ป่วยโควิดรายใหม่ 198 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 จากพิจิตร

ป่วยโควิดรายใหม่ 198 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 จากพิจิตร

ทำเนียบฯ 23 ม.ค.- ศบค.เผยยอดติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 198 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 81 ปี จากพิจิตร มีโรคประจำตัว ติดจากคนในครอบครัวเดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร


พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ ประจำวันเสาร์ที่ 23 มกราคม 2564 ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 198 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 69 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 111 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 18 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 13,302 ราย รักษาหายเพิ่ม 224 ราย รวมหายป่วยแล้ว 10,448 ราย ยังรักษาอยู่โรงพยาบาล 2,782 ราย และวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสม 72 ราย

สำหรับยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 13,302 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 10,945 ราย ตรวจคัดกรองเชิงรุก 4,495 ราย ผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ 2,357 ราย และสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 1,761 ราย


ส่วนรายละเอียดผู้เสียชีวิต เป็นชายไทยอายุ 81 ปี มีโรคประจำตัว ทั้งเบาหวาน ไตวายเรื้อรัง และโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ภูมิลำเนา จ.พิจิตร ผู้ป่วยรายนี้มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อที่เป็นบุคคลในครอบครัว เดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร โดยวันที่ 31 ธ.ค.63 รักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยอาการหน้ามืด 2 ม.ค.64 มีอาการไข้ ไอ ถ่ายเหลว ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เนื่องจากมีประวัติจากญาติว่าติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 3 ม.ค.64 ผลพบว่าติดเชื้อโควิด-19 และวันที่ 4 ม.ค.64 เอกซเรย์ปอดพบว่าปอดอักเสบรุนแรง และมีอาการเหนื่อยมากขึ้น ใส่ท่อหายใจ วันที่ 5 ม.ค.64 อาการดีขึ้น ถอดท่อช่วยหายใจ แต่ยังคงใช้ออกซิเจนเข้มข้นสูง และวันที่ 15 ม.ค.64 ผู้ป่วยกลับมามีอาการไข้ ไอ เหนื่อยอีกครั้ง และใส่ท่อช่วยหายใจใหม่ มีอาการแย่ลง ไม่ตอบสนองต่อการรักษา และเสียชีวิตในวันที่ 22 ม.ค.64

สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 69 ราย จากระบบเฝ้าระวังมากที่สุด คือ จ.สมุทรสาคร 56 ราย กรุงเทพฯ 5 รายอ่างทอง 1 ราย สมุทรสงคราม 5 ราย สมุทรปราการ 1 ราย และระยอง 1 ราย โดยผู้ป่วยที่อายุน้อยที่สุด คือ อายุ 14 ปี มากที่สุด คือ 65 ปี

ส่วนกลุ่มที่ 2 ที่เป็นการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 111 ราย พบมากที่สุด คือ จ.สมุทรสาคร 107 ราย แบ่งเป็น สัญชาติไทย 2 ราย และแรงงานข้ามชาติ 105 ราย ส่วนกรุงเทพฯ 4 ราย เป็นสัญชาติเมียนมาทั้งหมด


ส่วนผู้ติดเชื้อในสถานที่กักกัน เดินทางมาจากต่างประเทศ 18 ราย แบ่งเป็น บาห์เรน 4 ราย สหราชอาณาจักร 5 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ

และ 10 อันดับแรกที่มีการติดเชื้อรอบใหม่มากที่สุด อันดับ 1. สมุทรสาคร 2. ชลบุรี 3. กรุงเทพฯ 4. ระยอง 5. สมุทรปราการ 6. จันทบุรี 7. นนทบุรี 8. อ่างทอง 9. นครปฐม 10. ปทุมธานี

ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2563 ยอดผู้ติดเชื้อรอบใหม่ รวม 63 จังหวัด หลังจากมีมาตรการ ทำให้ผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดเหลือ 24 จังหวัด

ส่วนกรณีผู้ประกาศข่าว NBT ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งโฆษก ศบค. และทีมงาน เป็นผู้สัมผัสเสียงต่ำ อยู่ระหว่างกักตัว หลีกเลี่ยงไม่ไปในชุมชน สวมหน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้าตลอดเวลา และตรวจโควิด-19 แล้ว ผลออกมาเป็นลบ คาดว่าจะสามารถกลับมาปฏิบัติงานต่อในเร็วๆ นี้

สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก
ยอดผู้ติดเชื้อรวม 98,742,691 ราย
อาการรุนแรง 111,270 ราย
รักษาหายแล้ว 70,917,439 ราย
เสียชีวิต 2,116,319 ราย

อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด

  1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 25,390,042 ราย
  2. อินเดีย จำนวน 10,640,544 ราย
  3. บราซิล จำนวน 8,755,133 ราย
  4. รัสเซีย จำนวน 3,677,352 ราย
  5. สหราชอาณาจักร จำนวน 3,583,907 ราย
    ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 128 จำนวน 13,302 ราย. – สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตรวจสอบบ้านลักลอบทำประทัดไล่นก บึ้มกลางชุมชน

สุพรรณบุรี 31 ก.ค. – จากเหตุบ้านที่ลักลอบทำประทัดไล่นก เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต วันนี้ตำรวจเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันว่าที่เกิดเหตุไม่ใช่โรงงาน แต่เป็นที่ลักลอบทำ ที่น่าตกใจคือหลังเกิดเหตุชาวบ้านโดยรอบบอกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าบ้านดังกล่าวลักลอบทำประทัดไล่นก จี้หน่วยงานตรวจสอบ กลัวว่าอาจจะมีบ้านที่ลักลอบทำอีก.-สำนักข่าวไทย

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์

ศรีสะเกษ 31 ก.ค. – ที่จังหวัดศรีสะเกษ มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จากการโจมตีของกัมพูชา ที่วัดมหาพุทธาราม หรือวัดพระโต พระอารามหลวง จ.ศรีษะเกษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และวางพวงมาลาพระราชทาน แก่ประชาชน รวม 7 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความความไม่สงบ ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นประชาชนเสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีษะเกษ และอีก 1 คนเสียชีวิตจากระเบิดลงบ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธี พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิต และมีพิธีการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมทุกคืน ถึงวันที่ 2 ส.ค.นี้ ก่อนจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ 3 สิงหาคมนี้ ด้านนายคมสันต์ […]

พบโดรนปริศนาหลายพื้นที่ คาดเป็นโดรนจารกรรม

บุรีรัมย์ 31 ก.ค. – แม้จะมีประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ในหลายพื้นที่ยังตรวจพบโดรนปริศนาขึ้นบิน เบื้องต้นคาดเป็นโดรนสอดแนม ขณะที่วิทยุการบินฯ วอนประชาชนร่วมมือ หากฝ่าฝืนจะใช้มาตรการทางทหารจัดการทันที เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยา จุด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ใช้โทรศัพท์บันทึกภาพโดรนที่บินเหนือ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ไว้ได้ และยังพบว่ามีโดรนบินเหนือบ้านตะโก, บ้านยายคำ, ตลาดตาเป๊กและบ้านเจริญสุข รวมทั้งหมด 4 แห่ง บินวนเวียนประมาณ 5 นาที จึงพยายามตรวจสอบโดยรอบพื้นที่ ก่อนจะพบรถตู้ยี่ห้อฮุนไดสีดำจอดอยู่ เชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าของโดรน เมื่อเข้าไปสอบถามคนในรถตู้ ที่เปิดกระจกลงมาพูดคุย เห็นภายในรถตู้มีคนประมาณ 3-4 คน มีอุปกรณ์คล้ายเครื่องควบคุมอะไรบางอย่างอยู่ในรถ จึงสอบถามว่าจะไปที่ไหน ได้รับคำตอบว่าจะไปสระแก้ว หลังจากนั้นรถตู้ได้ขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว แม้จะพยายามขับรถไล่ตามแต่ตามไม่ทัน เชื่อว่าเป็นโดรนของกัมพูชามาบินสอดแนมอย่างแน่นอน ส่วนที่ อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตรวจพบโดรนปริศนาหลายสิบลำ บินว่อนเหนือพื้นที่อำเภอบ้านกรวด ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล คือ ตำบลสายตะกู ตำบลจันทบเพชร […]

ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนรับฟังข้อเท็จจริงชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 31 ก.ค.- ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนร่วมหารือและรับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริง อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังตั้งทีมเฝ้าติดตามหยุดยิงชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ (31 ก.ค.68) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกโดยกรมข่าวทหารบก ร่วมหารือกับผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนประจำประเทศไทย นำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ณ อาคารศรีสิทธิสงคราม ภายในกองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พล.ท.กำชัย วงศ์ศรี เจ้ากรมข่าวทหารบก เป็นประธานในการหารือ การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการจัดตั้ง Interim ASEAN Defence Attaches Monitoring Team (Interim ASEAN DAs Monitoring Team) ในการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์สถานการณ์หยุดยิง (Ceasefire) ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งการหารือในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงหยุดยิง ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเห็นพ้องร่วมกันในการจัดตั้งทีมเฝ้าติดตามชั่วคราวของฝ่ายทูตทหารจากชาติสมาชิกอาเซียนโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นกลไกเบื้องต้นในการติดตามสถานการณ์และสร้างความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ในที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไก ASEAN Monitoring Team (AMIT) ในอนาคต […]