ตำรวจร่วมลดความเสี่ยง คุกคามทางเพศในคนพิการ

จ.สมุทรสงคราม 29 พ.ย..- ตำรวจร่วมลดความเสี่ยงคุกคามทางเพศในคนพิการ จับมือ สสส.ภาคีเครือข่าย รณรงค์เนื่องในเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ชู“อัมพวาโมเดล” เดินหน้าทำงานเชิงป้องกัน


ในการเสวนาหัวข้อ “รวมพลังปกป้องคนพิการจากความรุนแรงและปัจจัยเสี่ยงทางสังคม” หนึ่งในกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ภายใต้แนวคิด “ปลุกพลังสังคม ปกป้องคนพิการจากความรุนแรง และปัจจัยเสี่ยงทางสังคม” จัดโดย คณะทำงานอัมพวาโมเดล สถานีตำรวจภูธรอัมพวา ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล

พ.ต.อ.เผด็จ ภู่บุปผากาญจน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอัมพวา กล่าวว่า ภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาคนพิการจากความรุนแรงและปัจจัยเสี่ยงทางสังคม มีอัมพวาโมเดล ซึ่งเป็นการทำงานในชิงรุก เป็นการป้องกันก่อนที่จะเกิดเหตุ โดยมีกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มเด็กพิเศษ 2. กลุ่มเด็กทั่วไปที่มีโอกาสจะถูกคุกคามในรูปแบบต่างๆ 3. กลุ่มเด็กที่มีความเสี่ยงที่จะก่ออาชญากรรม และ 4.กลุ่มที่มีความรุนแรงในครอบครัว เป้าหมายในการทำงานคือ ต้องยุติความรุนแรงในทุกรูปแบบ โดย
จะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มาร่วมประชุมทำความเข้าใจในบทบาทของหน่วยงานตนเอง เช่น เคสเด็กพิเศษที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทีมงานจะเข้าไปดูว่า บ้านมีความมั่นคง ปลอดภัยหรือไม่ คนในบ้านต้องการอะไร ซึ่งทุกหน่วยงานจะเข้าไปช่วยเหลือในทุกมิติ เช่นสาธารณสุขจะดูเรื่องสุขภาพ พม.จะดูเรื่องสิทธิและสวัสดิการ ส่วนตำรวจจะเน้นหนักไปที่การป้องกันทำงานเชิงรุกมากกว่า ที่จะทำหลังเกิดเหตุไปแล้ว


นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า กิจกรรมรณรงค์ครั้งนี้ ต้องการปลุกพลังสังคมให้เห็นความสำคัญ และมีส่วนร่วมป้องกันแก้ปัญหาความรุนแรง การถูกคุกคามทางเพศ และปัจจัยเสี่ยงทางสังคม โดยเฉพาะปัจจัยกระตุ้นจากยาเสพติด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ส่งผลกระทบร้ายแรง เป็นต้นเหตุของทุกปัญหา ยิ่งในกลุ่มเปราะบางที่เป็นคนพิการยิ่งน่าเป็นห่วง

ด้านนายชูวิทย์ จันทรส เลขาธิการมูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว กล่าวว่า ที่ผ่านมามูลนิธิฯได้ร่วมกับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศที่เป็นคนพิการหลายกรณี ส่วนใหญ่ พิการทางสติปัญญา บกพร่องทางด้านร่างกาย รวมถึงบางรายพิการซ้ำซ้อน โดยผู้กระทำเป็นญาติ คนใกล้ตัวหรือคนข้างบ้าน เช่น พ่อเลี้ยง พี่ชาย ที่ผ่านมา ยังพบประเด็นช่องว่างในกระบวนการยุติธรรมหลายประการ ที่ต้องเร่งแก้ไขอย่างจริงจังต่อไป และจากการที่มูลนิธิฯได้ร่วมเป็นหนึ่งในคณะทำงานอัมพวาโมเดล ได้ร่วมกันเข้าไปให้ความช่วยเหลือเด็กพิการช่วงสามเดือนที่ผ่านมา พบการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นกับเด็กและครอบครัวอย่างเห็นได้ชัด หน่วยงานต่างๆได้เข้ามาบูรณาการทำงานร่วมกันตามอำนาจหน้าที่ มีการติดตามต่อเนื่อง ถือเป็นการทำงานเชิงป้องกันที่น่าสนใจ ซึ่งต้องขอบคุณ ผู้กำกับ สภ.อัมพวา ที่เป็นแกนกลางชักชวนให้ทุกฝ่ายมาร่วมกันสะท้อนปัญหาและวางแผนการทำงานร่วมกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อตัวเด็กและครอบครัว ไม่ใช่แค่รอไปจัดการปัญหาที่ปลายเหตุ

นางเอ (นามสมมติ) ญาติเหยื่อพิการที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ กล่าวว่า หลานสาวอายุ 17 ปี ซึ่งเป็นเด็กพิการถูกข่มขืนจนตั้งครรภ์ หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความและขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล จนสามารถจับผู้ก่อเหตุมารับโทษได้ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับครอบครัวใคร ไม่ว่าคนปกติ คนพิการ เราก็ไม่มีสิทธิไปทำร้าย ล่วงละเมิดทางเพศเขา และตนขอเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียง รณรงค์สร้างความตระหนักให้สังคมหยุดความรุนแรง และการได้มาเห็นการทำงานเชิงรุก ป้องกันก่อนเกิดปัญหาแบบที่อัมพวา ทำให้รู้สึกมีความหวังและอยากให้เรื่องดีๆแบบนี้ไปเกิดในพื้นที่ชุมชนของตัวเองบ้าง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

กทม. 16 ส.ค.-กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเสียหายการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย โดยมีคณะทูตและผู้แทน จำนวน 36 คน แบ่งเป็น 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางกระทรวการต่างประเทศได้บรรยายข้อมูลเบื้องต้นให้คณะได้รับทราบ โดยนายมาริษ กล่าวกับคณะทูต ว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง และหวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลด้วยตาตัวเองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางออกไปยัง จ.ศรีสะเกษ โดยจุดแรกจะนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนขึ้นไปภูมะเขือ และฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุนระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ภูมะเขือ สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย

ไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ฝนตกหนักบางแห่ง เตือน 6 จว.ระวังน้ำท่วม

กทม. 16 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง เตือน จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนล่าง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ […]

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย