ผลบวก 3 คนใกล้ชิดแม่ค้าตลาดกุ้งติดโควิด

สธ.18 ธ.ค.-สธ.แถลงผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ 16 รายมาจากต่างประเทศ 15 รายพักใน State Quarantine และในประเทศ 1 ราย เป็นหญิงวัย 67 เจ้าของแพปลาในตลาดกุ้ง จ.สมุทรสาคร ผลตรวจคนใกล้ชิด 3 คนเป็นบวก สอบสวนโรคมีผู้สัมผัสรวม 165 คน เสี่ยงสูงสัมผัสใกล้ชิด 26 ราย เสี่ยงต่ำ 139 ราย ต้นตอของเชื้อโควิดที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยรายนี้ น่าจะเป็นบุคคลที่อยู่นอกครอบครัว รอผลการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่าหลงเชื่อข่าวลือในโลกโซเชียล


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ร่วมแถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศและความคืบหน้าผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในประเทศ โดยวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 16 รายเป็นบุคคลที่มาจากต่างประเทศ 15 ราย ตอนนี้อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้หรือ State Quarantine ทั้งหมด โดย15ราย แบ่งเป็นมาจากอินเดีย 1ราย เมียนมา 1 ราย,เนเธอร์แลนด์ 1ราย,ตุรกี 1ราย,สวิตเซอร์แลนด์ 2 ราย, ซาอุดีอาระเบีย 5 ราย(เป็นคนไทยทั้งหมด) และสหราชอาณาจักร 1 ราย และมีผู้ติดเชื้อในประเทศ 1 ราย รวมมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยัน 4,297 ราย รักษาป่วยบ้านได้แล้ว 4,005 ราย และมีผู้เสียชีวิต 60 รายเท่าเดิม

ส่วนกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ 1 ราย คือกรณีที่วานนี้ (17 ธ.ค.) ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครแถลงเป็นหญิงอายุ 67 ปี อาชีพค้าขาย เจ้าของแพปลาในตลาดกุ้ง จ.สมุทรสาคร เบื้องต้นจากการสืบสวนโรค เป็นผู้ที่ไม่ชอบสวมแมสก์ ไม่เคยเดินทางไปไหน อยู่แต่ที่บ้าน และที่ทำงาน มีลูกจ้างเป็นชาวเมียนมา 2 คน อยู่ร่วมบ้านเดียวกับลูกชาย และไปนอนเฝ้าแม่อายุ 95 ปีที่ป่วยติดเตียงในบ้านฝั่งตรงข้าม ขณะนี้ผู้ป่วยเข้ารักษาตัวที่ รพ.สมุทรสาคร


สำหรับอาการที่พบคือ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.63 มีอาการปวดเมื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น จึงเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง พบว่ามีผลเป็นบวก จึงส่งมาเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร จากนั้นวันที่ 17 ธ.ค. ผลการตรวจ 2 ครั้งจากโรงพยาบาลสมุทรสาคร และ ศวก.ที่ 5 สมุทรสงคราม พบผลเป็นบวก แพทย์ยืนยันว่าติดเชื้อโควิด–19 ขณะนี้อยู่ในระหว่างการกักกันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร

ส่วนผลการลงพื้นที่สอบโรคพบมีผู้สัมผัสกับผู้หญิงคนดังกล่าวรวมทั้งหมด 165 คน แบ่งเป็นคนที่มีความเสี่ยงสูงหรือสัมผัสอย่างใกล้ชิด 26 ราย แยกเป็น

1.บุคคลในครอบครัว 7 ราย ผลจากการตรวจมีผู้ที่ผลตรวจเป็นบวก 3 รายคือแม่ (ผู้ป่วยติดเตียง อายุ 95 ปี),พี่สาว (อายุ 73 ปี และน้องสะใภ้(หญิง อายุ 57 ปี) โดย 3 คนนี้ต้องรอผลตรวจซ้ำยืนยันอีกครั้ง ขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว


2.ในแพปลาของผู้ป่วย 3 ราย คือ ลูกชายของผู้ป่วย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ ส่วนอีก 2 คน เป็นลูกจ้างชาวเมียนมาร์อยู่ในระหว่างการรอผลตรวจสอบ

3.บุคลากรในโรงพยาบาลเอกชน 8 ราย ผลตรวจไม่พบเชื้อ

4.แรงงานในตลากุ้ง รวม 8 ราย (แรงานไทย 3, เมียนมา 4 และสัญชาติอื่น 1) ทั้งหมดอยู่ระหว่างการรอผลทดสอบ

และกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำรวมทั้งหมด 139 ราย เป็นสัญชาติไทย 14 ราย และเมียนมา 125 ราย ทั้งหมดอยู่ระหว่างการรอผลทดสอบ

สำหรับมาตรการการค้นหาผู้ใกล้ชิดเพิ่มเติมทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีตีกรอบในพื้นที่ใกล้เคียง เรียงลำดับความเสี่ยงสูงไปหาต่ำ ไล่ตั้งแต่ ตลาดกลางค้ากุ้ง ,ตลาดทะเลไทย ,หอพักศรีเมือง ซึ่งเป็นหอพักของแรงงานชาวเมียนมาในพื้นที่ ,และ พื้นที่อื่นๆเพิ่มเติม

สำหรับต้นตอของเชื้อโควิด-19 ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยรายนี้ นพ.โสภณ กล่าวว่า น่าจะเป็นบุคคลที่อยู่นอกครอบครัวเพราะผลการสอบสวนในเบื้องต้นไม่พบว่ามีบุคคลในครอบครัวคนใดเดินทางไปยังต่างประเทศ ขอรอผลการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งถึงจะสามารถระบุที่มาที่ไปของผู้ที่แพร่เชื้อโรคได้อย่างชัดเจน ขอให้รอฟังการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ และอย่าหลงเชื่อข่าวลือในโลกโซเชียล เช่น กรณีนี้ที่มีคนติดเชื้อเป็นร้อยคน เสี่ยงติดเชื้ออีกหลายหมื่นคนอย่างเด็ดขาด

ส่วนมาตรการในการควบคุมโรค ผู้บริหารตลาดให้ความร่วมมือในการหยุดให้บริการตลาดกุ้ง 1 วัน ในส่วนแพปลาที่พบผู้ป่วยจะหยุดให้บริการจนครบ 3 วันและทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ ระยะเวลาที่ปิดเพื่อทำความสะอาดนั้น ยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องปิดเป็นเวลานาน ขึ้นอยู่กับการจัดการสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ แต่สิ่งที่น่ากังวลกว่า คือคนที่มีความเสี่ยง แต่ไม่แสดงอาการและอยู่ในระหว่างการฟักเชื้อ ตรงนี้ต้องมีความเข้มงวดในการ คัดกรองคนหลังจากเปิดตลาดแล้วอย่าบกพร่องเด็ดขาด

ขณะที่นพ.โอภาส กล่าวถึงกรณีพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ,เชียงใหม่ พะเยา กรุงเทพฯ พิจิตร ราชบุรีและสิงห์บุรี ก่อนหน้านี้ที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งหมด 23 ราย ขณะนี้ผ่านมาครบสองสัปดาห์แล้วโดยที่ไม่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัดเพิ่มเติมเท่ากับว่าขณะนี้ทุกจังหวัดกลับเข้าสู่ภาวะปลอดภัยและปกติแล้ว ทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม และฝากไปยังคนในจังหวัดอื่นๆว่าทั้ง 7 จังหวัดสามารถไปท่องเที่ยวได้เหมือนเดิมแต่ยังคงเน้นย้ำให้ใช้มาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มข้น ทั้งการสวมใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือให้สะอาด และรักษาระยะห่างเมื่อต้องออกไปยังสถานที่ ที่มีผู้คนจำนวนมาก

ส่วนในช่วงเทศกาลปีใหม่และคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึงย้ำอีกครั้งว่าสามารถจัดงานได้เหมือนเดิมเนื่องจากตอนนี้ไม่พบการระบาดในประเทศ แต่ขอให้จัดงานแบบรักษาระยะห่างลดความหนาแน่นและแออัดของคนที่จะเข้ามาร่วมงานในพื้นที่หนึ่ง โดยใช้สัดส่วน 1 ตารางเมตรต่อ 1 คน หรือลดคนร้อยละ 50 เพื่อความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ โดยภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย