กทม. 15 พ.ย.-ตลาดวังหลังคึกคัก ประชาชนแห่ใช้สิทธิ “คนละครึ่ง” ซื้อของกิน-ของใช้ แม่ค้าที่เข้าร่วมโครงการ ยอมรับ คนละครึ่ง ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อของง่ายขึ้น อยากให้รัฐขยายเฟส 2 ออกไปอีกปีหน้า
บรรยากาศที่ตลาดวังหลัง ตรงข้ามโรงพยาบาลศิริราช เขตบางกอกน้อย กทม. วันหยุด คึกคักไปด้วยประชาชน ที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า อาหาร ข้าวของเครื่องใช้กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งร้านค้าเกินกว่าครึ่งได้เข้าโครงการคนละครึ่ง โดยรัฐช่วยจ่าย 50% ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคนตลอดระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ 31 ธันวาคม 2563
แม่ค้าในตลาดวังหลังที่เข้าร่วมโครงการบอกว่า ตั้งแต่มีโครงการคนละครึ่ง ทำให้ประชาชนตัดสินใจซื้อของง่ายขึ้นเพราะว่าจ่ายเงินจริงเพียงครึ่งเดียวของราคาสินค้า ทำให้ตลาดวังหลังคึกคักขึ้นมาอีกรอบหลังเจอพิษโควิด-19 มาหลายเดือน แต่สำหรับร้านค้าที่ไม่ได้ลงทะเบียนส่วนใหญ่ คือ ลงทะเบียนไม่ทัน และบางร้านไม่มีเวลาในการต้องกดสแกนคิวอาร์โค้ดรับเงินผ่านแอปพลิเคชัน เพราะอยู่หน้าร้านคนเดียว กังวลช่วงลูกค้าเยอะจะคิดเงินไม่ทัน
ด้านนางสาวกิตติยา ศรีตัมภวา แม่ค้าวังหลังที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง กล่าวว่า เข้าร่วมโครงการเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ช่วงแรกลูกค้ายังไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะไม่มั่นใจเรื่องจ่ายเงินผ่านแอปเป๋าตัง ยอดขายกระเตื้องขึ้นราวๆ 60-70% แต่พอเปิดให้ลงทะเบียนรอบ 2 เมื่อ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ไม่น่าเชื่อยอดขายดีมาก ประชาชนตื่นตัวจับจ่ายมากขึ้น ซึ่งร้านของตนเองขายเสื้อผ้า ตอนโควิดแทบไม่มีลูกค้าเลย แต่พอมีโครการนี้ลูกค้ากล้าซื้อมากขึ้น เพราะได้ของในราคาแค่ครึ่งเดียว เช่นกระโปรงตัวละ 200 ก็จ่ายแค่ร้อยเดียว เป็นโครงการที่กระตุ้นเศรษฐกิจดีมาก
เช่นเดียวกับนางสาวณัฐฐ์ชาพร ศรีตัมภวา แม่ค้าวังหลังที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง กล่าวว่า แต่ก่อนคนจะซื้อเฉพาะของกิน แต่พอมีโครงการนี้ พวกเสื้อผ้าก็ขายได้มากขึ้น รอบแรกคนไม่ค่อยสนใจ แต่รอบ 2 ยอดขายดีมาก อยากให้ขยายต่อเฟส 2 ไปจนถึงปีหน้า ถ้าเป็นไปได้หากขยายสิทธิจับจ่ายเป็นวันละ 200 บาทกำลังดี จากเดิมให้สิทธิวันละ 150 บาทต่อคนต่อวัน
ด้านนางสุพี จันทกิจ ร้านขนมจีบต้มป้าอ้วน ตลาดวังหลัง ที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง กล่าวว่า ขายดีขึ้น คนเยอะขึ้น ทำให้ตลาดคึกคักขึ้น ยอดขายเพิ่มขึ้น80% เท่าที่เห็นก็ขายดีแทบทุกตลาดที่สมัครคนละครึ่ง
ขณะที่ผู้ซื้อ นางสาวศุภมาส วงษารัตน์ ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า สมัครรอบแรก ส่วนใหญ่จะซื้อพวก ไข่ไก่ น้ำมันพืช ของใช้ในบ้านตุนไว้ รองลงมาก็พวกของกิน อาหาร ถือว่าช่วยลดค่าใช้จ่ายได้พอสมควร ที่สำคัญมองว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจดีมาก ช่วยกระตุ้นเงินในกระเป๋าได้ดีเลย จับจ่ายคล่องขึ้น เพราะถือว่าได้ของในราคาครึ่งนึง เดินมาหลายตลาด สังเกตุเห็นว่าร้านค้าที่สมัครคนละครึ่ง คนจะซื้อเยอะมาก อยากให้ขยายออกไปถึงปีหน้าเลย
ด้ายนางสาวสุขใจ เด่นดวงดี ประชาชน คนละครึ่ง สมัครรอบ2 กล่าวว่า เปิดใช้สิทธิวันนี้ครั้งแรก ตอนแรกตั้งใจมาซื้อของกิน แต่เจอเสื้อผ้าก็อยากได้ มองว่าคุ้ม ได้ซื้อของในราคาถูกลง รัฐช่วยจ่ายครึ่งนึง ถือว่าโครงการนี้ช่วยค่าใช้จ่ายได้เยอะ อยากให้ขยายโครงการออกไปอีก เผื่อคนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนจะได้มีสิทธิใช้บ้าง เพราะเป็นโครงการที่ช่วยค่าใช้จ่ายได้ดีมาก.-สำนักข่าวไทย