ผลกระทบทางสังคมจากโควิด-19

กรุงเทพฯ 15 ธ.ค.-นักวิชาการศึกษาผลกระทบทางสังคมจากการระบาดของโควิด-19 พบผู้มีรายได้น้อยและคนจนได้รับผลกระทบมากที่สุด


ผศ.ดร.เสาวลักษม์ กิตติประภัสร์ และคณะ มหาวิทยาลัยรังสิต นำเสนอบทสรุปจากการศึกษาโครงการผลกระทบทางสังคมจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) และวิกฤติเศรษฐกิจ ต่อกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หลังสำรวจกลุ่มตัวอย่างในชุมชนแออัดชั้นในประมาณ 500คน ช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงกลางเดือนกันยายน พบว่าการระบาดของโควิด-19มีผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อยและคนจนมาก โดยเฉพาะในช่วงที่มีการปิดเมือง (lockdown) มากที่สุด แม้หลังมีการเปิดเมืองหรือคลายล็อกแล้ว ผลกระทบก็ยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการลดลงของรายได้ การตกเกณท์เป็นคนจนใหม่ การตกงาน การเป็นหนี้ ซึ่งตัวแปรต่างๆ ไม่มีแนวโน้มว่าจะเป็นไปเหมือนระดับเดิมก่อนมีการระบาดก่อนการล็อกดาวน์ได้

โดยการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจสังคมใน 3 ช่วงเวลา คือ 1)ก่อนมีการล็อกดาวน์ 2)ช่วงที่มีการล็อกดาวน์ และ3)ช่วงคลายล็อก ดังนี้ มีการเพิ่มขึ้นของคนจนใหม่จำนวนมากสะท้อนการลดลงของรายได้อย่างมากโดยช่วงล็อกดาวน์มีคนที่ตกเกณท์คนจนของกรุงเทพฯ(รายได้ต่ำกว่า 3,300 บาทต่อเดือน)ถึงร้อยละ 68.4 จากเดิมที่มีสัดส่วนคนจนต่ำกว่าเกณท์รายได้ที่ร้อยละ18.4 แม้หลังคลายล็อก สัดส่วนคนจนก็ยังสูงกว่าเดิม โดยอยู่ที่ ร้อยละ 43.2


รายได้เฉลี่ยต่อเดือนที่ 8,166.93 บาทก่อนมีล็อกดาวน์ ลดลงถึงร้อยละ60 (3,232.87 บาท) ในช่วงล็อกดาวน์เมื่อเทียบกับระดับในช่วงที่มีการคลายล็อกแล้วก็ยังลดลงถึงร้อยละ 36 (5,217.64 บาท)

ด้านรายจ่ายมีแนวโน้มในทิศทางเดียวกัน คือลดลงช่วงล็อกดาวน์มากกว่าช่วงหลังคลายล็อก แต่การลดลงของรายจ่ายน้อยกว่าการลดลงของรายได้ ทำให้สัดส่วนรายจ่ายต่อรายได้ของครัวเรือนสูงกว่าก่อนหน้าจะมีมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ทำให้ภาระหนี้ของครัวเรือนมีแนวโน้มสูงขึ้นแม้ว่าจะอยู่ในช่วงหลังการล็อกดาวน์แล้ว สวนทางกับการออมที่มีแนวโน้มติดลบมากขึ้น

กลุ่มที่มีระดับรายได้ต่ำสุด เช่นกลุ่มคนจนที่มีรายได้ต่ำกว่า 3,300 บาทต่อเดือน มีสัดส่วนรายจ่ายต่อรายได้ปัจจุบันถึง 1.68 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุด เมื่อเทียบกับกลุ่มระดับรายได้อื่น โดยสัดส่วนรายจ่ายต่อรายได้ของ ผู้มีรายได้ระดับ3,301-4,000 บาทอยู่ที่ 1.15 และผู้มีระดับรายได้ 4,001-7,000 บาท อยู่ที่ 0.94 และสัดส่วนนี้ลดลงเรื่อย ๆ เมื่อระดับรายได้สูงขึ้น แสดงให้เห็นว่า ยิ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อยเท่าไร สัดส่วนของรายจ่ายต่อรายได้ยิ่งสูงมาก เพราะรายได้ไม่เพียงพอ


สัดส่วนของหนี้ต่อรายได้จะยิ่งสูงขึ้นในกลุ่มคนที่มีระดับรายได้ที่ต่ำสุด(ที่ตกเกณท์ประมาณการเป็นคนจนใน กทม.คือน้อยกว่า3,300บาทต่อเดือน) ที่มีสัดส่วนหนี้ต่อรายได้สูงที่สุดถึง 0.74 ในปัจจุบัน แสดงว่ารายได้ประมาณ 3 ใน 4 ต้องนำไปใช้หนี้ โดยร้อยละ 53.6 ของกลุ่มตัวอย่างเป็นหนี้ในปัจจุบันและมีกลุ่มที่เริ่มเป็นหนี้ในช่วงล็อกดาวน์ร้อยละ6.8ที่มีขนาดของหนี้เฉลี่ย25,382บาท โดยคนส่วนใหญ่มีขนาดของหนี้ในระดับ 10,000 -100,000 บาท(ร้อยละ 38.6 รวมกลุ่มที่มีหนี้เก่า) และร้อยละ 12.8 มีขนาดของหนี้ ไม่เกิน 10,000 บาท

ด้านการประกอบอาชีพ ผู้ประกอบอาชีพ (ก่อนมีการระบาดโควิด) ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดตั้งแต่ช่วงล็อกดาวน์จนถึงปัจจุบันได้แก่ ลูกจ้างรายวันทั่วไป ผู้ค้าขายรายย่อย หาบเร่แผงลอย วินมอเตอร์ไซต์ เป็นกลุ่มที่มีการตกงานและรายได้ลดลงมากที่สุด

ด้านการเยียวยาของรัฐ ส่วนใหญ่ที่ได้รับเงินเยียวในโครงการ”เราไม่ทิ้งกัน”หรือโครงการช่วยเหลือ 3,000 บาท เห็นว่าช่วยได้ในระดับปานกลาง ส่วนใหญ่ใช้ภายใน1เดือน อย่างไรก็ตามเกือบ 1ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่างไม่ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาของรัฐ เนื่องจากมีปัญหาในการลงทะเบียนในโครงการฯมากที่สุด เพราะทำเองไม่เป็น ไม่มีอุปกรณ์และอินเทอร์เน็ตหรือเอกสารพิสูจน์สิทธิ์ไม่พร้อม ไม่มีบัตร หรืออ่านหนังสือไม่ออก ผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนได้มักจะให้ลูกหลานช่วยทำให้แทน

ส่วนประเภทความช่วยเหลือที่ต้องการมากที่สุด ได้แก่ เงินเยียวยา เพราะช่วยเรื่องค่าครองชีพและนำไปใช้ในสิ่งที่จำเป็นได้ง่าย รองลงมาคืออาหาร


ในเรื่องการปรับตัวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่ตอบว่าต้องประหยัด และพยายามพึ่งตนเองมากที่สุด บางคนขายสินทรัพย์ที่เคยใช้ในอาชีพเดิม คนที่รายได้ไม่พอจริงๆและไม่มีเงินออมเลยก็หาทางออกด้วยการกู้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้นอกระบบ รวมทั้งหนี้รายวัน ทำให้พอมีรายได้ก็ต้องนำไปจ่ายหนี้รายวันทำให้ยิ่งขาดแคลน บางคนอาศัยข้าววัดสำหรับอาหาร หลายคนปรับตัวด้วยการพยายามหางานทำเพิ่ม ทำนอกเวลา หรือทำงานใหม่ ไม่ว่าจะเป็นขายของที่บ้าน/ชุมชน รับจ้างทั่วไป มอเตอร์ไซต์รับจ้าง ฯลฯ และอยากได้ทักษะใหม่ เพื่อโอกาสในการทำงานใหม่ อาชีพใหม่ด้วย ซึ่งทักษะที่ต้องการ ได้แก่การค้าขายมากที่สุด รวมทั้งการขายของออนไลน์ การทำอาหาร ทำขนม เบเกอรี่

อย่างไรก็ดีมีไม่น้อยที่ต้องการความรู้ทางการเกษตรและการเกษตรผสมผสาน การทำสวน งานที่ต้องใช้ฝีมือเฉพาะด้านเช่น การดัดผม เสริมสวย งานตัดเย็บเสื้อผ้า นวดแผนไทย งานซักรีด งานฝีมือ เช่น ร้อยลูกปัด จักสาน รวมทั้งงานช่างต่างๆเช่น ช่างเชื่อมโลหะ ช่างไม้ ช่างหินขัด ช่างซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า การขับขี่มอเตอร์ไซค์ การขับรถยนต์ รถบดดิน และงานซ่อมรถ การทำความสะอาดสำนักงาน การเลี้ยงเด็ก ฯลฯ

สำหรับข้อเสนอแนะต่อมาตรการการคุ้มครองทางสังคมให้ครอบคลุมและมีหลายระดับ(ขั้นต่ำ กลาง สูง) ตั้งแต่การช่วยเหลือในภาวะวิกฤติแบบเป็น social safety nets ตลอดจนการพัฒนาขั้นพื้นฐานตามสิทธิของพลเมืองที่ควรได้รับและการพัฒนาศักยภาพยิ่งๆขึ้นไปตามความพร้อมของบุคคลเพื่อเป็นการพัฒนาสังคม
1.ด้านการช่วยเหลือเยียวยาให้ครอบคลุมทั่วถึงคนด้อยโอกาสที่ยังตกหล่นอยู่ในแต่ละชุมชน โดยอาจใช้กลไกการช่วยเหลือผ่านเครือข่ายมูลนิธิNGOs ที่ทำงานใกล้ชิดชุมชน และอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้เข้าถึงกลุ่มนี้มากขึ้น
2.การช่วยเหลือขั้นพื้นฐานตามสิทธิของพลเมืองที่ควรได้รับ ซึ่งรัฐได้ให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการต่างๆ อยู่แล้วถือเป็นการให้ตามมาตรฐานขั้นต่ำที่ช่วยในการยังชีพได้ แต่การจะพัฒนาคนมากไปกว่านั้น ต้องมีการเสริมทักษะในชีวิตที่ทำให้สามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้เองในระยะยาว
3.การเพิ่มศักยภาพคนและชุมชนตามความเหมาะสมและความพร้อม รัฐควรให้โอกาสส่งเสริมทักษะขั้นสูงขึ้นไปเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานในโลกสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดร็ว โดยเฉพาะในยุคหลังโควิด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต

ราชทัณฑ์ แจงชัดเหตุ “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำ

ราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณี “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม ด้าน จนท.พิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ธ.ก.ส. ออก “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” หนุนคนใกล้เกษียณทำเกษตร

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- ธ.ก.ส. เปิดตัว “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินทำการเกษตรคู่ขนาน รองรับการเข้าสู่ Aging Society สูงสุด 8 ล้านบาท ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ ส่งเสริมการดึงคนกลับเข้าสู่ภาคการเกษตร กรอบวงเงินรวม 3.75 หมื่นล้านบาท สานฝันบุคลากรภาครัฐและเอกชนที่มีรายได้ประจำอายุ 50 – 59 ปี สร้างรายได้คู่ขนานจากการทำการเกษตร และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าเกษตรไปสู่เกษตร มูลค่าสูง วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 8 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก MRR – 2 และปีที่ 6 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR แจ้งความประสงค์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ประจำเป็นรายเดือน สามารถวางแผนการสร้างรายได้คู่ขนานจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรืออาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรในวัยก่อนและหลังเกษียณ รองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เพิ่มการเกษตรที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม […]

ข่าวแนะนำ

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

ผลผ่าพิสูจน์ “ผกก.โจ้” ขาดอากาศหายใจ

ผลผ่าพิสูจน์ “ผกก.โจ้” ขาดอากาศหายใจ จากการทำร้ายตัวเอง ไม่พบรอยช้ำที่เนื้อเยื่อ และกล้ามเนื้อลำคอ ญาติพอใจ แต่ขอส่งศพผ่ารอบสองที่นิติเวช จุฬาฯ เปรียบเทียบผล ส่วนประเด็นผ้าที่ใช้ผูก เข้าได้กับรอยที่คอที่มีขนาดกว้างกว่าเชือก