จ่อทบทวนมาตรการกักตัวในโรงแรม ASQ

สธ.28 ต.ค.-อธิบดีกรมสบส.เตรียมตั้งคณะกรรมการ ทบทวนมาตรการ ใน ASQ เน้น 4 ข้อ ครอบคลุมการออกห้องพักและการออกกำลังกาย พร้อมให้คณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดพิจารณา เกณฑ์ประเทศเสี่ยง ใช้เป็นเกณฑ์การกักตัวและทำกิจกรรม โดยต้องประเมินทุกๆ15 วัน พร้อมย้ำหากสถานกักตัวไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน มีตั้งแต่ตักเตือนและให้งดรับผู้เดินทางเข้าประเทศมาพัก


นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการ Alternatve State Quarantine ว่า หลังจากการพบหญิงฝรั่งเศสป่วยโควิด-19 หลังพ้นการกักตัว 14 วัน ทาง สบส.เตรียมนำเรื่องนี้มาพิจารณาหารือทบทวนมาตรการเพื่ออุดช่องโหว่ จากข้อมูลของการ Alternatve State Quarantine มีโรงแรมยื่นเข้ามาสมัคร เป็นสถานที่กักตัวรวม 131 แห่ง ผ่านการประเมิน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น Alternatve State Quarantine 101 แห่งเท่านั้นและมีห้องพักกว่า13,004 ห้อง มีผู้เดินทางมาเข้าพักในสถานที่กักตัวรวม 25,113 คน ตรวจและพบว่าป่วย 105 คนหรือคิดเป็นอัตราป่วยแค่ร้อยละ 0.42 ถือว่าน้อยมาก และตำกว่า State Quarantine

ทั้งนี้ จึงเตรียมตั้งคณะกรรมการทบทวนมาตราการ โดยมีรองปลัด กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ตรวจประเมินมาตรฐาน ที่ครอบคลุมตั้งแต่อาคาร สถานที่และเน้น 4 ข้อ ได้แก่ 1.การอนุญาตให้ออกจากห้องพัก หรือการออกกำลังกาย 2.การอนุญาตให้เข้าไปทำความสะอาดห้องพัก 2 วันครั้ง 3.การให้บริการซักเสื้อผ้าของผู้ถูกกักกัน และ 4. การอนุญาตให้ออกกำลังกาย หรือการใช้บริการฟิตเนส


นพ.ธเรศ กล่าวว่าสำหรับเกณฑ์การพิจารณาความเสี่ยงของผู้รับการกักตัว ต่อไปให้คณะกรรมการโรคติดต่อพิจารณาทบทวนความเสี่ยงเป็นรายประเทศ เพื่อใช้เป็นเกณฑ์การกักตัวหรือมาตรการต่างๆ ในสถานที่กักโดยแบ่งเป็นประเทศเสี่ยงต่ำ สีเขียว,เสี่ยงปานกลาง สีเหลืองและเสี่ยงสูง สีส้ม โดยการพิจารณานี้ จะต้องมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนทุกๆ15วัน โดยต่อไปหากในอนาคตพบสถานที่กักตัวไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานมีการเกณฑ์พิจารณาตั้งแต่ตักเตือน จนถึงการให้งดรับผู้เดินทางเข้ากักตัวจนกว่าจะเคลียร์สถานที่ให้ได้มาตรฐาน ซึ่งในส่วนของ ASQ ที่ หญิงฝรั่งเศสพักนี้ เบื้องต้นก็ให้หยุดรับผู้เข้ากักตัวก่อน

นพ.ธนรักษ์ ผลิตพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด ทั่วโลกน่าห่วง โดยพบว่า มีอัตราป่วยเพิ่มสูงขึ้น เฉลี่ยวันละ400,000 คน ทำให้อัตราป่วย 2 วัน พุ่ง 1 ล้านคน โดยสหรัฐอเมริกา,อินเดีย และบราซิล ยุโรป และเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศเย็นลงสถานการณ์น่าห่วง ส่วนสถานการณ์ในไทย ค่อยข้างดี แม้จะมีสถานการณ์การพบผู้ป่วยติดเชื้อที่แม่สอด จ.ตาก และเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

โดยในส่วนผู้กรณีหญิงฝรั่งเศส มีผู้สัมผัสรวม 126 คน เป็นผู้สัมผัมเสี่ยงสูง 46 ตรวจแล้ว 41 คนให้ผลเป็นลบ ไม่ติดเชื้อโควิด ส่วนอีก 5 คนได้แก่ แท๊กซี่รับส่งสนามบิน และสถานทูตฝรั่งเศส รวม 2 คน อยู่ระหว่างการติดตามตัว เช่นเดียวกันนักท่องเที่ยวในบาร์ที่สมุย ยังเหลือตามตัวอีก 3 วัน ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำติดตามครบแล้ว อยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง


ส่วนกรณีการตรวจหาสารพันธุกรรม ในหญิงฝรั่งเศสเพื่อเทียบเคียงกับผู้ป่วยเดิม2 คน ที่เข้ามาในสถานกักกันในช่วงเวลาเดียวกันนั้น อยู่ระหว่างถอดรหัสพันธุกรรม คาดจะทราบผลใน 3-4 วัน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะ

สะเทือนขวัญ! ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะทิ้งบ้านร้างริมถนน พื้นที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ญาติเผยหายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค.68

“ไทด์ เอกพันธ์” ให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม มั่นใจจำได้ทุกบาดแผล

“ไทด์ เอกพันธ์” เข้าให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม ยืนยันจำได้ทุกบาดแผล มั่นใจ รอยกรีดลึกยาวโคนขาขวาด้านในไม่ใช่สาเหตุจากใบพัดเรือ ขณะที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 23 พ.ค.นี้

สภาล่ม

สภาฯ ล่ม​ องค์ประชุมไม่ครบ วอล์กเอาต์ 2 รอบ

ล่ม​จนได้​ องค์ประชุมไม่ครบ​ หลัง​มีวอล์กเอาต์ 2 รอบ และมีมติไม่เลื่อนญัตติด่วน “หมอเปรม” ขอให้ส่งศาลตีความก่อนถกร่างแก้ไข รธน.