ผลบวก 3 คนใกล้ชิดแม่ค้าตลาดกุ้งติดโควิด

สธ.18 ธ.ค.-สธ.แถลงผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ 16 รายมาจากต่างประเทศ 15 รายพักใน State Quarantine และในประเทศ 1 ราย เป็นหญิงวัย 67 เจ้าของแพปลาในตลาดกุ้ง จ.สมุทรสาคร ผลตรวจคนใกล้ชิด 3 คนเป็นบวก สอบสวนโรคมีผู้สัมผัสรวม 165 คน เสี่ยงสูงสัมผัสใกล้ชิด 26 ราย เสี่ยงต่ำ 139 ราย ต้นตอของเชื้อโควิดที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยรายนี้ น่าจะเป็นบุคคลที่อยู่นอกครอบครัว รอผลการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่าหลงเชื่อข่าวลือในโลกโซเชียล


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ร่วมแถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศและความคืบหน้าผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในประเทศ โดยวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 16 รายเป็นบุคคลที่มาจากต่างประเทศ 15 ราย ตอนนี้อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้หรือ State Quarantine ทั้งหมด โดย15ราย แบ่งเป็นมาจากอินเดีย 1ราย เมียนมา 1 ราย,เนเธอร์แลนด์ 1ราย,ตุรกี 1ราย,สวิตเซอร์แลนด์ 2 ราย, ซาอุดีอาระเบีย 5 ราย(เป็นคนไทยทั้งหมด) และสหราชอาณาจักร 1 ราย และมีผู้ติดเชื้อในประเทศ 1 ราย รวมมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยัน 4,297 ราย รักษาป่วยบ้านได้แล้ว 4,005 ราย และมีผู้เสียชีวิต 60 รายเท่าเดิม

ส่วนกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ 1 ราย คือกรณีที่วานนี้ (17 ธ.ค.) ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครแถลงเป็นหญิงอายุ 67 ปี อาชีพค้าขาย เจ้าของแพปลาในตลาดกุ้ง จ.สมุทรสาคร เบื้องต้นจากการสืบสวนโรค เป็นผู้ที่ไม่ชอบสวมแมสก์ ไม่เคยเดินทางไปไหน อยู่แต่ที่บ้าน และที่ทำงาน มีลูกจ้างเป็นชาวเมียนมา 2 คน อยู่ร่วมบ้านเดียวกับลูกชาย และไปนอนเฝ้าแม่อายุ 95 ปีที่ป่วยติดเตียงในบ้านฝั่งตรงข้าม ขณะนี้ผู้ป่วยเข้ารักษาตัวที่ รพ.สมุทรสาคร


สำหรับอาการที่พบคือ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.63 มีอาการปวดเมื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น จึงเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง พบว่ามีผลเป็นบวก จึงส่งมาเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร จากนั้นวันที่ 17 ธ.ค. ผลการตรวจ 2 ครั้งจากโรงพยาบาลสมุทรสาคร และ ศวก.ที่ 5 สมุทรสงคราม พบผลเป็นบวก แพทย์ยืนยันว่าติดเชื้อโควิด–19 ขณะนี้อยู่ในระหว่างการกักกันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร

ส่วนผลการลงพื้นที่สอบโรคพบมีผู้สัมผัสกับผู้หญิงคนดังกล่าวรวมทั้งหมด 165 คน แบ่งเป็นคนที่มีความเสี่ยงสูงหรือสัมผัสอย่างใกล้ชิด 26 ราย แยกเป็น

1.บุคคลในครอบครัว 7 ราย ผลจากการตรวจมีผู้ที่ผลตรวจเป็นบวก 3 รายคือแม่ (ผู้ป่วยติดเตียง อายุ 95 ปี),พี่สาว (อายุ 73 ปี และน้องสะใภ้(หญิง อายุ 57 ปี) โดย 3 คนนี้ต้องรอผลตรวจซ้ำยืนยันอีกครั้ง ขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว


2.ในแพปลาของผู้ป่วย 3 ราย คือ ลูกชายของผู้ป่วย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ ส่วนอีก 2 คน เป็นลูกจ้างชาวเมียนมาร์อยู่ในระหว่างการรอผลตรวจสอบ

3.บุคลากรในโรงพยาบาลเอกชน 8 ราย ผลตรวจไม่พบเชื้อ

4.แรงงานในตลากุ้ง รวม 8 ราย (แรงานไทย 3, เมียนมา 4 และสัญชาติอื่น 1) ทั้งหมดอยู่ระหว่างการรอผลทดสอบ

และกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำรวมทั้งหมด 139 ราย เป็นสัญชาติไทย 14 ราย และเมียนมา 125 ราย ทั้งหมดอยู่ระหว่างการรอผลทดสอบ

สำหรับมาตรการการค้นหาผู้ใกล้ชิดเพิ่มเติมทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีตีกรอบในพื้นที่ใกล้เคียง เรียงลำดับความเสี่ยงสูงไปหาต่ำ ไล่ตั้งแต่ ตลาดกลางค้ากุ้ง ,ตลาดทะเลไทย ,หอพักศรีเมือง ซึ่งเป็นหอพักของแรงงานชาวเมียนมาในพื้นที่ ,และ พื้นที่อื่นๆเพิ่มเติม

สำหรับต้นตอของเชื้อโควิด-19 ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยรายนี้ นพ.โสภณ กล่าวว่า น่าจะเป็นบุคคลที่อยู่นอกครอบครัวเพราะผลการสอบสวนในเบื้องต้นไม่พบว่ามีบุคคลในครอบครัวคนใดเดินทางไปยังต่างประเทศ ขอรอผลการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งถึงจะสามารถระบุที่มาที่ไปของผู้ที่แพร่เชื้อโรคได้อย่างชัดเจน ขอให้รอฟังการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ และอย่าหลงเชื่อข่าวลือในโลกโซเชียล เช่น กรณีนี้ที่มีคนติดเชื้อเป็นร้อยคน เสี่ยงติดเชื้ออีกหลายหมื่นคนอย่างเด็ดขาด

ส่วนมาตรการในการควบคุมโรค ผู้บริหารตลาดให้ความร่วมมือในการหยุดให้บริการตลาดกุ้ง 1 วัน ในส่วนแพปลาที่พบผู้ป่วยจะหยุดให้บริการจนครบ 3 วันและทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ ระยะเวลาที่ปิดเพื่อทำความสะอาดนั้น ยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องปิดเป็นเวลานาน ขึ้นอยู่กับการจัดการสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ แต่สิ่งที่น่ากังวลกว่า คือคนที่มีความเสี่ยง แต่ไม่แสดงอาการและอยู่ในระหว่างการฟักเชื้อ ตรงนี้ต้องมีความเข้มงวดในการ คัดกรองคนหลังจากเปิดตลาดแล้วอย่าบกพร่องเด็ดขาด

ขณะที่นพ.โอภาส กล่าวถึงกรณีพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ,เชียงใหม่ พะเยา กรุงเทพฯ พิจิตร ราชบุรีและสิงห์บุรี ก่อนหน้านี้ที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งหมด 23 ราย ขณะนี้ผ่านมาครบสองสัปดาห์แล้วโดยที่ไม่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัดเพิ่มเติมเท่ากับว่าขณะนี้ทุกจังหวัดกลับเข้าสู่ภาวะปลอดภัยและปกติแล้ว ทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม และฝากไปยังคนในจังหวัดอื่นๆว่าทั้ง 7 จังหวัดสามารถไปท่องเที่ยวได้เหมือนเดิมแต่ยังคงเน้นย้ำให้ใช้มาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มข้น ทั้งการสวมใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือให้สะอาด และรักษาระยะห่างเมื่อต้องออกไปยังสถานที่ ที่มีผู้คนจำนวนมาก

ส่วนในช่วงเทศกาลปีใหม่และคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึงย้ำอีกครั้งว่าสามารถจัดงานได้เหมือนเดิมเนื่องจากตอนนี้ไม่พบการระบาดในประเทศ แต่ขอให้จัดงานแบบรักษาระยะห่างลดความหนาแน่นและแออัดของคนที่จะเข้ามาร่วมงานในพื้นที่หนึ่ง โดยใช้สัดส่วน 1 ตารางเมตรต่อ 1 คน หรือลดคนร้อยละ 50 เพื่อความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ทบ. แจง 4 ขั้นตอนแนวทางปฏิบัติควบคุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย.-ทบ. แจงแนวทางปฏิบัติตามคำสั่งควบคุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา ดำเนินการเป็นขั้นตอนตามสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าจาก กรณีที่กองทัพบกได้ออกคำสั่งให้มีการควบคุมจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อรักษาอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคงของชาติ การดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวมิได้เป็นการใช้มาตรการสูงสุดในทันที แต่เป็นแนวทางปฏิบัติแบบขั้นตอน โดยพิจารณาจากระดับความรุนแรงของสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ โดยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนหลัก ดังนี้ ขั้นที่ 1 จำกัดการผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่น ๆ โดยเพิ่มระดับความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น นักพนัน หรือกลุ่มที่อาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย ขั้นที่ 2 ปรับลดช่วงเวลาในการเปิด–ปิดจุดผ่านแดน พร้อมทั้งกำหนดวัน–เวลาการเข้า–ออกอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมความเคลื่อนไหวของบุคคลและกิจกรรมในพื้นที่ชายแดน ขั้นที่ 3 ปิดจุดผ่านแดนบางจุด (Selective Closure) โดยพิจารณาจากจุดที่มีความเสี่ยงสูง หรือมีข้อมูลด้านความมั่นคงที่อาจนำไปสู่การรุกล้ำ หรือการก่อเหตุจากฝ่ายตรงข้าม ขั้นที่ 4 ปิดจุดผ่านแดนตลอดแนวชายแดนในกรณีที่เกิดสถานการณ์วิกฤต หรือมีการรุกรานอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมสถานการณ์ในระดับสูงสุด โฆษกกองทัพบกย้ำว่า มาตรการดังกล่าวได้มอบอำนาจให้ กองกำลังบูรพา และ […]

กองทัพอิสราเอลพบร่างตัวประกันชาวไทยในฉนวนกาซา

เยรูซาเล็ม 7 มิ.ย. – นายอิสราเอล คัตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล กล่าววันเสาร์ว่า กองทัพอิสราเอลได้พบร่างของตัวประกันชาวไทยชื่อ นายณัฐพงษ์ ปินตา ที่ถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซาตั้งแต่การโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 นายคัตซ์กล่าวว่า ร่างของณัฐพงษ์ อยู่กับกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ที่ชื่อว่า กองพลน้อยมูจาฮีดีน และถูกนำกลับมาจากพื้นที่ราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ในขณะที่ครอบครัวของเขาในประเทศไทยได้รับแจ้งแล้ว นายณัฐพงษ์ ซึ่งเป็นคนงานภาคเกษตรกรรม ถูกลักพาตัวไปจาก คิบบุตซ์ นีร์ ออซ ซึ่งเป็นชุมชนเล็กๆ ใกล้ชายแดน ซึ่งเป็นจุดดที่หนึ่งในสี่ของประชากรถูกสังหารหรือถูกจับเป็นตัวประกันระหว่างการโจมตีที่นำโดยกลุ่มฮามาสในปี 2023 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า นายณัฐพงษ์ ถูกลักพาตัวไปในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และถูกสังหารโดยผู้ที่จับตัวเขาไป ซึ่งได้ลงมือสังหารและนำร่างของตัวประกันชาวอิสราเอล-อเมริกันอีกสองคนกลับไปยังฉนวนกาซาด้วย โดยร่างของทั้งสองคนนั้นก็เพิ่งได้กลับคืนมาได้ในสัปดาห์นี้.-813.-สำนักข่าวไทย

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย