สธ.3พ.ย.-คณบดีศิริราช คาดไม่เกินสิ้นปีนี้ ผู้ป่วยโควิดทั่วโลกทะลุ 60ล้านคน หลังพบอัตราป่วยเพิ่ม 2 วัน 1ล้านคน และแจงโอกาสที่จะมีวัคซีนป้องกันโควิดได้ มีขึ้นแน่อย่างน้อยกลางปี64 โดยทั่วโลกมีวัคซีน เข้าสู่กระบวนการทดลองในคนเฟส3 มีแค่ 11 บริษัทเท่านั้น
นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวแถลงโควิด-19 ทั่วโลกและไทย ว่า ขณะนี้อัตราการพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเฉลี่ย 2 วัน 1 ล้านคน คาดไม่เกินสิ้นปีนี้ ผู้ป่วยทั่วโลกทะลุ 60 ล้านคน พร้อมจับตาดูสถานการณ์การแพร่ระบาดในยุโรป เนื่องจากเข้าฤดูหนาว ทำให้คนส่วนใหญ่อยู่ในอาคาร และไม่มีการสวมใส่หน้ากากอนามัย การป้องกันตัวเองลดลง ตามวิสัย
ประกอบกับในอาคารเมื่อปิดหน้าต่างมีสภาพคล้ายพื้นที่ปิด ทำให้อัตราการป่วยเพิ่มขึ้น และเริ่มกระทบต่อขีดความสามารถของสถานพยาบาลในการรองรับผู้ป่วย เช่น ในสหรัฐอเมริกา มีอัตราป่วยเพิ่ม1 แสนคนต่อวัน คาดไม่เกินสัปดาห์นี้ อัตราป่วยสะสม10 ล้านคน ส่วนอัตราการเสียชีวิตก็เพิ่มคู่ขนานเช่นกัน ส่วนที่ฝรั่งเศส มีการประกาศล็อกดาวน์รอบ 2 แต่อัตราป่วยยังเพิ่ม 4-5หมื่นคนต่อวัน ขณะที่สหราชอาณาจักรที่ประกาศล็อกดาวน์ล่าสุด มีอัตราป่วยเฉลี่ย 2 หมื่นคนต่อวัน
นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนในเอเชียประเทศที่ควบคุมได้ดีมีเกาหลีใต้ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย มีอัตราป่วยค่อนข้างต่ำ ควบคุมสถานการณ์ได้ดี แต่ที่น่าห่วง คือประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกับไทย ทั้งมาเลเซียและเมียนมา โดย มาเลเซียมีอัตราการป่วยใหม่เพิ่ม 800-900 คนต่อวัน เพียงแค่ 10 วันก็มีอัตราป่วยสูง 8,000 คน เช่นเดียวกับที่เมียนมา อัตราป่วย ก็เพิ่มขึ้นสูง มีผู้ป่วยสะสม 50,000 คนแล้ว ส่วนอัตราการตาย เฉลี่ยต่อวันเป็นตัวเลข 2 หลักต่อเนื่อง ซึ่งใน 2 ประเทศนี้ มีพรมแดนติดกับไทย หากมีการลักลอบเข้าเมืองมาโดยไม่มีการติดตามจะเป็นปัจจัยเสี่ยงส่งเสริมให้ไทยมีการติดเชื้อโควิดรอบ 2
นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย การควบคุมโรค ยังทำได้ดี มีผู้ป่วยรายใหม่ ร้อยละ 90 มาจาก state quarantine ดังนั้นอย่าชะล่าใจ ให้มีการป้องกันตนเอง ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยในอาคาร และมีการเว้นระยะห่าง ล้างมือ เลี่ยงไปในพื้นที่ชุมชน ส่วนความคืบหน้าวัคซีน ที่มีการทดลองและผลิตในทั่วโลก พบว่าแบ่งเป็นการทดลองในสัตว์ 88 บริษัท ,ทดลองในคนเฟสที่1 มี 35 บริษัท ,ทดลอง ในเฟส 2 มี 14 บริษัท ,ทดลองในคนเฟส 3 มี 11 บริษัท ซึ่งต้องมีการทดลองคนในทุกวันไม่ต่ำกว่า 30,000 คน โดยกระบวนการทดลอง มีทั้งได้ยาจริง ยาหลอก และ มี 6 บริษัท ที่เข้าสู่ทดลอง เฟส3 แต่อนุญาตให้ใช้ก่อน ในกรณีฉุกเฉินบางพื้นที่ ซึ่งเมื่อผ่านการทดลอง ในสัตว์ ในคน ก็พบว่ามีความปลอดภัยระดับหนึ่ง
นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนการทดลองวัคซีนใน 11 บริษัทนั้น มีทั้งของสหรัฐอเมริกา ,จีน,เยอรมัน และรัสเซีย ,อินเดียและบริษัทร่วมผลิต ซึ่งทุกบริษัท คาดว่าจะสำเร็จได้ไม่ต่ำกว่ากลางปี 2021 โดยพบว่าการทดลองในสัตว์โอกาสสำเร็จมีร้อยละ7 การทดลองในคน มีโอกาสสำเร็จร้อยละ 20 และการทดลองวัคซีนในคนเฟส 3 มีโอกาสสำเร็จร้อยละ 50 เนื่องจากมีปัจจัยจากคนต่างพื้นที่ ต่างวัย อาจต่อสนองต่อการฉีดวัคซีนไม่เหมือนกัน ดังนั้น วัคซีนที่ดีสุดคือการดูแลตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ เลี่ยงการอยู่ในชุมชน.-สำนักข่าวไทย