ตรวจพบโควิด-19 รายใหม่ไม่น่ากังวล

สธ.26 พ.ย.- ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป เผยตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่กลับมาจากต่างประเทศวันนี้ 16 ราย ไม่น่ากังวลหรือตื่นตระหนก แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีระบบตรวจ เฝ้าระวังกักกันโรคที่เข้มแข็ง


รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 ว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16 ราย ทุกรายเป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ ตรวจพบที่ด่านควบคุมโรคเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังอาการ 1 ราย เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ 13 ราย เข้ากักตัวในสถานที่รัฐกำหนด 1 ราย และโรงพยาบาลทางเลือก 1 ราย มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 8 ราย ทำให้ผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,788 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 96.09 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 94 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 2.38 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 60 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,942 ราย

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ ชาวไทย 15 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา 1 ราย , สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย, คูเวต 1 ราย, กาตาร์ 1 ราย, สวีเดน 1 ราย, ตุรกี 9 ราย และสวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย ในจำนวนนี้เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) 13 ราย , ในสถานกักตัวที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine) 1ราย ส่วนใหญ่ตรวจพบเชื้อไม่แสดงอาการ และพบจากการคัดกรองที่ด่านควบคุมโรคท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค (PUI) 1ราย ทุกรายส่งต่อรักษาในโรงพยาบาลตามระบบ


ชาวต่างชาติ 1 ราย เดินทางมาจากประเทศคูเวต เข้ากักตัวในโรงพยาบาลทางเลือก(Alternative Hospital Quarantine) ตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติ การ ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ารักษาในโรงพยาบาลเอกชนที่กักตัวตามระบบ

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ พบว่ามีผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศจำนวนมาก ชี้ให้เห็นว่าหลายประเทศในโลกยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง การที่กระทรวงสาธารณสุขตรวจพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่เดินทางเข้าประเทศไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลหรือให้ประชาชนตื่นตระหนก แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีระบบตรวจจับ เฝ้าระวังกักกันโรคที่เข้มแข็ง สามารถพบผู้ติดเชื้อได้ไว ป้องกันการนำเชื้อจากต่างประเทศมาแพร่ให้กับคนในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตามองค์การอนามัยโลกได้ระบุว่ากว่าร้อยละ 50 ของผู้ติดเชื้อเป็นผู้ที่ไม่แสดงอาการ และจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับรายงานนั้นมีความเป็นไปได้ว่าอาจน้อยกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจริงอยู่มาก เนื่องจากบางรายไม่แสดงอาการหรือไม่ได้เข้าสู่ระบบการรักษา ดังนั้น ขอความร่วมมือให้ทุกคนไม่ประมาท ป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าทุกครั้งที่อยู่ในที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆรักษาระยะห่างเท่าที่ทำได้ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด และลงทะเบียนเข้า-ออก สถานที่ผ่าน “ไทยชนะ” ทุกครั้ง เพราะเมื่อหากพบผู้ติดเชื้อจะง่ายต่อการติดตามผู้สัมผัสเข้าสู่ระบบการเฝ้าระวังโรค


นอกจากนี้ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ทำให้อากาศเย็นและชื้น เชื้อไวรัสมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น อาจป่วยด้วยโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจได้ง่าย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสและมักจะมีอาการป่วยใกล้เคียงกับโรคโควิด-19 ขอให้ทุกคนเฝ้าระวังสังเกตอาการป่วยของตนเองและคนรอบข้างอยู่เสมอ หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีอาการระบบทางเดินหายใจ และอาการสำคัญคือ “จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส” ภายหลังจากเดินทางไปในที่ชุมชน สถานที่แออัด ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทักษิณเหยียดผิว

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน ชี้เสี่ยงทำประเทศไทยถูกนานาชาติตั้งคำถาม ขัดหลักการสิทธิมนุษยชน

ข่าวแนะนำ

จนท.นำตัว “ซิงซิง” ถึง กทม.แล้ว ขอบคุณรัฐบาลไทยช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่นำตัว “ซิงซิง” ดาราหนุ่มจีน วัย 32 ปี เดินทางถึงกองบินตำรวจ 3 ย่านดอนเมือง หลังพบตัวที่ฝั่งเมียนมา เจ้าตัวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่าปลอดภัยดี เผยรอยที่ขาคือปาน ไม่ใช่แผลจากการถูกทำร้าย

ยิงกระสุนยางสยบชายคลั่งทำร้ายภรรยา-จับลูก 5 ขวบ ขังในบ้าน

ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง สยบชายคลั่งซ้อมภรรยา และจับลูกวัย 5 ขวบ เป็นตัวประกันขังไว้ในบ้าน ขู่ตัดสายแก๊สฆ่ายกครัว

รับตัว “ซิงซิง” จากเมียนมากลับฝั่งไทยแล้ว

เจ้าหน้าที่รับตัว “ซิงซิง” นักแสดงจีน จากเมียนมาข้ามมาฝั่งไทยแล้ว หลังหายตัวลึกลับจนญาติแจ้งความที่จีน พบโผล่ที่ไทยและข้ามแดนไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษในเมียนมา ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำจุดประสงค์การข้ามแดน หลังไม่พบข้อบ่งชี้ถูกบังคับ โดยเจ้าตัวจ้างแท็กซี่จากสนามบินไปชายแดน อ.แม่สอด ด้วยตนเอง

พระราชพิธีสมมงคล

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้ ทั่วประเทศ พร้อมเลื่อนประชุม ครม. สัปดาห์หน้า เป็นวันจันทร์ที่ 13 ม.ค. แทน