สธ.ย้ำใส่หน้ากากถูกวิธีป้องกันโควิด

สธ.7 ธ.ค.-สธ.คาดผู้ติดเชื้อในประเทศหญิงสิงห์บุรีสาเหตุมาจากการใส่หน้ากากใต้ปากในที่ชุมชน ย้ำเตือนใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง ป้องกันโควิด -19 ส่วนข่าวลือผู้ป่วยชายไทยวัย 70 ปี ที่ รพ.แม่สอด ไม่ได้เสียชีวิต แต่อาการดีขึ้น ยันไทยมีเตียง ยา เวชภัณฑ์เพียงพอรองรับ ทั้งที่เชียงราย เชียงใหม่ ตาก ล่าสุดผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับ จ.ท่าขี้เหล็ก มี 38 ราย ติดเชื้อในประเทศ 2 ราย


วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป พร้อมนพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ และพลตรีจักรพงษ์ จันทร์เพ็งเพ็ญ ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการ กรมยุทธการทหารกองบัญชาการกองทัพไทย ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 มาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 บริเวณพื้นที่ด่านชายแดน และการรักษาผู้ป่วยโควิด- 19

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 534,677 ราย ผู้ติดเชื้อสะสมรวมเป็น 67,385,285 ราย เสียชีวิตรวม 1,541,638 ราย ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ยุโรป และบางประเทศในเอเชีย ประเทศไทยยังควบคุมได้ดี โดยสถานการณ์ของประเทศไทยวันนี้มีผู้ป่วยโควิด 19 รายใหม่จำนวน 21 ราย สัญชาติไทย 15 ราย และต่างชาติ 6 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้ารับการกักกันทั้งหมด คือ เมียนมา 9 ราย สหราชอาณาจักร 4 ราย สหรัฐอเมริกา 2 ราย สิงคโปร์ 2 ราย เอสโตเนีย อินเดีย เยอรมนี และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศละ 1 ราย


นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เกี่ยวข้องกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา อยู่ในระบบการควบคุมสอบสวนโรครวม 38 ราย โดย 20 รายเข้ามาตามระบบและตรวจพบในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (Local Quarantine) ลักลอบเข้าประเทศ 16 ราย และมีเพียง 2 รายติดเชื้อในประเทศ คือ ชายอายุ 28 ปีจ.เชียงราย และหญิงอายุ 51 ปี จ.สิงห์บุรี

เมื่อแบ่งตามรายจังหวัด เชียงใหม่ 5 ราย เชียงราย 26 ราย (รายเก่ามี 20 ราย ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมอีก 6 ราย เป็นเพศหญิงทั้งหมด รอตรวจสอบและแถลงโดยจังหวัด) กทม.3 ราย พิจิตร พะเยา ราชบุรี และสิงห์บุรี จังหวัดละ 1 ราย

ส่วนสาเหตุที่ผู้เดินทางกลับมาจากการทำงานในโรงแรม 1G1 จ.ท่าขี้เหล็ก เพราะมีการระบาดของโควิดและทางการปิดสถานบันเทิง ลักษณะสถานบันเทิงครบวงจร เป็นห้องแอร์อากาศปิด มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่สวมหน้ากาก ทำให้มีความเสี่ยงในการรับและแพร่เชื้อต่อสูง โดยมีคนไทยไปทำงานหลายร้อยคน เมื่อมีการปิดวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 พบการระบาดในพื้นที่ ทำให้พนักงานคนไทยได้ทยอยเดินทางกลับมา และพบบางคนติดเชื้อ ไม่แสดงอาการ


นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า ความคืบหน้าการสอบสวนการติดเชื้อภายใน ประเทศของหญิงอายุ51ปีจ.สิงห์บุรีนั้น เนื่องจากบนเครื่องบิน ผู้ป่วยรายนี้นั่งห่างจากผู้ป่วย จ.พิจิตร และกทม.8 แถว มีการใส่หน้ากากจึงไม่น่าเป็นสาเหตุของการรับเชื้อ และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง พบว่าทั้ง 3 รายมีการสวมหน้ากากไม่ถูกต้อง โดยใส่หน้ากากไว้ใต้จมูกและปาก ดังนั้น สถานที่รับเชื้อน่าจะเป็นพื้นที่นั่งรอก่อนขึ้นเครื่อง
ซึ่งสนามบินได้ปรับระบบทำความสะอาด และย้ำเตือนผู้โดยสารให้สวมหน้ากากให้ถูกต้อง ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม ตลอดเวลาที่อยู่ในสนามบิน

นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีความพร้อมดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 โดยกทม.และปริมณฑล รับผู้ติดเชื้อได้ 230-400 รายต่อวัน ทั้งประเทศรองรับได้ 1,000-1,700 รายต่อวัน มีเตียงสำหรับดูแลผู้ป่วยโควิดโดยเฉพาะมากกว่า 1 หมื่นเตียง ส่วนเหตุการณ์ชายแดนใน 3 จังหวัด คือ จ.เชียงราย โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์มีเตียงรองรับ 60เตียง ขณะนี้มีผู้ป่วย 26 ราย ยังรองรับได้ และเตรียมเตียงจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงอีก 300 เตียง, จ.เชียงใหม่ โรงพยาบาลนครพิงค์มี 51เตียงและโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยและเอกชนโดยรอบรองรับอีกกว่า120 เตียง และ อ.แม่สอด จ.ตาก โรงพยาบาลแม่สอด มี 120 เตียง

ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่รับมือได้ เช่น เดียวกับยา อุปกรณ์ เวชภัณฑ์หน้ากาก แอลกอฮอล์ล้างมือ บุคลากรทางการแพทย์ มีความพร้อมทั้งหมด สิ่งสำคัญคือขอให้ผู้ป่วยให้ประวัติที่แท้จริงจะช่วยให้วินิจฉัยรักษาได้รวดเร็ว เนื่องจากการปกปิดทำให้คนรอบข้าง ครอบครัว และบุคลากรทางการแพทย์มีความเสี่ยง และตรวจวินิจฉัยรักษาได้ล่าช้า สำหรับผู้ป่วยโควิด 19 เพศชายอายุ 70 ปี ที่โรงพยาบาลแม่สอดยังไม่เสียชีวิต ขณะนี้ยังใส่ท่อหายใจ ให้ยารักษา และรักษาแบบประคับประคอง ทำให้อาการดีขึ้น

พลตรี จักรพงษ์ จันทร์เพ็งเพ็ญ ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการ กรมยุทธการทหารกองบัญชาการกองทัพไทย ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) กล่าวว่า ศปม.ได้ร่วมกับตำรวจ พลเรือน อาสาสมัคร และฝ่ายปกครอง ปฏิบัติงานสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองในพื้นที่เมืองหน้าด่าน โดยพื้นที่ชายแดนมีระยะทางยาวมากกว่า 2,400 กิโลเมตร ได้มีมาตรการเพิ่มเติม เช่น ตรวจจับด้วยกล้องวงจรปิด โดรน กล้องยูวีของกองทัพอากาศ การวางเครื่องกีดขวาง เพื่อจำกัดและยับยั้งการลักลอบเข้าผิดกฎหมาย และร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านช่วยสกัดกั้นหรือส่งข่าวแจ้งเบาะแส เพื่อสกัดกั้นทันเวลา และวางจุดตรวจสกัดกั้นตามเส้นทางที่คาดว่าจะลักลอบเข้าเมือง รวมทั้งการตรวจสถานสถานประกอบการ โรงงานต่างๆขอความร่วมมือประชาชนหากพบเห็นการลักลอบเข้าเมือง แจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 1138, 1559 และ 191 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]