กรุงเทพฯ 6 ม.ค.- กทม. เตือนประชาชนเพิ่มความระมัดระวังการจัดปาร์ตี้ในบ้าน เสี่ยงแพร่ระบาดโควิด-19 วอนปฏิบัติตามมาตรการควบคุม ทั้งล้างมือ และใช้ช้อนส่วนตัว
(6 ม.ค.64) พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เป็นประธานการประชุม ศบค.กทม. ครั้งที่ 4/2564 โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้แทนสำนัก ผู้แทน บช.น. ผู้แทน กอ.รมน.กทม.ผู้แทนกลุ่มเขต และผู้แทนส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
ที่ประชุมได้กำชับให้สำนักงานเขตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจแนะนำสถานประกอบการอย่างเข้มข้น เคร่งครัด และเข้มงวด หากพบผู้ฝ่าฝืนให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง นอกจากนี้ขอให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่เพิ่มความระมัดระวังการจัดปาร์ตี้หรือจัดเลี้ยงในบ้านหรือที่พักอาศัยแบบไม่ป้องกันมีโอกาสเกิดการแพร่ระบาดได้สูง โดยขอความร่วมมือให้ผู้จัดปาร์ตี้หรืองานเลี้ยง ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ตามที่หน่วยงานราชการกำหนด เช่น การล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ การใช้ช้อนส่วนตัว เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของสมาชิกในครอบครัวหรือผู้ใกล้ชิด
นอกจากนี้ที่ประชุมยังกำชับเกี่ยวกับการจัดตั้งด่านคัดกรองการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ปัจจุบันคงเหลือ 8 ด่าน ขอให้ผู้มีหน้าที่ประจำด่านฯ ปฏิบัติงานอย่างเข้มข้นจริงจัง โดยคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งผู้ปฏิบัติงาน ยานพาหนะและประชาชน เรียกเข้ารับการตรวจคัดกรอง รวมทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานเขตพื้นที่ที่ด่านตั้งอยู่ตรวจสอบไฟส่องสว่างให้เพียงพอ รวมถึงแสดงเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ให้ชัดเจนก่อนจะถึงด่านฯ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ หรืออันตรายแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและประชาชนด้วย สำหรับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สอบสวนโรค หากพบกรณีที่สอบสวนหา Timeline ได้ยาก ขอให้แจ้งไปยังสำนักอนามัยเพื่อประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมสอบสวน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีความชำนาญในการซักถามข้อมูลหรือสอบสวนมากกว่า
ส่วนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดที่กรุงเทพมหานคร หรือหน่วยงานภาครัฐกำหนด ที่ประชุมได้ขอให้คณะทำงานด้านการช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟู ซึ่งมีสำนักพัฒนาสังคมเป็นเลขานุการ หารือสำนักการคลังและสำนักงบประมาณ เพื่อเตรียมหามาตรการให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป.-สำนักข่าวไทย