สธ. 2 พ.ย.– กรมควบคุมโรค ห่วงโรคระบบทางเดินหายใจระบาดในช่วงฤดูหนาวให้ร่วมเฝ้าระวัง แจงอัตราไข้หวัดใหญ่ปีนี้ลดลง ด้วยอานิสงส์ โควิด ย้ำสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ช่วยป้องกันได้ ส่วนRSV ไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ ป้องกันได้คล้ายหวัดเช่นกัน
นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)กล่าวในการแถลงข่าวประจำวันกระทรวงสาธารณสุข ว่า หลังจากกรมอุตุมนิยมวิทยาประกาศประเทศไทย เข้าสู่ฤดูหนาว ทำให้ต้องมีการเฝ้าระวังโรคระบบทางเดิน หายใจ 5 โรค ประกอบด้วย
1.โรคไข้หวัดใหญ่ ปีนี้2563 มีอัตราป่วยน้อยลง พบป่วยแค่ 113,000 คน ส่วนปี2562 ป่วย 396,000 คน แสดงว่าเป็นผลมาจากของโควิด จากการสวมหน้ากากอนามัย ทำให้โรคลดลงไปถึง 3 เท่า จึงเป็นสิ่งที่ดีในการดูแลสุขภาพ
2.โรคปอดอักเสบ 150,000 คน เสียชีวิต 100 คน
3.อุจจาระร่วง เป็นผลมาจากพฤติกรรมการบริโภค ปีนี้พบ 680,000 คน 4. โรคหัด ป่วย 938 คน ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
และ 5.โรคมือเท้าปาก มีผู้ป่วย 15,000 คน และยัง ไม่มีผู้เสียชีวิต
นพ.ปรีชา กล่าวว่า สำหรับโรคระบบทางเดินหายใจ โรคไข้หวัดใหญ่พบมากในเด็กเล็กที่ไม่ได้ให้วัคซีนคือช่วงอายุ 0-4 เดือนป่วยสูงสุดและรองลงมาผู้สูงอายุ สำหรับพื้นที่ที่พบป่วยมากที่สุด ได้แก่ ภาคเหนือ เพราะอากาศค่อนเย็นและมีความแออัด อากาศปิด มีการท่องเที่ยวมากพอ สมควร พร้อมย้ำ 7 กลุ่มเสี่ยงสมควรรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป ,เด็ก 6 เดือนถึง 2 ปี ,กลุ่มโรคเรื้อรังต่างๆ ทั้งหอบหืด โรคหัวใจและหลอดเลือดสมองและผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป รวมทั้งผู้พิการทางสมองและกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันบกพรอ่ง และกลุ่มสุดท้ายคือคนอ้วนเกิน 100 กิโลกรัม โดยสามารถรับบริการของรัฐได้ทุกแห่ง
นพ.ปรีชา กล่าวว่า ส่วนโรค RSV เกิดจากการติดเชื้อจากไวรัสชนิดหนึ่ง โดยมีความรุนแรงในเฉพาะเด็กเล็กเพราะการติดเชื้อจะลงไปที่หลอดลม ทำให้หลอดลมฝอยอักเสบ หายใจลำบาก มีเสมหะออกมา และเอาออกได้ยาก ดังนั้น หากเด็กเล็กมีอาการเหล่านี้รีบพาพบแพทย์ทันที เพื่อจะได้ขับเสมหะอย่างถูกต้อง
สำหรับระยะฟักตัวประมาณ 4-6 วันและจะแพร่ได้อีก 1สัปดาห์ ปัญหาคือ ปัจจุบันไม่มียาและวัคซีน เน้นการรักษาตามอาการ ดังนั้น การป้องกันสำคัญสุด โดยต้องไม่คลุกคลีกับผู้ที่มีอาการป่วย ไข้หวัด หลีกเลี่ยงการไปเล่นเป็นกลุ่ม.-สำนักข่าวไทย