กรุงเทพฯ 4 พ.ย.-2แพทย์ดีเด่นในชนบท มั่นใจหากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือจะสามารถสกัดกั้น โควิด-19 เมียนมา ไม่ให้ระบาดสู่ฝั่งไทยได้
นพ.ธวัชชัย ยิ่งทวีศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าสองยาง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก และนพ.ศักดิ์บัญชา สมชัยมงคล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพบพระ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ผู้ได้รับรางวัลแพทย์ดีเด่นในชนบทของคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปี 2562 และ 2563
นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า ขอบคุณสถานศึกษาที่เพาะบ่มให้มาถึงทุกวันนี้ และว่าการไปทำงานในพื้นที่ชายแดนเป็นพื้นที่ไม่คุ้นเคยเพราะเป็นคนในเมือง อยู่จังหวัดนครปฐม แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ยากลำบาก ทำให้รู้สึกมีความท้าทายมีอะไรให้ทำมาก โดยเฉพาะชาวบ้านเป็นคนมีน้ำใจและเป็นคนซื่อ ทำให้มีความเห็นอกเห็นใจชาวบ้านมาก
นพ.ศักดิ์บัญชา กล่าวว่า มีความภาคภูมิใจในรางวัลแพทย์ชนบทนี้มาก รู้สึกว่าช่วยชาวบ้านได้มากลดอัตราการเจ็บป่วยเสียชีวิตให้ชาวบ้านได้ ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวเขาการเดินทางยากลำบาก ประเพณีนิยมค่อนข้างผิดหลักสาธารณสุขต้องค่อยค่อยปรับตัว เข้าหากัน บางครั้งในการทำงานต้องใช้ล่ามหลายคนทำงานยากลำบาก แต่ก็รู้สึกภูมิใจ
นอกจากนี้แพทย์ทั้ง 2 คน ยังกล่าวถึงภาวะที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 เพราะเป็นโรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดนว่า ในส่วนของโรงพยาบาลท่าสองยาง ห่างจากพื้นที่ใกล้การระบาดหนักคืออำเภอแม่สอดจังหวัดตากถึง 80 กิโลเมตร ความเสี่ยงยังน้อยกว่าที่อำเภอแม่สอด ที่เปรียบเสมือนเป็นเกตเวย์ อยู่ใกล้ย่างกุ้งของเมียนมามากที่สุด อำเภอท่าสองยางเหมือนพื้นที่ชนบทที่ยังไม่มีการเดินทางข้ามพรมแดนไปมาของ2 ประเทศมากนัก แต่อย่างไรก็ตามพื้นที่ภูมิประเทศเป็น ที่ราบลุ่มริมน้ำการเดินทางทำได้โดยง่าย หากมีโรคระบาดจะติดต่อกันได้เร็ว บุคลากรทางการแพทย์มีความรู้สึกว่า ตนเป็นเหมือนทหารหน้าด่านด้านสุขภาพคอย เฝ้าระวังประเทศพร้อม มีเจ้าหน้าที่ชุดความมั่นคงรวมทั้งชาวบ้าน อสม. คอยเฝ้าระวังไม่ให้มีการเดินทางข้ามพรมแดน อย่างเข้มงวด
ที่โรงพยาบาลท่าสองยาง ก็ได้เตรียมการรองรับ โดยการจำกัดผู้ที่จะเข้ารับการรักษา แยกส่วนคลินิกโรคทางเดินหายใจออกไปต่างหาก ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ออกเก็บเชื้อหรือสวอปชาวบ้านเพื่อส่งตรวจ ซึ่งตรวจไปเมื่อปลายเดือนตุลาคม กว่า 1,000 รายผลเป็นลบทั้งหมด ถือเป็นการเฝ้าระวังทั้งฝั่งไทยและเมียนมา
ส่วนที่อำเภอพบพระ อยู่ติดอำเภอแม่สอด มีแรงงานต่างด้าว จำนวนมากสถานการณ์ โควิด-19 ค่อนข้างตึงเครียด เป็น ช่วงต้นน้ำเมยซึ่งช่วงแม่น้ำแคบมากสามารถเดินข้ามได้ทั้งปี ฝ่ายปกครองและความมั่นคงร่วมกันคุมเข้มชายแดน แต่ไม่สามารถต้านทานได้ สุดท้ายต้องพิจารณา รับผู้ป่วยมารักษาเป็นรายรายไป หากปิดรับผู้ป่วยทั้งหมด จะแอบฝ่าเข้ามา เพราะทางเมียนมาไม่มีโรงพยาบาลรักษาได้ จึงต้องประสานกับฝ่ายความมั่นคงให้เจ้าหน้าที่ ใส่ชุดป้องกัน รองรับผู้ป่วยถึงแนวชายแดนเพื่อไม่ให้เดินเข้ามาเอง เพราะจะเป็นการแพร่เชื้อให้กับประชาชนในพื้นที่ จึงต้องจำกัดจำนวนการรับผู้ป่วยจากฝั่งเมียนมาเท่าที่จำเป็น รับเฉพาะอาการหนัก ทุกคนและญาติจะได้รับการสวอปตรวจเชื้อ สัปดาห์ที่แล้วได้ทำการตรวจหาเชื้อผู้เกี่ยวข้องหรือแพทย์พยาบาลและญาติทั้งหมดกว่า200 ราย ได้ผลเป็นลบ
ขณะนี้โรงพยาบาลพบพระมีห้องตรวจโรคความดันลบ4ห้อง เตรียมไว้ล่วงหน้าเพราะในพื้นที่เองมีการระบาดของวัณโรคมาก รวมทั้งมีวอร์ดร่วม อีก 24 เตียง มันใจว่าถ้าได้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจะสามารถสกัดกั้น ผู้ติดเชื้อไม่ให้เข้าไทยได้ .-สำนักข่าวไทย