พช.ดึงเสน่ห์ชุมชน ออกแบบผลิตภัณฑ์จำหน่าย นทท.

กรุงเทพฯ 27 ต.ค.-พช.เดินหน้าพัฒนาศักยภาพชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี อบรมเชิงปฏิบัติการดึง 8 เสน่ห์ชุมชน นำมาออกแบบผลิตภัณฑ์จำหน่ายให้นักท่องเที่ยว


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี กิจกรรมยกระดับและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายให้นักท่องเที่ยว(ผลิตภัณฑ์คลัสเตอร์ผ้าและเครื่องแต่งกาย) ภายใต้กิจกรรมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ณ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทาราศูนย์ราชการและคอนเวนซันเซนเตอร์ แจ้งวัฒนะ

การอบรมเชิงปฏิบัติการ Bangkok Design Camp ครั้งนี้ มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ในชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี 63 จังหวัด รวม 277 คน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 ต.ค.63 โดยมีวิทยากรที่มีชื่อเสียงทั้งจากภาครัฐและเอกชน อาทิ ดร.เรืองลดา ปุณยลิขิต อาจารย์ประจำสาขาวิชาศิลปะการออกแบบ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร อ.ชัยวุฒิ รื่นเริง รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะนิเทศศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ อ.นราธิป อ่ำเที่ยงตรง ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด การขาย และการบริการ และนายยงยุทธ นิลเปล่งแสง ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตานี มาร์เก็ตติ้ง จํากัด เป็นต้น


นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่ากรมการพัฒนาชุมชนมีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคง โดยส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ การพัฒนาอาชีพ พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านผ้า และการส่งเสริมชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี โดยการพัฒนาสิ่งที่ดีอยู่แล้วของพี่น้องทุกคนให้ดียิ่งขึ้นไปเพื่อสร้างความประทับใจ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ถ้าหากย่ำอยู่กับที่แม้จะล้ำหน้าคนอื่น ท้ายที่สุดก็จะถูกแซง “อยู่กับที่ก็เหมือนถอยหลัง”

สำหรับกิจกรรมที่กรมได้รับมอบหมายจากรัฐบาล นำมาสู่พี่ๆน้องๆทำให้มีความเชื่อมั่นว่าจะไม่ย่ำอยู่กับที่ ครอบครัว ชุมชน ตำบล หมู่บ้าน จังหวัด จะมีความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน ตามที่นายกรัฐมนตรีตั้งความหวังไว้กับกรมฯในการเป็นองคาพยพสำคัญของรัฐบาล ประชาชนสามารถใช้บริการ ร่วมเป็นหุ้นส่วนชีวิต ในการนำพา ครอบครัว หมู่บ้าน ตำบล ดีขึ้นอย่างยั่งยืน สามารถนำเรื่องการดูแลครอบครัวให้มีความมั่นคง ผ่านกระบวนการและกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติปรับใช้ในชีวิต การจัดสรรพื้นที่ การปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ ลดรายจ่าย ส่งผ่านไปยังผู้นำในพื้นที่ให้รณรงค์การปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อความมั่นคงทางอาหาร การพัฒนาการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนและครอบครัว และสามารถต่อยอดอาชีพได้ เช่น ตอนลงพื้นที่เยี่ยมชม ผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP กลุ่มผ้าย้อมครามบ้านดอนกอย อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร พัฒนากลุ่มผ้าย้อมคราม จากต้นครามที่ปลูกอยู่ในพื้นที่ชุมชน มาบูรณาการสร้างอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กิจกรรมที่2 กรมการพัฒนาชุมชน มีภารกิจในสร้างการเข้าถึงแหล่งทุนของชุมชน อาทิ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กู้ยืมในกระบวนการกลุ่ม ดอกเบี้ยเพียง ร้อยละ 0.1 โดยการเขียนโครงการ เข้าถึงง่าย เพื่อเป็นแหล่งทุน ในการพัฒนาอาชีพ กลุ่มอาชีพ ขยายกิจการ เพิ่มการผลิต การลงทุน อันเป็นบูรณาการการดำเนินงานของกรมการพัฒนาชุมชนให้รอบทิศรอบด้านและเกิดประโยชน์สูงสุด


กิจกรรมที่ 3 การจัดตั้งกลุ่มอาชีพ กลุ่มผู้ประกอบการ สามารถบูรณาการข้ามจังหวัดกันได้ องคาพยพสำคัญ บริษัทประชารัฐรักสามัคคี บริหารที่มีอยู่ทุกจังหวัด และOTOP Trader ภาคเอกชนที่เข้าช่วยในเรื่องเปิดการตลาดให้แก่ชุมชน แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน สร้างครือข่าย ข้ามอำเภอ ข้ามจังหวัด ข้ามทวีป ต้องมีการติดต่อสื่อสารกัน เพื่อเป็นการต่อยอด แลกเปลี่ยนวัตถุดิบ สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ แปรรูป เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์

กิจกรรมที่4 กรมการพัฒนาชุมชน ส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง มีความประสงค์ คาดหวัง อยากดำเนินการแบบศูนย์ OTOP คอมเพล็กซ์ พุแค จังหวัดสระบุรี ที่เป็นจุดกระจายสินค้าของชุมชน ถ้าหากหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว และโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ซึ่งมีอยู่ จำนวน 3,680 ชุมชน/หมู่บ้าน จัดตั้งศูนย์จำหน่ายสินค้า ก็มีร้านจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ของชุมชน ช่วยชุมชน จำนวน 3,680 ร้านค้า เพื่อส่งเสริมการพัฒนาหมู่บ้านให้ได้ศักยภาพและมีความพร้อมที่จะรองรับการให้บริการนักท่องเที่ยวได้อย่างครบวงจร

และกิจกรรมที่5 การตลาดออนไลน์ จัดจ้างนักการตลาดรุ่นใหม่ในทุกพื้นที่ จังหวัดมาส่งเสริมสร้างเรื่องราว (Story) จุดดีและจุดเด่น (อัตลักษณ์ของสินค้า) ที่น่าสนใจ เพื่อให้ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าของชุมชน ช่วยสร้างการเรียนรู้การตลาด Online ให้ผู้ผลิตผู้ประกอบการในชุมชนในอนาคตอันใกล้ กรมฯจะมีแพลตฟอร์ม ชื่อว่าฟาร์มสุข จาก AIS ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ ศูนย์ร่วมความสุข และศูนย์สินค้าดีๆ ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ในการช่วยกระจายสินค้า ให้มีความสะดวกมากขึ้น กรมฯวางแผนให้บริษัทประชารัฐรักสามัคคี ดำเนินงาน และให้ผู้ประกอบการในชุมชน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงาน อันเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดให้มากขึ้น เพื่อเป็นจุดกระจายสินค้าในท้องถิ่น ผู้บริโภคจะได้สินค้าที่มีราคายุติธรรม ไม่ต้องเดินทางไกล และที่สำคัญคือการช่วยเหลือ อุดหนุนสินค้า OTOP ในชุมชนอีกด้วย

“การอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมการพัฒนาหมู่บ้านให้ได้ใช้ศักยภาพและมีความพร้อมรองรับการให้บริการนักท่องเที่ยวได้อย่างครบวงจร ทั้งเรื่องทักษะการบริหารจัดการของหมู่บ้านด้านต่างๆ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการชุมชนมีโปรแกรมการท่องเที่ยวหลากหลาย ใช้อัตลักษณ์ท้องถิ่นมาสร้างมูลค่าและความคุ้มค่าผ่านการท่องเที่ยว ชุมชนมีเป้าหมายในการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกระแสหลักที่เป็นแอ่งใหญ่ ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสเสน่ห์ของหมู่บ้านที่เป็นแอ่งเล็ก พร้อมเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับเสน่ห์ของชุมชน โดยนำเสนอเสน่ห์ 8 ด้าน ได้แก่ อาหาร การแต่งกาย ที่อยู่อาศัย ประเพณี ศิลปะพื้นถิ่น ความเชื่อ อาชีพ และภาษา ของหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว”อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]