fbpx

ห่วงคนปาร์ตี้ทำติดโควิดที่ทำงาน

สธ. 8 ม.ค.- กรมควบคุมโรค ห่วงคนปาร์ตี้ ทำติดโรคที่ทำงาน หลังพบไทม์ไลน์คนป่วยเชื่อมโยงหลายกิจกรรม เสี่ยงนำเชื้อไปแพร่ที่ทำงาน แนะ Work from home และเลี่ยงกินข้าวร่วมกัน


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์และความคืบหน้าผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ว่าประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อวันนี้ 205 คน ติดเชื้อในประเทศ 131 คน ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทั้งนี้แม้ตัวเลขผู้ป่วยวันนี้น้อยลง แต่กราฟผู้ป่วยยังเพิ่มขึ้น ยังประมาทไม่ได้ การระบาดรอบใหม่ที่เริ่ม 15 ธ.ค. จนถึงปัจจุบัน พบป่วย 5,604 คน มากที่สุดใน จ.สุมทรสาคร 2,981 คน รองลงมาแถบภาคตะวันออก รวมถึง กทม.

อย่างไรก็ตาม ในจำนวนผู้ติดเชื้อ 5,604 คน มีเสียชีวิต 7 คน อัตราการเสียชีวิตรอบนี้ยังต่ำกว่ารอบที่ผ่านมามาก แต่ก็ต้องเฝ้าระวังมากที่สุด โดยในกลุ่มนี้อยู่ที่รพ. 2,599 คน อาการหนักใช้เครื่องช่วยหายใจ 8 คน และอยู่ รพ.สนาม 1,703 คน ยังอยู่ รพ.เฉพาะผู้ป่วยอาการน้อย 81 คน (อยู่ในโรงแรมที่ปรับเป็นโรงพยาบาลหรือฮอสพิเทล) ซึ่งรพ.สนามถือว่าสำคัญมากๆ เป็นหัวใจในการป้องกันโรคในจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดมากๆ เช่น สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง ตราด จันทบุรี นอกจากนี้ที่น่ายินดีรักษาหายแล้ว 1,306 คน ทั้งนี้ขอย้ำว่าผู้ติดเชื้อผ่านไป 8-10 วัน จะไม่มีการแพร่เชื้อให้คนอื่น


นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ จ.สมุทรสาคร เป็นจังหวัดจุดเริ่มต้นของการระบาดรอบนี้ โดยพบตลาดกลางกุ้งมีผู้ติดเชื้อเกือบร้อยละ 40 มีคนตั้งคำถามว่าในโรงงาน หรือในชุมชนที่มีแรงงานต่างด้าวทั่วประเทศมีแนวโน้มอย่างไร ซึ่งได้มีการลงไปเฝ้าระวังในชุมชนต่างด้าวในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งเขตสุขภาพที่ 1 ภาคเหนือตอนบน เขตสุขภาพที่ 2 ภาคเหนือตอนกลาง และเขตสุขภาพที่ 3 ภาคเหนือตอนล่าง ทั้ง จ.นครสวรรค์ พิจิตร จะเห็นว่าการตรวจแรงงานต่างด้าวตรวจไปกว่า 1,500 คน พบติดเชื้อ 3 คน ส่วนภาคใต้ เขต 11 และ 12 ภาคใต้ตอนล่าง ตรวจไปเกือบ 5,000 คน พบผู้ติดเชื้อ 1 คน ดังนั้น แรงงานต่างด้าวที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ยังอยู่ จ.สมุทรสาคร และเขตพื้นที่ภาคกลางเป็นหลัก ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคใต้จากการตรวจกว่า 20,000 คน พบผู้ติดเชื้อน้อยมาก แต่การเฝ้าระวังแรงงานต่างด้าวยังต้องทำอย่างต่อเนื่อง

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การระบาดในช่วงที่ผ่านมา นอกเหนือจากตลาดกลางกุ้งและชุมชนจะมีอีกกรณีหนึ่ง คือการระบาดในสถานที่ทำงาน โดยพบหลายกรณี เช่น กรณีแรงงานเมียนมาไปงานแต่งที่สมุทรสาครในช่วงที่เริ่มพบผู้ป่วยรายแรกในพื้นที่ จากนั้นเกิดการติดเชื้อและเมื่อกลับมาที่โรงงานของตัวเองก็ทำให้เกิดการติดเชื้อต่อในกลุ่มเพื่อนร่วมงาน ทั้งคนเมียนมาอายุระหว่าง 20-30 ปี และคนไทย อายุ 37 ปี 27 ปี และ 43 ปี โรงงานปิดตัวแล้ว อีกกรณีหนึ่งที่มีการเชื่อมโยงกับตลาดที่จังหวัดสมุทรสาครคือที่กรุงเทพฯ เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารมีการไปแพร่เชื้อต่อในธนาคารและไปสังสรรค์ช่วงวันที่ 25 ธ.ค. และเกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการสอบสวนการระบาดที่สถานบันเทิงย่านปิ่นเกล้า คนที่ไปเที่ยวก็มีโอกาสนำเชื้อมาติดเพื่อนร่วมงานและคนในครอบครัว ซึ่งพบหลายกรณี

นพ.โสภณ กล่าวว่า การกิจกรรมสังสรรค์ปาร์ตี้มีความเสี่ยงในระยะนี้ ความปลอดภัยในสถานที่ทำงานจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากในระยะนี้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใดก็ตาม เนื่องจากเริ่มพบพนักงานของสถานประกอบการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริษัท ห้างร้าน ซึ่งมีพนักงานหลายคน หากมีคนใดคนหนึ่งติดเชื้อไม่มีการป้องกันในที่ทำงานก็จะเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อต่อเนื่องได้ ดังนั้น ขอให้ทุกสถานประกอบการ รวมทั้งสถานที่ราชการ ต้องเคร่งเรื่องของการตรวจคัดกรองอาการ สังเกตการเจ็บป่วยของพนักงาน หากมีใครเจ็บป่วยจะต้องรีบแยกออกจากผู้ที่ยังไม่ป่วย และคงการสวมหน้ากากล้าง มือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกัน เลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน รวมถึงรวมถึงนโยบายการทำงานที่บ้านต้องส่งเสริมให้ดำเนินการมากขึ้นเพื่อลดความแออัดในที่ทำงานเพื่อป้องกันความเสี่ยง


นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า สำหรับการสอบสวนการระบาดโควิด-19 ที่เกี่ยวข้องกับสนามชนไก่ ที่จังหวัดอ่างทองล่าสุดมีผู้ติดเชื้อรวม 101 ราย จากเดิมอยู่ที่ 80 กว่าราย ใน 8 จังหวัด อ่างทองซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามชนไก่มีผู้ป่วยมากที่สุด 70 ราย รองลงมาเป็นพระนครศรีอยุธยา 3 ราย สิงห์บุรี 6 ราย ลพบุรี 5 ราย สุพรรณบุรี 3 ราย ขอนแก่น 2 ราย สระบุรีและนนทบุรี จังหวัดละ 1 ราย ดังนั้นผู้ที่มีกิจกรรมในช่วงเวลาดังกล่าวตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค. ถึงต้นเดือน ม.ค.ที่ไปสนามชนไก่ในพื้นที่ภาคกลางไม่ว่าจะเป็นแห่งใดก็ตาม ถือว่ามีความเสี่ยงเพราะผู้ที่ไปสนามชนไก่ก็มักจะไปในสถานที่หลายแห่งเช่นเดียวกันจึงขอเฝ้าระวัง สังเกตตัวเองเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง