ยันทุกจังหวัดปลอดภัยจากโควิด

สธ.16 ธ.ค.-สธ.ยืนยันทุกจังหวัดของไทยปลอดภัย ไม่พบการระบาดของโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อน ส่วน 7 จังหวัดที่พบผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับท่าขี้เหล็กเข้าสู่สถานการณ์ปกติ วันนี้ผู้ป่วยรายใหม่ 15 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้ารับการกักกันตามระบบ กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อคงที่ 7 ราย ผู้สัมผัสได้รับการกักตัวและตรวจหาเชื้อตามมาตรฐาน ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม


วันนี้ (16 ธ.ค.)ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) พร้อมด้วยนายแพทย์วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด- 19

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทยประจำวันที่ 16 ธันวาคม มีผู้ป่วยรายใหม่ 15 ราย หายป่วยเพิ่ม 28 ราย ผู้ป่วยสะสม 4,261 ราย หายป่วยสะสม 3,977 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 224 ราย และเสียชีวิตสะสม 60 ราย ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมดเดินทางมาจากต่างประเทศและเข้ารับการกักกันตามระบบ ได้แก่ เมียนมา 3 ราย เป็นหญิงไทย อาชีพพนักงานสถานบันเทิงทั้งหมด สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร และอินเดีย ประเทศละ 2 ราย ฮ่องกง ฮังการี ฝรั่งเศส บาห์เรน สหรัฐอเมริกา และบราซิล ประเทศละ 1 ราย แบ่งเป็นคนไทย 11 ราย คนต่างชาติ 4 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ 14 ราย ติดเชื้อมีอาการ 1 รายคือ เจ็บคอ


สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 กรณีท่าขี้เหล็กนั้น หากไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่หลังพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่รายสุดท้ายครบ 14 วัน จะถือว่ากลับสู่สถานการณ์ปกติ โดย จ.พะเยาและพิจิตร ครบกำหนดเข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้วเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม จ.เชียงรายและราชบุรีวันที่ 16 ธันวาคม จ.สิงห์บุรีวันที่ 18 ธันวาคม จ.เชียงใหม่ วันที่ 19 ธันวาคม และ กทม.วันที่ 20 ธันวาคม กรณีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด 19 จากการปฏิบัติงานภายในสถานกักกันโรคที่รัฐกำหนด (ASQ) จากการสำรวจสิ่งแวดล้อมใน ASQ พบว่า เจอสารพันธุกรรมของเชื้อโควิด 19 บนลูกบิดประตู จึงขอเน้นย้ำผู้ประกอบการต่างๆ ให้เน้นการทำความสะอาดบริเวณจุดสัมผัสร่วม


ทั้งนี้ สถานการณ์โรคโควิด 19 ทั่วโลกมีผู้ป่วยสะสม 73.8 ล้านราย วันนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5.87 แสนราย อาการรุนแรง 117,877 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1.2 หมื่นราย เสียชีวิตรวม 1.64 ล้านราย ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 17 ล้านราย อินเดีย 9.93 ล้านราย บราซิล 6.97 ล้านราย รัสเซีย 2.7 ล้านราย และฝรั่งเศส 2.39 ล้านราย ส่วนทวีปเอเชียมีหลายประเทศที่พบผู้ป่วยรายใหม่เกินหลักพันอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ อินโดนีเซีย 6,120 ราย ปากีสถาน 2,459 ราย ญี่ปุ่น 2,217 ราย บังกลาเทศ 1,877 ราย มาเลเซีย 1,772 ราย เมียนมา 1,155 ราย และฟิลิปปินส์ 1,135 ราย สำหรับประเทศไทยอันดับขยับลงมาที่ 152 ของโลก

นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ภาพรวมผู้ป่วยโรคโควิด-19 ของประเทศไทย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน ยังไม่มีติดเชื้อในประเทศเพิ่มเติม และไม่มีจังหวัดใดที่พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน ทุกพื้นที่มีความปลอดภัย ปีใหม่สามารถท่องเที่ยวและจัดกิจกรรมได้ แต่ขอให้คงมาตรการเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากาก และล้างมือ เพื่อป้องกันตนเองและสร้างความมั่นใจให้ประเทศไทยปลอดภัยจากโควิด-19


ส่วนผลการสอบสวนโรคกรณีที่เกี่ยวข้องกับ จ.ท่าขี้เหล็ก วันนี้มีรายงานเพิ่มเติม 3 ราย เป็นการตรวจพบในสถานกักกันโรคที่รัฐจัดให้ (Local Quarantine : LQ) จ.เชียงราย ทำให้ยอดสะสมกรณีนี้รวมเป็น 67 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อภายหลังเข้า LQ 48 ราย ลักลอบเข้ามา 17 ราย และติดเชื้อภายในประเทศ 2 ราย กระจายใน 7 จังหวัด อย่างไรก็ตาม เฉพาะ จ.เชียงราย มีผู้เดินทางกลับมาจากท่าขี้เหล็กเข้าสู่ระบบกักกัน 248 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 35 ราย รักษาหายแล้ว 20 ราย มีการค้นหาเชิงรุกเพิ่มเติมเพื่อสร้างความมั่นใจพื้นที่ โดยตรวจทางห้องปฏิบัติการ 26,360 ตัวอย่าง ไม่พบเชื้อทั้งหมด

“จังหวัดที่พบผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับท่าขี้เหล็ก ทั้ง 7 จังหวัด ภาพรวมนับว่าปลอดภัยแล้ว เนื่องจากการพบผู้รายใหม่เป็นการพบเฉพาะในระบบกักกัน โดยผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ดังนั้น คนเดินทางกลับมาจาก 7 จังหวัด ไม่ต้องกักตัว เนื่องจากไม่มีความเสี่ยง สามารถไปเรียนและทำงานได้ตามปกติ สำหรับโรงเรียนหรือสถานประกอบการบางแห่งที่ให้นักเรียน ครู หรือพนักงานที่กลับมาจากเชียงรายและเชียงใหม่กักตัว เป็นมาตรการที่เกินความจำเป็น จึงขอให้ทบทวนมาตรการดังกล่าว เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้มีคำแนะนำให้กักตัว หากมีข้อสงสัยโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422” นพ.วิชาญกล่าว

สำหรับกรณีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้มีผู้ป่วย 7 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม จากการสอบสวนโรคพบว่า เป็นการติดเชื้อจากการปฏิบัติงานใน ASQ ไม่ใช่ในโรงพยาบาล ข้อสันนิษฐาน คือ มีบุคลากร 1 คนที่ไปสัมผัสผู้เข้าพักที่มีเชื้อ และนำไปแพร่กระจายในกลุ่มเพื่อนใกล้ชิดที่คลุกคลีกันนอกเวลางาน ไม่ได้แพร่กระจายต่อให้บุคลากรทางการแพทย์กลุ่มอื่นและเจ้าหน้าที่ ASQ อื่นๆ ดังนั้น การระบาดจึงอยู่ในวงจำกัดและอยู่ในการควบคุมได้ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทุกรายได้รับการกักตัวและตรวจหาเชื้อ 3 ครั้งตามมาตรฐาน ขณะนี้ตรวจหาเชื้อแล้ว 2 ครั้ง ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม กรณีนี้นำไปสู่การทบทวนมาตรการสำหรับ ASQ โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้ตรวจสอบมาตรฐานและการบริหารจัดการของ ASQ อย่างเคร่งครัด และให้โรงพยาบาลเอกชนคู่สัญญาจะต้องจัดให้มีผู้รับผิดชอบด้านความปลอดภัยของบุคลากร (Safety officer) เตรียมความพร้อมอุปกรณ์และแนวทางการป้องกันควบคุมการติดเชื้อในระหว่างปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.-“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประเทศ มั่นใจชนะแน่ ไม่ต้องรบกวนให้ท่านช่วย ด้าน “จ๋า ธนนนท์” ภรรยา ขอสานฝันวัยเด็ก อยากเป็นนางงามขึ้นรถแห่ช่วยหาเสียง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากเสร็จสิ้นการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ ผู้สมัคร สส.ภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอภูสิงห์ อาทิ เทพารักษ์ ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ขอพรอะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นายอนุทิน เผยว่า ได้ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี จริงๆ ก็ขอแค่นี้ เมื่อถามว่าได้ขอพรให้ชนะเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายอนุทิน เผยด้วยความมั่นใจว่า ภูมิใจไทยชนะ ไม่รบกวนท่าน ไม่รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ขอให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขแค่นี้ ต่อมานายอนุทิน ได้เดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ ช่วยนางสาวจินณ์ตวรรณ […]

ทบ.ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC

กทม. 21 ก.ย.-กองทัพบก ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC พร้อมเรียกร้องกัมพูชาหยุดบิดเบือนความจริง และให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตไทยย้ายออกนอกพื้นที่ กรณีสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการชายแดนกัมพูชา แถลงการณ์เมื่อ 21 ก.ย. 68 ว่า “พบการเผยแพร่ข้อมูลผ่านบัญชี Facebook Page ชื่อ “Royal Thai Army: Update” เมื่อ 19 กันยายน 2568 โดยใช้แผนผังที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตำแหน่งหลักเขตแดน ซึ่งเป็นบันทึกการประชุมลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 (พ.ศ. 2560) และภาคผนวกของบันทึกการประชุมลงวันที่ 28 ธันวาคม 2016 (พ.ศ. 2559) ของคณะกรรมการรังวัดร่วมกัมพูชา–ไทย ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจหาตำแหน่งที่แท้จริงของหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข 43 ในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน โดยมีการบิดเบือนให้เข้าใจผิดไปว่า คณะผู้บริหารของสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการพรมแดน (ฯพณฯ ลาย เซียงลี) ได้ลงนามยอมรับเส้นเขตแดนอย่างเป็นทางการในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน ซึ่งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข […]

ยกอำนาจให้ทหารตัดสินใจ เปิดด่าน-สร้างรั้วชายแดน

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.- “อนุทิน” ยกอำนาจให้ “ทหาร” ตัดสินใจ ‘เปิดด่าน-สร้างรั้วชายแดน’ ลั่น ขอหนุนทหารปักธงไทยให้คนไทยชื่นใจ ส่วนรัฐบาลขอเดินหน้าการทูต ยันไม่มีใครล็อบบี้ได้ ส่วนการเจรจาจะทำหลังยุติเหตุก่อกวน จ่อคุมเข้มพื้นที่เพิ่มเติม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการปิดด่านและการสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย กัมพูชา โดยระบุว่า ได้ทำความเข้าใจกับการทหารแล้ว ว่าเมื่อตนได้เข้ารับตำแหน่งฝ่ายบริหารประเทศเมื่อไหร่ ก็จะให้ทหารได้ตัดสินใจเต็มที่ รัฐบาลที่กำลังเข้ามาจะให้การสนับสนุน เคารพการตัดสินใจของฝ่ายการทหาร ส่วนรัฐบาลจะทำเรื่องการทูต และเงื่อนไขที่ต้องเจรจาต่าง ๆ นายอนุทิน ย้ำว่า ต้องมีความชัดเจนว่าเราไม่ยอมรับเงื่อนไข แต่เขาต้องยอมรับเงื่อนไขเราเท่านั้น จึงจะดำเนินการเรื่องอื่นต่อไปได้ ตนอยากให้มีความชัดเจนในตรงนี้ เพราะที่ผ่านมามีการคาดคะเนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้นำต่างประเทศโทรมาล็อบบี้ตน “ ผมล็อบบี้ไม่ได้หรอกครับ ผมไม่มีใครมาล็อบบี้ได้ ผมต้องทำให้กับคนคนไทย ประเทศไทยเท่านั้น ไม่มีการต่อรองใด ๆ จนกว่าเขาจะรับเงื่อนไขที่เราตั้งไว้”นายอนถทิน กล่าว ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงการจัดการของรัฐบาล เนื่องจากยังมีอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินวนอยู่รอบภูมะเขือ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องการทหารขอให้ทหารตัดสินใจ อยากปักธงไทยตรงไหน ขอให้ไปปักให้คนไทยได้ชื่นใจ ในที่ที่เป็นของคนไทย […]

แก๊งค้ายาขนไอซ์ 450 กก. ซิ่งรถชนเกาะกลางถนน จ.อุดรธานี

อุดรธานี 21 ก.ย.-แก๊งยาเสพติดซิ่งรถยนต์ชนเกาะกลางถนน ในพื้นที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบถึงกับอึ้ง พบไอซ์ 450 กก. ซุกอยู่ในกระสอบหลังรถ ส่วนคนในรถอาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีไปได้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อคืนที่ผ่านมา 22.30 น. เจ้าหน้าที่รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักชนวงเวียนบ้านเหล่าอุดม ต.บ้านจันทน์ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ที่เกิดเหตุพบรถยนต์อเนกประสงค์ สภาพด้านหน้าพังยับเยิน และไม่พบตัวคนขับอยู่ในจุดเกิดเหตุ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจค้นภายในรถ ที่เบาะนั่งด้านหลัง ถึงกับอึ้ง เพราะพบกระสอบ 9 ใบ อัดแน่นอยู่ด้านหลัง ตรวจสอบภายในกระสอบ มีห่อพลาสติกใสและถุงสีฟ้าลายเสือดาวรวม 448 ห่อ น้ำหนักกว่า 448 กิโลกรัม ภายในห่อมีผลึกขาวใส ลักษณะผลึกคล้าย ไอซ์ นอกจากนี้ ยังพบบัตรประชาชน นายสุทธิโชค อายุ 17 ปี ชาว อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ตรวจสอบพบ มีประวัติคดียาเสพติด 3 คดี ส่วนทะเบียนรถ […]