นิสิตหอพักจุฬาฯติดโควิด 1 ราย

กรุงเทพฯ 5 ม.ค.-หอพักนิสิตจุฬาฯ แจ้งพบนิสิตหอพักติดโควิด 1 ราย ประกาศปิดการเข้าออก ปิดพื้นที่ทำความสะอาด และตรวจคัดกรองนิสิต บุคลากร และผู้ปฏิบัติงานทุกคน


ผศ.ดร.ชัยพร ภู่ประเสริฐ รองอธิการบดี ปฏิบัติการแทนอธิการบดี ลงนามในประกาศหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง ประกาศกรณีนิสิตหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับผลการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีผลเป็นบวก โดยมีรายละเอียดว่า

จากการที่หอพักได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ว่า มีนิสิตหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 1 คน ได้รับผลการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีผลเป็นบวก ซึ่งปัจจุบันเป็นช่วงปิดภาคการศึกษา ไม่เกี่ยวกับการเรียนการสอน อย่างไรก็ตามทางหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขอแจ้งมาตรการดำเนินการของหอพัก ดังต่อไปนี้


1.ปิดการเข้าออกเพื่อจำกัดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดทั้งภายในหอพัก มหาวิทยาลัย และสังคมภายนอก ตั้งแต่วันที่ 4-18 มกราคม 2564 (14วัน)

2.ปิดพื้นที่ที่นิสิตรายดังกล่าวพักอาศัยและทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ดังกล่าวและส่วนกลาง

3.นำนิสิตหอพัก บุคลากร และผู้ปฏิบัติงานทุกคนมาเข้ารับการตรวจคัดกรองโดยศูนย์สุขภาพแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามลำดับความเสี่ยงโดยเร็วที่สุด


สำหรับนิสิตหอพักที่ได้เดินทางกลับภูมิลำเนา หลังจากวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ขอให้กักตัวอยู่ที่ที่พักอาศัย เพื่อสังเกตอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน หากมีอาการไม่สบายเข้าข่ายต้องสงสัย ขอให้รีบรายงานตัวกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่และแจ้งหอพักเพื่อทราบต่อไป

ขณะที่ในเวลาต่อมา โพสต์ประกาศเรื่องแนวทางปฏิบัตินิสิตหอพักในช่วงการระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ในพื้นที่ ฉบับที่ 3 มีรายละเอียดว่า

ตามประกาศกรณีนิสิตหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับผลการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา2019 มีผลเป็นบวกจำนวน 1คน ลงวันที่ 4 มกราคม 2564 หอพักนิสิตขอความร่วมมือนิสิตที่พักอาศัยอยู่ในหอพักทุกคน ปฏิบัติดูแลตนเองอย่างเคร่งครัด ระหว่างวันที่ 4-17 มกราคม 2564 รวมเป็นระยะเวลา 14 วัน ตามมาตรการของหอพัก ดังนี้

1.การพักอาศัยในพื้นที่หอพัก ให้ปฏิบัติ ดังนี้
1.1 นิสิตทุกคน ที่อยู่หอพักตลอดช่วงหลังสอบปลายภาค จนถึงวันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564 ต้องเข้ารับการตรวจ Strip test โดยแจ้งความจำนงผ่านคิวอาร์โค้ด ท้ายประกาศ ภายในวันอังคารที่ 5 มกราคม 2564 ก่อนเวลา 13.00 น.โดยรอแจ้งการนัดหมายจากหอพักเพื่อทยอยเข้ารับการตรวจ ณ ศูนย์บริการสุขภาพ อาคารจามจุรี 9 ตามลำดับ

1.2 นิสิตสามารถพำนักอาศัยอยู่ในหอพักและดำเนินชีวิตปกติภายในพื้นที่ รั้วหอพักเท่านั้น สามารถนั่งรวมกลุ่มกันไม่เกิน 4 คน และอาศัยระยะห่าง ในพื้นที่ใต้ตึกพักและโรงอาหารหอพัก โดยหอพักขอปิดพื้นที่ส่วนกลาง ได้แก่ ห้องคอมมอนในตึกพัก ห้องชมรม โรงยิม และสนามบาสเกตบอล
1.3 นิสิตสามารถรับประทานอาหารในโรงอาหารหอพัก โดยนั่งรักษาระยะห่างตามที่หอพักกำหนด กรณีสั่งอาหารจากแหล่งอื่ง หรือสั่งของออนไลน์ หอพักกำหนดจุดรับส่งเฉพาะบริเวณหน้าประตูทางเข้าหอพัก ฝั่งถนนพญาไทเท่านั้น โดยนิสิตต้องรับของที่สั่งตามโต๊ะที่หอพักจัดเตรียมไว้ด้วยตนเอง
1.4 นิสิตตรวจวัดอุณหภูมิทุกวันบริเวณโต๊ะ รปภ.ก่อนเข้าออกตึกพัก ส่วนหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากหอพัก หมั่นล้างมือด้วยน้ำ หรือฟอกสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์
1.5 หากนิสิตสงสัยมีอาการไข้ อุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาตัวร้อนปวดเนื้อ ปวดตัว หนาวสั่น มีอาการไอ จาม เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจลำบาก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ให้ติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ 0-2 218 0568 (ในวันและเวลาทำการ )หรือสายด่วนที่หมายเลขโทรศัพท์ 091-761-0988 ตลอด 24 ชั่วโมง
1.6 กรณีนิสิตติดฝึกงานและต้องเดินทางไปกลับหอพัก ขอให้นิสิตแจ้งยังต้นสังกัดที่ฝึกงานและคณะว่าอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาด จะต้องกักตัวตามมาตรการควบคุมโรค และขอความอนุเคราะห์โดยปรับรูปแบบเป็นเวิร์คฟอร์มโฮม หรือให้เลื่อนเวลาฝึกงาน หลังกลับสู่ภาวะปกติ หากนิสิตมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ขอให้นิสิต ทำเรื่องผ่านคณะเพื่อหาแนวทางที่เป็นไปได้ต่อไป
1.7 นิสิตสามารถติดต่อสำนักงานนิสิตหอพักได้ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์เวลา 08.00-17.00 น. วันเสาร์ถึงวันอาทิตย์เวลา 09.00-17.00 น.

2.กรณีนิสิตที่จะเดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด ระหว่างวันที่ 4-17 มกราคม 2564
2.1 กรณีมารับของตนเองในตึกพักทุกกรณี หอพักขอความร่วมมือนิสิต เลื่อนกำหนดที่จะเข้ามาออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ หรือนิสิตหาแนวทางอื่นที่เหมาะสม โดยขอความร่วมมือเพื่อนร่วมห้อง หรือเพื่อนร่วมตึกพักไปหยิบของตนเอง และส่งมอบของ ณ จุดรับส่ง เฉพาะบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าหอพัก ฝั่งถนนพญาไทเท่านั้น
2.2 กรณีนิสิตมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ให้นิสิตกรอกข้อมูลแจ้งเหตุผลความจำเป็นล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันทำการ แจ้งผ่านคิวอาร์โค้ดท้ายประกาศและต้องกักตัวในพื้นที่ที่หอพักกำหนดเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน โดยขอให้นิสิตทบทวนและประเมินเหตุผลความจำเป็น ที่จะเข้าหอพัก ปิดการเข้าออก

3.กรณีบุคคลภายนอก ไม่อนุญาตทุกกรณี ยกเว้นเจ้าหน้าที่บุคลากรหรือ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในหอพักเท่านั้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]