fbpx

ณัฐวุฒิ ใส่กำไลอีเอ็มห้ามยุ่งชุมนุมการเมือง

กรมคุมประพฤติ 18 ธ.ค.-“ณัฐวุฒิ”ต้องใส่กำไลอีเอ็มตามจำนวนวันที่ได้พักโทษห้ามขึ้นเครื่องบินและต้องออกขออนุญาตก่อนออกนอกพื้นที่ กำหนด ส่วน “ปลอดประสพ-ยงยุทธ”ถอดกำไลแล้ว เหลือ “จ่ามีกับเบญจา หลุย” ยังใส่อยู่


นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงการพักโทษผู้ต้องขังด้วยการใส่กำไลอิเล็กทรอนิกส์ หรือกำไลอีเอ็ม ว่า เมื่อคณะอนุกรรมการพิจารณาการพักการลงโทษได้กลั่นกรองนักโทษที่เข้าเกณฑ์ได้รับการพักการลงโทษและเสนอรัฐมนตรียุติธรรมลงนามอนุมัติแล้ว กรมราชทัณฑ์ก็จะส่งตัวให้กับกรมคุมประพฤติเพื่อใส่กำไลอีเอ็มที่ข้อเท้า และสัมภาษณ์สอบถามถึงการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ถูกคุมประพฤติเพื่อกำหนดการควบคุมพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่

โดยกรณีของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หรือเต้น แกนนำ นปช. ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ได้พักการลงโทษ และเข้าสู่การดูแลของกรมคุมประพฤติ วันนี้เจ้าหน้าที่เรือนจำจะได้พาตัวออกจากเรือนจำเพื่อติดกำไลอีเอ็มที่ศูนย์คุมประพฤติ อาคารไอทีสแควร์ และวันพรุ่งนี้ (19ธ.ค.)นายณัฐวุฒิจะต้องเข้ารายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งนายณัฐวุฒิมีภูมิลำเนาอยู่ และต้องติดกำไลอีเอ็มเป็นเวลาเท่าวันต้องโทษที่เหลือคือประมาณ11เดือนและกรณีนักโทษคดีการเมืองจะมีข้อห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองด้วย และหากจะออกนอกพื้นที่กำหนดต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานคุมประพฤติก่อน


อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวอีกว่า ตามหลักเกณฑ์แล้ว การใส่กำไลอีเอ็มกรณีพักการลงโทษจะต้องใส่ตามวันต้องโทษที่เหลือ มีข้อห้ามห้ามออกจากพื้นที่อยู่อาศัย หากจะเดินทางข้ามจังหวัดต้องขออนุญาตเป็นกรณี และห้ามเดินทางด้วยการโดยสารเครื่องบิน ทั้งในและต่างประเทศ โดยหากมีเหตุต่อสุขภาพ จำเป็นต้องถอดกำไลก่อนเวลาสามารถเสนอต่อคณะอนุกรรมการพักการลงโทษ และหากเป็นผู้ประพฤติดี และมีเหตุจำเป็นเข้าระเบียบที่ทำได้ ก็เสนอขอถอดกำไลก่อนกำหนดได้แต่ต้องผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพักการลงโทษก่อน เช่น มีปัญหาสุขภาพ เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ต้องผ่าตัดจึงจะถอดเป็นการชั่วคราวได้

อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีผู้ถูกคุมประพฤติใส่กำไลอีเอ็มที่อยู่ในการตรวจจับความเคลื่อนไหวตลอดเวลา 5,787 คน โดยผู้ใส่กำไลนี้จะใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะกำไลน้ำหนักเบาเพียง 200 กรัม ใส่ที่ข้อเท้า กันน้ำทำให้ใส่อาบน้ำใช้ชีวิตได้ตามปกติ หากแบตเตอรี่ ใกล้หมดจะมีสัญญานเตือนต้องชาร์ตตามกำหนด และห้ามถอดโดยไม่อนุญาต

“การได้พักโทษแล้วใส่กำไลอีเอ็มคุมประพฤติแทน นี่ไม่ใช่สิทธิ แต่เป็นโอกาส ที่จะได้ออกจากเรือนจำมาใช้ชีวิตกับครอบค่ว และทำกิจกรรมทั่วไปได้ จึงควรปฏิบัติตามระเบียบ ไม่ฝ่าฝืน” อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าว และว่า หากใส่กำไลอีเอ็มแล้ว ฝ่าฝืนโดยไม่มีเหตุผลที่ชี้แจงได้ ก็จะต้องถูกถอดกำไลและส่งตัวเข้าคุมขังในเรือนจำตามกำหนดโทษเดิม


อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องโทษที่ได้รับการพักโทษใส่กำไลอีเอ็มรายสำคัญๆ ได้แก่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ได้ถอดกำไล โดยนายปลอดประสพใส่ครบตามกำหนด แต่นายยงยุทธมีการเสนอขอถอดกำไลก่อนกำหนด ตามคำยืนยันของแพทย์เนื่องจากปัญหาสุขภาพ

ส่วนคนที่ยังใส่กำไลอีเอ็มอยู่ได้แก่ นางเบญจา หลุยเจริญ คดีเลี่ยงภาษีตระกูลชินวัตร และนายสิทธิ ขำอาจ หรือจ่ามี คดีจ้างวานฆ่า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​ 

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ