อธิบดี คร. ชี้ในอนาคตจะพบคนติดโควิดในที่ทำงานมากขึ้น

สำนักข่าวไทย 11 ม.ค. – อธิบดี คร. แจงรายละเอียดพบคนติดโควิดที่โรงเบียร์ศรีราชา และสถาบันโรคทรวงอก ชี้ต่อไปในอนาคตจะพบคนติดในที่ทำงานมากขึ้น ย้ำต้องสวมหน้ากาก งดรับประทานอาหารร่วมกัน

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวในการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยตอนนี้มี 58 จังหวัด ถ้าดูเป็นรายสัปดาห์ พบว่าเฉลี่ยติดเชื้อประมาณ 37-41 จังหวัด ส่วนใหญ่ยังอยู่ที่ภาคกลางและภาคตะวันตก ส่วนภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบผู้ติดเชื้อประปรายไม่ถึง 10 ราย และสามารถควบคุมโรคได้ดี ไม่มีการกระจายในชุมชน อย่างไรก็ตาม ขอให้คงการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ และเว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ไม่จำเป็นต่อไป


นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่โรงเบียร์ 90 อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นั้นคล้ายกับสถานบันเทิงที่ จ.เชียงใหม่ โดยเริ่มต้นเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.63 ซึ่งมีลูกค้าท่านหนึ่งมาจาก จ.ระยอง ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการระบาดจากบ่อนการพนัน ต่อมาลูกค้ารายดังกล่าวมีอาการป่วย วันที่ 27 ธ.ค. จากนั้นก็เริ่มพบลูกค้าและพนักงานในร้านติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. มีการจัดงานเลี้ยงให้กับพนักงาน และหลังจากนั้นก็ปิดให้บริการ ทีมสอบสวนโรคได้สอบสวนโรคและติดตามกลุ่มดังกล่าว พบการติดเชื้อต่อๆ กัน ทั้งในกลุ่มพนักงาน ลูกค้า และครอบครัว ล่าสุดมีการติดเชื้อแล้ว 52 คน ทั้งนี้ เชื่อว่าผู้สัมผัสที่อยู่ในการกักตัวตอนนี้หลายสิบคนนั้นจะมีการตรวจพบเชื้อเพิ่มเติมอีก

การระบาดใน จ.ชลบุรี ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะศรีราชา ดังนั้น จึงมีการตรวจเชิงรุกศรีราชา 2,500 คน เกี่ยวข้องหลายกรณี รวมพบผู้ติดเชื้อ 253 คน แบ่งเป็นเกี่ยวข้องกับทั้งโรงเบียร์ 90 ที่ศรีราชา 52 คน กรณีบ่อนการพนัน 69 คน มีผู้สัมผัส 28 คน และที่อื่นๆ และหลายคนที่เป็นผู้ติดเชื้อมีการไปเที่ยวตามผับ บาร์ญี่ปุ่น ร้านนวด ดังนั้น จากนี้คือตัวอย่างของการมีกิจกรรมในสถานที่อากาศไม่ถ่ายเท มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก ไม่สวมหน้ากากอนามัย มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งหมดเป็นความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการติดเชื้อทั้งสิ้น ดังนั้น ขอเตือนหลีกเลี่ยงการไปพื้นที่เสี่ยง เพราะเมื่อเกิดการติดเชื้อฯ จะนำกลับมาติดคนที่บ้าน เช่นที่เกิดขึ้นแล้ว คือ ติดเชื้อสู่ลูก แล้วลูกก็นำไปติดที่โรงเรียนต่อ


เมื่อถามถึงกรณีพบบุคลากรการแพทย์ที่สถาบันโรคทรวงอก ติดเชื้อโควิด-19 นพ.โอภาส กล่าวว่า ข้อมูลเบื้องต้นพบว่าติดเชื้อ 2 ราย ทราบว่าเป็นสามีภรรยากัน โดยเป็นการติดเชื้อนอก รพ. จากการใช้ชีวิตประจำวัน ขณะนี้ให้กักตัวเรียบร้อยแล้ว รวมถึงเพื่อนใน รพ.ยังไม่พบว่ามีใครติดเชื้อเพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาต้นตอการติดเชื้อและผู้สัมผัสว่ามีใครบ้าง ส่วนกรณีพบการติดเชื้อที่สภากาชาดก็เช่นเดียวกัน เบื้องต้นได้รับรายงานว่าติดเชื้อมาจากภายนอก ไม่ใช่การติดเชื้อจากการทำงาน ทั้งนี้ จากข้อมูลการระบาดโควิด-19 รอบใหม่นี้ พบบุคลากรติดเชื้อจากการทำงานน้อยกว่ารอบแรกมาก โดยรอบแรกพบบุคลากรติดเชื้อจากการทำงานกว่า 180 คน ส่วนรอบนี้ยืนยันแล้วแค่กลุ่มบุคลากรที่ทำงานในสถานที่กักกันทางเลือก (ASQ) ซึ่งรายงานไปแล้ว

จากหลายๆ เหตุการณ์ที่มีการระบาดของโควิด-19 ในรอบนี้ ทั้งจากกรณีพนักงานช่อง 3 เจ้าหน้าที่ทางด่วน ทำให้ขณะนี้กลุ่มสถานประกอบการ ออฟฟิศต่างๆ ที่มีพนักงานจำนวนมากนั้น มีโอกาสที่จะเจอพนักงานของตัวเองติดเชื้อโผล่ขึ้นมาบ้างจากการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น ขอให้สถานประกอบการต่างๆ วางมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อ โดยเฉพาะการทำความสะอาดพื้นที่ที่มีการใช้งานร่วมกัน เช่น ห้องน้ำ ลูกบิดประตู โรงอาหาร อาจจะไม่ต้องปิด แต่ขอให้เว้นระยะห่าง และงดการรับประทานอาหารร่วมกัน และขนมจุบจิบระหว่างทำงานในห้องทำงาน อากาศไม่ถ่ายเท เพราะเป็นช่วงที่ต้องถอดหน้ากากอนามัย ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อได้ ย้ำว่าหน้ากากอนามัยสำคัญมาก อย่างกรณีของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งท่านสวมหน้ากากอนามัยตลอด ตอนนั้นท่านเริ่มป่วยแล้ว แต่ก็ไม่พบว่ามีใครติดเชื้อเพิ่ม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ขณะที่ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8%

กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ขณะที่ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8% ชี้มองตามสถานการณ์จริงไม่ได้มองในแง่ร้ายเกินไป ลุ้นเงินดิจิทัลเฟส 3 – มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงประชุมวันนี้ พร้อมเตือนผู้ประกอบการฯ เตรียมรองรับความผันผวนทางการค้า ส่วนประชาชนใช้จ่ายให้มีความรอบคอบมากขึ้น นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 1/68 ขยายตัว 3.1% ต่อเนื่องจากร้อยละ 3.3 ในไตรมาส 4/2567 ปัจจัยหลักมาจากการผลิตภาคเอกชนชะลอลง ขณะที่ภาคเกษตรเร่งขึ้น ด้านการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน และรัฐบาล การนำเข้าสินค้าและบริการ และการสะสมทุนถาวรเบื้องต้นชะลอลง ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวในเกณฑ์สูง 12.3% โดยเร่งขึ้น 11.5% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม สภาพัฒน์ฯ ได้ปรับคาดการณ์ GDP ปี 68 ลงเหลือเติบโต 1.3-2.3% หรือช่วงกลางของคาดการณ์ที่ 1.8% […]

ผู้ต้องหา 2 รายสุดท้าย คดีตึก สตง.ถล่ม เข้ามอบตัว ยืนยันความบริสุทธิ์

สน.บางซื่อ 19 พ.ค. – บริษัท ว.และสหายฯ ผู้ต้องหาคดีตึก สตง. ถล่ม 2 รายสุดท้าย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.บางซื่อ ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ เพราะดูแลแค่เรื่องของระบบไฟฟ้าและประปา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงสร้างอาคาร นายพลเดช กรรมการบริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด และนางประณีต ในฐานะนิติบุคคล บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ หลังจากก่อนหน้านี้ตำรวจได้ออกหมายจับ 17 หมายจับ และผู้ต้องหาส่วนใหญ่ 15 ราย เดินทางเข้าพบตำรวจ ก่อนจะถูกนำตัวฝากขังต่อศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงบริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด ที่ส่งทนายความขอเลื่อนเข้าพบมาเป็นวันนี้ (19 พ.ค.) เนื่องจากต้องการเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำกับตำรวจ นายพลเดช เปิดเผยว่า ไม่กังวลว่าวันนี้อาจจะไม่ได้ประกันตัว และต้องเข้าเรือนจำ เพราะเป็นกระบวนการขั้นตอนของตำรวจ วันนี้มามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และได้นำเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมายืนยัน พร้อมต่อสู้คดี ขณะที่นางประณีต […]

ฆ่าดีเจเตเต้

รวบแล้ว 1 ผู้ต้องสงสัยอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้”

19 พ.ค. – รวบแล้ว 1 ผู้ต้องสงสัยอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้” คาดวันนี้ (19 พ.ค.) จะมีการออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีกอย่างน้อย 3 คน หลังวานนี้ (18 พ.ค.) พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกทิ้งกลางไร่อ้อยเมืองกาญจนบุรี ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบก่อนหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. วันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ออกมาอัดคลิปลงเฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชาย วานนี้ (18 พ.ค.) พบกลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อย เชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยเวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพชายอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยคนที่เจอศพคือน้าชายของนายกอล์ฟ ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ เป็นผู้ชายนอนตะแคง […]

อุตุฯ เผยไทยฝนลดลง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ที่พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก มีกำลังอ่อนลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย