ศาลายา 23 พ.ย.-ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ผนึกเอกชน ขยายบริการด้านการรักษา เพิ่มการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ ครอบคลุมผู้ป่วยทุกกลุ่ม ตั้งเป้าให้เป็นโรงพยาบาลและโรงเรียนแพทย์
ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ผนึกภาคเอกชน แถลงข่าว “หนึ่งศรัทธา สู่ลานการเกื้อกูล” ขยายบริการด้านการรักษา โดยนำเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยมาใช้ในการรักษาเพื่อเพิ่มการเข้าให้บริการกับผู้ป่วย ลดภาระงานโรงพยาบาลขนาดใหญ่ลดความแออัด พร้อมตั้งเป้าให้เป็นโรงเรียนแพทย์ ของมหาวิทยาลัยมหิดล
รศ.นพ.ธีระ กลลดาเรืองไกร ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก กล่าวว่า ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกสามารถรองรับผู้ป่วยราว 350,000 คนต่อปี ส่วนใหญ่เข้ารับการรักษาด้านกระดูกและเวชศาสตร์ฟื้นฟู ขณะที่ปัจจุบันมีผู้ป่วยกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า50ปีขึ้นไปเข้ารับการรักษามากขึ้น นำมาซึ่งการเปิดศูนย์บริการทางการแพทย์ใหม่ 9 ศูนย์ อาทิ “ศูนย์ล้างไต” ซึ่งจะเปิดบริการ 48 เตียง รักษาได้ 3 รอบต่อวัน สามารถดูแลคนไข้ได้ประมาณ 120 คนต่อวัน ถือเป็นการเข้าถึงการรักษาที่รวดเร็วรองรับผู้ป่วยจำนวนมากได้ “ศูนย์ตรวจการนอนหลับ” รองรับได้ 3 เตียงต่อคืน ไม่รวมการตรวจในช่วงกลางวันมากกว่า 10 คนต่อวัน ซึ่งที่ผ่านมา พบว่าตามโรงพยาบาลขนาดใหญ่ผู้ป่วยต้องรอคิวนานเป็นปี
ขณะที่การตรวจรักษาสำหรับโรงพยาบาลเอกชนมีราคาแพง ดังนั้น ศูนย์ดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ผู้ป่วยสามารถรักษาได้และการเพิ่มเครื่อง “ออกซิเจนความดันสูงบำบัด” ให้มีจำนวนรวม 4 เครื่อง เพิ่มความสามารถในการดูแลผู้ป่วย โดยเครื่องออกซิเจนความดันสูงบำบัด 1 เครื่อง สามารถใช้ได้ 6 คนต่อวัน ดังนั้นหากมีทั้งหมด 4 เครื่อง จะสามารถดูแลผู้ป่วยได้ถึง 24 คนต่อวัน ซึ่งมีประโยชน์กับผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน และมีปัญหาการขาดเลือดไปเลี้ยงตามอวัยวะปลายทางต่างๆ, ผู้ป่วยที่ขาดออกซิเจน, ตาบอดเฉียบพลัน, หูดับเฉียบพลันซึ่งอันตรายต้องรีบรักษา, ผู้ป่วยที่ขาดออกซิเจนจากการได้รับแก๊สพิษ และผู้ป่วยที่มีแผลตามร่างกายจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
โดยในปี 2564-2565 ทางศูนย์ฯวางแผนเปิดคลินิกให้บริการด้านสูตินรีเวช เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ป่วยเด็ก,กลุ่มผู้ป่วยวัยเจริญพันธุ์และบริการด้านศัลยกรรมทั่วไปให้มากขึ้น ตอบโจทย์การรักษาแบบครบวงจรทุกช่วงอายุ ตั้งเป้าขยายงานบริการด้านการแพทย์ให้สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 700,000 คนต่อปี พร้อมเดินหน้าสนับสนุนศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ให้เป็นโรงพยาบาลที่ศึกษาของนักศึกษาแพทย์ ทั้งแพทย์ประจำบ้าน และแพทย์ต่อยอดด้านต่างๆ สำหรับคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอื่นๆ ให้สามารถมาฝึกวิชาได้ในอนาคต รวมถึง มีแผนลงทุนในการสร้างหน่วยให้เคมีบำบัด หน่วยวันเดย์ทรีตเม้นท์ หรือ “คีโมเทอราปี” (Chemotherapy) เนื่องจากพบว่า ผู้ป่วยบางรายไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล แต่จำเป็นต้องได้รับยาด้วยทีมพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญ
“การใช้รังสีในการรักษา ปัจจุบันมีการติดตั้งเครื่องฉายรังสีจำนวนไม่มาก ขณะเดียวกันการวินิจฉัยแล้วพบว่าผู้ป่วยมีก้อนเนื้อที่สามารถผ่าตัดได้ และหลังผ่าตัดจำเป็นต้องได้รับการฉายแสง หรือ พบว่า มีก้อนเนื้อ แต่ไม่สามารถผ่าตัดได้จะต้องได้รับการฉายแสงอย่างเร่งด่วน แต่ปัญหาคือ ผู้ป่วยต้องรอคิวฉายแสงรักษามะเร็งเป็นเวลานาน ดังนั้น การสร้างหน่วยวันเดย์ทรีตเม้นท์ จะสามารถตอบสนองการรักษา โดยเฉพาะเตรียมพร้อมรับมือผู้ป่วยกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งพบว่ามีภาวะเป็นมะเร็งหรือเนื้องอกมากขึ้นในอนาคต”
นอกจากนี้ยังตั้งเป้าสร้าง “ศูนย์อุบัติเหตุ”เพื่อรองรับการเรียนการสอนและดูแลผู้ป่วยอุบัติเหตุในพื้นที่ช่วงรอยต่อระหว่าง จ.นครปฐม และ กทม. รวมถึงรับส่งต่อผู้ป่วยจากภาคใต้ตอนบน โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างทีมแพทย์ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก กับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ในการดูแลปัญหาอุบัติเหตุ รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยไฟไหม้ คาดว่าจะเกิดขึ้นระยะ 1-2 ปีนี้.-สำนักข่าวไทย