หนุนนักท่องเที่ยวแบบเอ็กซ์แพทเที่ยวไทย

กรุงเทพฯ 29 พ.ย.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำสื่อมวลชน สำรวจความพร้อมการส่งเสริมการท่องเที่ยว ในนักท่องเที่ยวกลุ่มเอ็กซ์แพท (Expat) หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ


นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำสื่อมวลชน ดูความพร้อมการส่งเสริมการท่องเที่ยว ในกลุ่มนักท่องเที่ยว แบบเอ็กซ์แพท และเยี่ยมชมศตวรรษสยาม พิพิธภัณฑ์แหล่งสะสมของเก่าย้อนยุคหายาก จำลองสถานที่ในอดีต ไม่ว่าจะเป็น ร้านโชห่วย ร้านตัดผม ร้านตัดเสื้อ ร้านขายยาสมัยโบราณ รวมถึงห้องสมุด และของสะสม ทั้งโปสเตอร์หนัง และของเล่นในอดีต ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบเชิงอนุรักษ์ ที่สะท้อนเรื่องราวในอดีต ผ่านสิ่งของเครื่องใช้ ทำให้เข้าใจวิถีชีวิตของผู้คน เชื่อว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวแบบครอบครัว หรือผู้สูงอายุน่าจะให้การตอบรับอย่างดี รวมไปถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ

พร้อมกันนี้ยังกล่าวว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจ และรายได้ หยุดชะงัก สถานที่ท่องเที่ยวของไทยหลายพื้นที่ ค่อนข้างเงียบเหงา มีเพียงนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้าไทยจะทำได้จริงในไตรมาส 1 หรือช่วงฤดูร้อนในหลายประเทศ เพราะขณะนี้ หลายประเทศส่วนใหญ่ อยู่ในฤดูหนาว และมีแนวโน้มผู้ป่วยโควิด-19 กลับมาเพิ่มขึ้น จึงยังไม่อนุญาตให้ประชากรในประเทศของตนเองเดินทางท่องเที่ยว แม้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศของตนเองจะมีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้ต้องชะลอการเดินทางไปก่อน


ซึ่งระหว่างนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงคิดแผนกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยว ในกลุ่มคนต่างชาติ ที่ตกค้างในไทย หรือกลุ่มต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย รวมถึงกลุ่มทูต อุปทูต ประมาณ 2,000 คน กว่า 50 สัญชาติ ให้ได้เที่ยวไทย ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ซบเซา ทางหนึ่งช่วยเรื่องของการโปรโมทการท่องเที่ยวไทย ว่าขณะนี้ไทยได้ดูแลชาวต่างชาติที่ตกค้างในไทยเป็นอย่างดี อีกช่องทางหนึ่ง ก็เป็นการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์อันดีของไทย และความพร้อมด้านการท่องเที่ยว เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ อีกทั้งพื้นที่จัดการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวรูปแบบนี้ เน้นในพื้นที่ที่อดีตมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี อดีตมีนักท่องเที่ยวเดินทั้งชาวไทยและต่างชาติทางมาเที่ยวเฉลี่ยปีละ 2.2 ล้านคน สร้างรายได้ให้ชุมชน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม