาการรุนแรง 110,878 ราย รักษาหายแล้ว 71,367,807 ราย เสียชีวิต 2,130,293 ราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 25,566,789 ราย 2. อินเดีย จำนวน 10,655,435 ราย 3. บราซิล จำนวน 8,816,254 ราย 4. รัสเซีย จำนวน 3,698,273 ราย 5. สหราชอาณาจักร จำนวน 3,617,459 ราย และประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 126 ซึ่งต่างจากเมื่อวาน อยู่ที่ลำดับ 128 การที่เราติดตามสถานการณ์โลกถือว่ามีประโยชน์ จะได้นำมาเป็นตัวอย่างเพื่อไม่ให้สถานการณ์ในประเทศไทยไปไกลถึงจุดนั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Made in Thailand แดนไทยเท่ : เสน่ห์ผ้าทอชาวเขา สู่แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของเชียงใหม่

ผ้าทอชาวเขาและเครื่องแต่งกายชนเผ่าต่างๆ ของไทยที่มีลวดลายสวยงามแปลกตาไม่เหมือนใคร ทำให้ดีไซเนอร์ชาวเชียงใหม่ นำมาออกแบบตัดเย็บ กลายเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นที่ทันสมัย

ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้องกรณีนักศึกษาไม่ได้รับเงิน

กรุงเทพฯ 3 พ.ค.-ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้อง กรณีนักศึกษา ไม่ได้รับเงิน ยืนยันโอนเงินให้เแล้ว 

พายุฤดูร้อนถล่ม 31 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง วันนี้ (3 พ.ค.) ได้รับผลกระทบ 31 จังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง

ข่าวแนะนำ

ไฟไหม้โกดังกระดาษดับหมดแน่คืนนี้ เสียหาย 500 ล้าน

เหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บกระดาษรีไซเคิล จ.สมุทรสาคร คุมเพลิงได้แล้ว 90% คาดดับไฟได้หมดภายในคืนนี้ ประเมินความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ด้านเจ้าของพร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

“นายกฯ-แพทองธาร” ขึ้นเวทีเพื่อไทย ยันเงินดิจิทัลได้แน่

“นายกฯ-แพทองธาร” ขึ้นเวทีเพื่อไทยพบประชาชน ขอบคุณชาวร้อยเอ็ด เลือก สส. ให้ได้เป็นรัฐบาล ย้ำเดินหน้าแก้ปัญหาภัยแล้ง-ยาเสพติด ยันดิจิทัลวอลเล็ตได้แน่สิ้นปีนี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเดินหน้าช่วยประชาชนทุกมิติ

นายกฯ พบชาวบ้านมหาสารคาม ย้ำชัดเงินดิจิทัลวอลเล็ตได้แน่ไตรมาส 4 ยืนยันรัฐบาลเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนในทุกๆ มิติ ทั้งภัยแล้ง ยาเสพติด หนี้นอกระบบ

ปภ.นำเฮลิคอปเตอร์บินโปรยน้ำดับไฟป่าห้วยตึงเฒ่า

เจ้าหน้าที่ ปภ. นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินโปรยน้ำดับไฟป่าหลังอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า และพื้นที่สวนลำไยของชาวบ้าน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่