นิสิตหอพักจุฬาฯติดโควิด 1 ราย

กรุงเทพฯ 5 ม.ค.-หอพักนิสิตจุฬาฯ แจ้งพบนิสิตหอพักติดโควิด 1 ราย ประกาศปิดการเข้าออก ปิดพื้นที่ทำความสะอาด และตรวจคัดกรองนิสิต บุคลากร และผู้ปฏิบัติงานทุกคน


ผศ.ดร.ชัยพร ภู่ประเสริฐ รองอธิการบดี ปฏิบัติการแทนอธิการบดี ลงนามในประกาศหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง ประกาศกรณีนิสิตหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับผลการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีผลเป็นบวก โดยมีรายละเอียดว่า

จากการที่หอพักได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ว่า มีนิสิตหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 1 คน ได้รับผลการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีผลเป็นบวก ซึ่งปัจจุบันเป็นช่วงปิดภาคการศึกษา ไม่เกี่ยวกับการเรียนการสอน อย่างไรก็ตามทางหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขอแจ้งมาตรการดำเนินการของหอพัก ดังต่อไปนี้


1.ปิดการเข้าออกเพื่อจำกัดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดทั้งภายในหอพัก มหาวิทยาลัย และสังคมภายนอก ตั้งแต่วันที่ 4-18 มกราคม 2564 (14วัน)

2.ปิดพื้นที่ที่นิสิตรายดังกล่าวพักอาศัยและทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ดังกล่าวและส่วนกลาง

3.นำนิสิตหอพัก บุคลากร และผู้ปฏิบัติงานทุกคนมาเข้ารับการตรวจคัดกรองโดยศูนย์สุขภาพแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามลำดับความเสี่ยงโดยเร็วที่สุด


สำหรับนิสิตหอพักที่ได้เดินทางกลับภูมิลำเนา หลังจากวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ขอให้กักตัวอยู่ที่ที่พักอาศัย เพื่อสังเกตอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน หากมีอาการไม่สบายเข้าข่ายต้องสงสัย ขอให้รีบรายงานตัวกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่และแจ้งหอพักเพื่อทราบต่อไป

ขณะที่ในเวลาต่อมา โพสต์ประกาศเรื่องแนวทางปฏิบัตินิสิตหอพักในช่วงการระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ในพื้นที่ ฉบับที่ 3 มีรายละเอียดว่า

ตามประกาศกรณีนิสิตหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับผลการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา2019 มีผลเป็นบวกจำนวน 1คน ลงวันที่ 4 มกราคม 2564 หอพักนิสิตขอความร่วมมือนิสิตที่พักอาศัยอยู่ในหอพักทุกคน ปฏิบัติดูแลตนเองอย่างเคร่งครัด ระหว่างวันที่ 4-17 มกราคม 2564 รวมเป็นระยะเวลา 14 วัน ตามมาตรการของหอพัก ดังนี้

1.การพักอาศัยในพื้นที่หอพัก ให้ปฏิบัติ ดังนี้
1.1 นิสิตทุกคน ที่อยู่หอพักตลอดช่วงหลังสอบปลายภาค จนถึงวันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564 ต้องเข้ารับการตรวจ Strip test โดยแจ้งความจำนงผ่านคิวอาร์โค้ด ท้ายประกาศ ภายในวันอังคารที่ 5 มกราคม 2564 ก่อนเวลา 13.00 น.โดยรอแจ้งการนัดหมายจากหอพักเพื่อทยอยเข้ารับการตรวจ ณ ศูนย์บริการสุขภาพ อาคารจามจุรี 9 ตามลำดับ

1.2 นิสิตสามารถพำนักอาศัยอยู่ในหอพักและดำเนินชีวิตปกติภายในพื้นที่ รั้วหอพักเท่านั้น สามารถนั่งรวมกลุ่มกันไม่เกิน 4 คน และอาศัยระยะห่าง ในพื้นที่ใต้ตึกพักและโรงอาหารหอพัก โดยหอพักขอปิดพื้นที่ส่วนกลาง ได้แก่ ห้องคอมมอนในตึกพัก ห้องชมรม โรงยิม และสนามบาสเกตบอล
1.3 นิสิตสามารถรับประทานอาหารในโรงอาหารหอพัก โดยนั่งรักษาระยะห่างตามที่หอพักกำหนด กรณีสั่งอาหารจากแหล่งอื่ง หรือสั่งของออนไลน์ หอพักกำหนดจุดรับส่งเฉพาะบริเวณหน้าประตูทางเข้าหอพัก ฝั่งถนนพญาไทเท่านั้น โดยนิสิตต้องรับของที่สั่งตามโต๊ะที่หอพักจัดเตรียมไว้ด้วยตนเอง
1.4 นิสิตตรวจวัดอุณหภูมิทุกวันบริเวณโต๊ะ รปภ.ก่อนเข้าออกตึกพัก ส่วนหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากหอพัก หมั่นล้างมือด้วยน้ำ หรือฟอกสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์
1.5 หากนิสิตสงสัยมีอาการไข้ อุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาตัวร้อนปวดเนื้อ ปวดตัว หนาวสั่น มีอาการไอ จาม เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจลำบาก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ให้ติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ 0-2 218 0568 (ในวันและเวลาทำการ )หรือสายด่วนที่หมายเลขโทรศัพท์ 091-761-0988 ตลอด 24 ชั่วโมง
1.6 กรณีนิสิตติดฝึกงานและต้องเดินทางไปกลับหอพัก ขอให้นิสิตแจ้งยังต้นสังกัดที่ฝึกงานและคณะว่าอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาด จะต้องกักตัวตามมาตรการควบคุมโรค และขอความอนุเคราะห์โดยปรับรูปแบบเป็นเวิร์คฟอร์มโฮม หรือให้เลื่อนเวลาฝึกงาน หลังกลับสู่ภาวะปกติ หากนิสิตมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ขอให้นิสิต ทำเรื่องผ่านคณะเพื่อหาแนวทางที่เป็นไปได้ต่อไป
1.7 นิสิตสามารถติดต่อสำนักงานนิสิตหอพักได้ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์เวลา 08.00-17.00 น. วันเสาร์ถึงวันอาทิตย์เวลา 09.00-17.00 น.

2.กรณีนิสิตที่จะเดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด ระหว่างวันที่ 4-17 มกราคม 2564
2.1 กรณีมารับของตนเองในตึกพักทุกกรณี หอพักขอความร่วมมือนิสิต เลื่อนกำหนดที่จะเข้ามาออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ หรือนิสิตหาแนวทางอื่นที่เหมาะสม โดยขอความร่วมมือเพื่อนร่วมห้อง หรือเพื่อนร่วมตึกพักไปหยิบของตนเอง และส่งมอบของ ณ จุดรับส่ง เฉพาะบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าหอพัก ฝั่งถนนพญาไทเท่านั้น
2.2 กรณีนิสิตมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ให้นิสิตกรอกข้อมูลแจ้งเหตุผลความจำเป็นล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันทำการ แจ้งผ่านคิวอาร์โค้ดท้ายประกาศและต้องกักตัวในพื้นที่ที่หอพักกำหนดเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน โดยขอให้นิสิตทบทวนและประเมินเหตุผลความจำเป็น ที่จะเข้าหอพัก ปิดการเข้าออก

3.กรณีบุคคลภายนอก ไม่อนุญาตทุกกรณี ยกเว้นเจ้าหน้าที่บุคลากรหรือ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในหอพักเท่านั้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม