สทท. มั่นใจมาตรการรัฐกระตุ้นท่องเที่ยวปลายปีขยายตัวตามเป้า

กรุงเทพฯ 29 ต.ค.-ภาคเอกชนและผู้ประกอบการท่องเที่ยวมั่นใจมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐและโปรโมชันของผู้ประกอบการ ส่งผลให้สถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศในไตรมาสสุดท้าย ฟื้นตัวและเติบโตตามเป้าหมาย


นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้ว่าสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน คือ ไทยเที่ยวไทยคึกคักขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซัน หรือฤดูกาลท่องเที่ยวซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวอากาศหนาวเย็นเหมาะแก่การท่องเที่ยว ขณะเดียวกันธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆมีการจัดโปรโมชันลดแลกแจกแถม จึงจูงใจให้คนไทยออกมาท่องเที่ยวมากขึ้น เมื่อประกอบกับภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านมาตรการต่างๆ ยิ่งกระตุ้นให้คนอยากออกเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการเที่ยวปันสุข หรือมาตรการล่าสุดที่เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุออกมาเที่ยวในวันธรรมดา โดยรัฐช่วยอุดหนุนค่าใช้จ่าย แม้กระทั่งวันหยุดยาว ส่งเสริมการจัดการประชุม อบรม สัมมนา ทำกิจกรรม CSR จะทำให้ตัวเลขไทยเที่ยวไทย ไตรมาสสุดท้ายมีโอกาสเป็นไปตามเป้าหมาย คือ มีรายได้เกิน 250,000 ล้านบาท

โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม ตัวเลขนักท่องเที่ยว มีโอกาสกระเตื้องขึ้นได้อีกมาก หากปัจจัยทางการเมืองนิ่งขึ้น จะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเพิ่มขึ้นในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพหรือกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยที่เคยไปท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงปลายปี จะกลับมาท่องเที่ยวในประเทศแทน ซึ่งการขยายตัวของการท่องเที่ยวในประเทศในไตรมาสสุดท้ายนี้ เป็นผลจากจากการกระตุ้นของภาครัฐเป็นส่วนใหญ่ และคาดว่าจะมีมาตรการใหม่ๆออกมาอีกมาก เพื่อเพิ่มสัดส่วนการท่องเที่ยวในประเทศจากร้อยละ 30 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 40 ให้ได้


ทั้งนี้ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยวของไทย คือ ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่นิ่งและยังมีม็อบในหลายพื้นที่ ล้วนส่งผลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ แม้ขณะนี้ไทยจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่เป็นลักษณะการจำกัดกลุ่ม ทำให้ช่วยขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวได้ไม่เต็มที่ คาดว่าปี 2563 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 6.7 ล้านคน รายได้ประมาณ 330,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน