กทม. 22ม.ค.- นวดวัดโพธิ์ เปิดให้บริการแล้ววันแรก หลังงดให้บริการ ร่วมครึ่งเดือน ตามมาตรการป้องกันโควิดรอบใหม่ แต่บรรยากาศยังคงเงียบเหงา ไร้เงาคนใช้บริการ
ที่บริเวณโรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพน (วัดโพธิ์) หรือที่เรียกกันติดปากว่า ที่เรียนนวดวัดโพธิ์ แหล่งนวดแผนไทยชื่อดังระดับโลก ภายหลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.กทม.) มีคำสั่งผ่อนปรน 13 สถานบริการ หนึ่งในนั้นคือ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา และนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า โดยผู้ใช้บริการ และผู้ให้บริการจะต้องสวมใส่หน้ากากตลอดเวลา
บรรยากาศ วันนี้มีเหล่าพนักงานนวดที่ทราบข่าวจากนายจ้าง มานั่งรอลูกค้าอย่างใจจดจ่อ แม้ว่าในช่วงครึ่งวันเช้าจะยังไม่มีลูกค้ามาใช้บริการเลยแม้แต่คนเดียว แต่ทุกคนก็ยังรอ ซึ่งระหว่างรอลูกค้าก็จับกลุ่มพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ และทุกคนมีสีหน้าและแววตาที่มีความหวัง สอบถามเจ้าหน้าที่ ได้ข้อมูลว่า ตอนนี้ทางสถานที่นวดได้ประชาสัมพันธ์แจ้งผ่านไลน์กลุ่มลูกค้า และผ่านเฟซบุคแฟนเพจ “นวดวัดโพธิ์” แจ้งว่าพร้อมเปิดให้บริการแล้ว แต่ครึ่งวันเช้าก็ยังไม่มีลูกค้า มีเพียงแค่โทรมาสอบถามกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น
สำหรับการนวดของวัดโพธิ์จะคงเหลือไว้แต่นวดไทย นวดผ่อนคลาย นวดฝ่าเท้า ส่วนการนวดตั้งแต่ช่วงคอขึ้นไป เช่น นวดบโรุงผิวตน้า นวดศรีษะ นวดน้ำมันหอมระเหย จะงดไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
โดยแต่ละวันจะมีหมอนวดรอให้บริการ 8-10 คนเท่านั้น และสลับกันทำงานวันเว้นวัน เนี่องจากต้องเว้นระยะห่างระหว่างนวด แต่ละคนจะเหลือวันทำงาน 3-4 วันต่อคน ระหว่างนวดลูกค้าจะต้องสวมใส่หน้ากากอยามัยตลอดเวลา และนอกจากวัดอุณหภูมิ และสแกนไทยชนะแล้ว เจ้าหน้าที่จะขอซักประวัติว่าได้เดินทางไปในพื้นที่มีความเสี่ยงหรือไม่ หากมีประวัติทางร้านก็จะขออนุญาตไม่รับนวด ซึ่งเป็นมาตรการที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อความปลอดภัย
นางเพ็ญจันทร์ จิตรดวง พนักงานนวดวัดโพธิ์ กล่าวว่า ตอนได้รับข่าวว่าจะกลับมาให้บริการตัวเองและเพื่อนๆดีใจมากๆ เพราะช่วงที่ถูกสั่งปิด แต่รายจ่ายไม่ได้หยุดไปด้วย ยิ่งตัวเองอายุเยอะ จะไปทำงานอย่างอื่นเหมือนพนักงานวัยหนุ่มสาวก็ไม่ได้ ทำให้ช่วงที่โดนสั่งหยุด ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม รวมๆ 3 สัปดาห์ ตนเองไม่มีรายได้อะไรเลย ซึ่งการมาทำงานวันนี้ แม้จะลุ้นอยู่ว่าจะมีลูกค้าหรือไม่ หรืออาจจะไม่มีเลย แต่ก็ยังดีกว่านอนอยู่ที่บ้านเฉยๆที่ไม่มีลุ้นเลยว่าจะมีรายได้เข้ามาหรือไม่ ตอนนี้ก็ต้องให้กำลังใจตัวเอง และพยายามป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด เพราะทุกครั้งที่ออกจากบ้านพอจะอุ่นใจได้บ้างว่าน่าจะมีรายได้กลับมา แต่ก็ต้องแลกกับความเสี่ยงต่างๆที่จะตามมาด้วย .-สำนักข่าวไทย