นายกฯ ปลื้ม พช.น้อมนำหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล

สมุทรสงคราม 2 ธ.ค. – นายกฯ ปลื้ม พช.น้อมนำหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล ตามภูมิสังคมต่อยอดความสำเร็จเชื่อมโยงท่องเที่ยวชุมชน สร้างรายได้สู่ชุมชน พร้อมชื่นชมและให้กำลังใจกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เน้นย้ำรวมไทยสร้างชาติไปด้วยกัน


วันนี้ (2 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการโดยตรวจเยี่ยมการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนริมคลองโฮมสเตย์ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์ฟื้นฟูมะพร้าวครบวงจร โดยมีนายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวรายงาน นางถิรดา เอกแก้วนำชัย ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนริมคลองโฮมสเตย์ และนางณภัทร จาตุรัส ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์ฟื้นฟูมะพร้าวครบวงจร กล่าวสรุปผลการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดยมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ ณ ชุมชนริมคลองโฮมสเตย์ หมู่ที่6 ตำบลบ้านปรก อำเภอเมืองสมุทรสงคราม และชุมชนอนุรักษ์ฟื้นฟูมะพร้าวครบวงจร หมู่ที่ 5 ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคนที่มาให้การต้อนรับในพื้นที่ ผมเดินเข้ามาในพื้นที่แล้วรู้สึกมีความสุขกับบรรยากาศบ้านสวนริมคลองและได้พบปะพี่น้องประชาชนและได้เห็นพี่น้องประชาชนในพื้นที่มีความสุข หลังจากผมได้รับฟังคำบรรยายและรายงานสรุปผลการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแล้วรู้สึกชื่นชมที่รู้จักการนำนโยบายของรัฐบาลมาขับเคลื่อนในพื้นที่ชุมชน เราต้องช่วยกันขับเคลื่อนรวมไทยสร้างชาติไปด้วยกัน พร้อมทั้งให้กำลังใจกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในการที่จะดำเนินกิจกรรมพื้นที่ชุมชนให้สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน และขอฝากส่วนงานราชการที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุนในส่วนมาตรฐานผลิตภัณฑ์น้ำตาลมะพร้าว (ไซรัป) พร้อมการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์น้ำตาลมะพร้าว นับเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนและผลิตภัณฑ์ OTOP ที่เป็นความภาคภูมิใจของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน สามารถนำไปสร้างรายได้ให้ชุมชน ให้จำหน่ายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อไป


จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เยี่ยมชมฐานเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง โคก หนอง นา โมเดล ของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย โดยมีพื้นที่จำนวน 6 ไร่ ซึ่งในปี 2563 ชุมชนได้เข้าร่วมโครงการเสริมสร้างและพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นโครงการที่ผู้นำชุมชนในการพัฒนาเป็นแกนหลักในการบริหารจัดการชุมชนให้เข้มแข็งตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และหลักทฤษฎีใหม่รูปแบบประยุกต์ “โคก หนอง นา โมเดล”

ทั้งนี้ ชุมชนได้รับการสนับสนุนวัสดุในการบริหารจัดการมาทำกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ดังนี้ 1.คันนาทองคำ การปลูกข้าวในร่องสวน 2.แซนวิชปลา 3.การจัดการระบบน้ำ ฝายกั้นน้ำ 4.ทำปุ๋ยอินทรีย์ 5.ผักสวนครัวปลอดสาร 6.ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง โดยกิจกรรมต่างๆ ดังกล่าวจะเชื่อมโยงนำไปสู่การท่องเที่ยวชุมชนแห่งนี้ เพื่อเป็นการสร้างอาชีพสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวให้กับชุมชน

หลังจากนั้นได้ไปเยี่ยมชมฐานกิจกรรมต่างๆ เช่น ฐานสานใบมะพร้าว ฐานนวดสปาเท้าแบบย่ำเกลือ ฐานทำผ้ามัดย้อมจากเปลือกมะพร้าว ฐานเรียนรู้การทำขนมไทย กิจกรรมการส่งเสริมการใช้ภาชนะจากวัสดุธรรมชาติ เยี่ยมชมหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” พ.ศ.2553 ชมผลการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน อนุรักษ์ฟื้นฟูมะพร้าวครบวงจร โดยเยี่ยมชมการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์ฟื้นฟูมะพร้าวครบวงจร เช่น การส่งเสริมอาชีพบ้านคลองวัว กลุ่มแปรรูปกล้วย มุก-หอม กลุ่มน้ำมันมะพร้าวสกัดร้อน กลุ่มสัมมาชีพผึ้งจิ๋ว (ชันโรง) กลุ่มเย็บกระทงใบตองแห้ง ฐานเรียนรู้ ว่าวจุฬา รวมทั้งกิจกรรมการประชาสัมพันธ์สื่อสารข้อมูลกับประชาชนในพื้นที่ โดยนำข่าวสารทางราชการมาสื่อสารให้กับประชาชนได้รับรู้ผ่านทางช่องทางหอกระจายข่าวบ้านคลองวัวและการทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์และการดูแลหอกระจายข่าวในพื้นที่อีกด้วย


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า “โคก หนอง นา โมเดล” เป็นการประยุกต์ทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ให้เหมาะกับสภาพพื้นที่ตามภูมิสังคม เป็นการน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นการสืบสาน รักษาและต่อยอด ซึ่งพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ไปสู่การปฏิบัติโดยทฤษฎีใหม่ หากเราน้อมนำเอาหลักการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่มาประยุกต์สู่ โคก หนอง นา จะสามารถดำรงชีวิตได้อยู่รอด กรมการพัฒนาชุมชนนอกเหนือจากขับเคลื่อนในการน้อมนำแนวพระราชดำริมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนแล้ว เรื่องอื่น ๆ ก็ดำเนินการควบคู่ไปด้วยเช่นกัน เช่น เรื่องการรณรงค์ผ้าไทย การลดรายจ่ายด้วยการปลูกพืชผักสวนครัวมีอาหารปลอดภัยรับประทานในครัวเรือนอีกด้วย

กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้รับการอนุมัติงบประมาณจากรัฐบาล จำนวน 4,700 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคกหนองนาโมเดล ใน 73 จังหวัด 25,179 ครัวเรือน ยังมีงบประมาณที่จะดำเนินการในปี 2564 ให้กับ 14,000 กว่าครัวเรือน และในปีงบประมาณ 2563 ที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้วใน 1,500 ครัวเรือน พัฒนาศูนย์เรียนรู้อีก 33 ศูนย์เรียนรู้ ได้ผลดีมาก งบประมาณทั้งหลายจะกระจายไปสู่ท้องถิ่น เพราะประกอบด้วยการฝึกอบรมสร้างความเข้าใจ ให้สามารถปฏิบัติได้จริง เข้าใจเหตุและผลของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและหลักทฤษฎีใหม่

นายสุทธิพงษ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการพัฒนาชุมชนได้ขับเคลื่อนบริหารจัดการให้ชุมชนมีความเข้มแข็งตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมต่อยอดความสำเร็จโดยการเชื่อมโยงพื้นที่ชุมชน ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์ โคก หนอง นา โมเดล กับการท่องเที่ยวชุมชนต่างๆ เช่น การจัดกิจกรรมเกมตามหาRC ในลักษณะกิจกรรม Walk rally แข่งขันเก็บวัตถุดิบแต่ละชนิดในพื้นที่แปลง โคก หนอง นา เพื่อนำมาประกอบเป็นอาหารพื้นถิ่น เป็นต้น ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในชุมชนได้สัมผัสธรรมชาติ เรียนรู้การประกอบอาหารพื้นถิ่นพร้อมได้เรียนรู้หลักการดำเนินงานในการใช้ชีวิตแบบพอเพียงรู้จักการจัดการพื้นที่ซึ่งเหมาะสมกับพื้นที่การเกษตร ซึ่งได้ผสมผสานหลักทฤษฎีใหม่เข้ากับภูมิปัญญาในพื้นที่ของชุมชนอย่างสอดคล้องกับธรรมชาติในพื้นที่นั้นๆ เป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวพร้อมทั้งได้เรียนรู้วิถีความพอเพียง สามารถสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้ชุมชนเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้น หลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์ สู่ โคก หนอง นา โมเดล จึงเป็นการที่ให้ธรรมชาติจัดการตัวเองโดยมีประชาชนทุกคนเป็นส่วนที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้บรรลุผลสำเร็จเร็วยิ่งขึ้นอย่างเป็นระบบต่อไป อธิบดี พช. กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเล็ก” ชี้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นถือว่าดีมากแล้ว เรื่องกับระเบิด จะคุยจนกว่ายอมรับ

ทำเนียบ 8 ส.ค.-“บิ๊กเล็ก” มอบความสำเร็จให้ทีมเจรจา GBC พร้อมขอบคุณประชาชน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาที่อดทน ให้ผู้ว่าฯ ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงอนุญาตประชาชนกลับบ้าน ชี้กัมพูชาเมินข้อตกลงเก็บกู้ระเบิด เพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกันกำลังตนเอง ย้ำจะนำไปคุยใน GBC และจนกว่าจะยอมรับ จ่อตั้งทีมที่ปรึกษาส่วนตัวดูข้อกฎหมายรอบด้าน พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำผลสำเร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย – กัมพูชา หรือ GBC ว่า ขอบคุณทีมคณะเลขานุการ GBC ดำเนินการพูดคุยจนบรรลุข้อตกลง 13 ประเด็น โดยผลสำเร็จที่สำคัญ คือ เป็นการตกลงแบบทวิภาคี ระหว่างไทย – กัมพูชา ซึ่งอาเซียนได้ปล่อยให้ทั้งสองประเทศพูดคุยกัน โดยไม่เข้ามาแทรกแซง ทำหน้าที่เพียงเป็นผู้สังเกตการณ์ ขณะที่ในการพูดคุยมีผู้สังเกตการณ์จากสหรัฐสหรัฐอเมริกา และจีน ก็ได้ปล่อยให้อาเซียนบริหารจัดการกันเอง โดยไม่เข้ามาแทรกแซงเช่นกัน ถือว่าได้รับคำมั่นจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และมาเลเซียก็ตอบรับคำขอไทย ที่พยายามจะรักษาการพูดคุยระหว่างสองประเทศ เพื่อให้กลไกทวิภาคีดำเนินการต่อไปได้ และสิ่งที่ไทยประสบผลสำเร็จอีกหนึ่งประการ คือ เป็นอีกครั้งที่กัมพูชายอมพูดคุยทวิภาคี หลังจากที่ปฏิเสธมาตลอด ส่วนการจะเชื่อใจกัมพูชาได้อย่างไรนั้น พลเอกณัฐพล ย้ำว่า จะใช้แนวทางเดิม […]

ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา

ทำเนียบ 8 ส.ค.-ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา ปะทะ “พลโทหญิงมาลี” มั่นใจสวยกว่าการันตีตำแหน่งนางสาวไทย เจ้าตัวลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์ พร้อมยืนยันเคียงข้างประชาชน ให้ข้อเท็จจริง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดตัวโฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาคนใหม่ คือ นางสาวปนัดดา วงษ์ผู้ดี เพื่อทำหน้าที่ปะทะกับพลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ซึ่งอย่างน้อยสิ่งที่เราได้เปรียบ ที่ตนเองมั่นใจ คือ ความสวย ที่สวยกว่าแน่นอน เพราะโฆษก ศบ.ทก.เป็นนางสาวไทย แต่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาไม่ใช่นางสาวกัมพูชา ซึ่งการทำงานของนางสาวปนัดดา เนื่องจากมีงานมากมาย ปัจจุบันทำงานอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ให้นางสาวปนัดดาช่วยตอบโต้ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งตนเองและทีมงานจะสนับสนุนข้อมูลในการแถลงข่าว ด้าน นางสาวปนัดดา ระบุว่า ที่ตกลงมาทำหน้าที่โฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาในครั้งนี้ เป็นเพราะตนเองอยู่ในพื้นที่มานานและเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เห็นความอดทนของทหาร ในฐานะที่เป็นจิตอาสา จึงอยากเป็นสื่อกลางที่ชัดเจน ที่สามารถคุยกับสื่อมวลชนและประชาชน รวมถึงฝ่ายทหารให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริง และบอกกับต่างชาติว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยของเราบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางทหารได้มีการประชุมกัน […]

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]