จ่อทบทวนมาตรการกักตัวใน ASQ

สธ.26 ต.ค.-รองอธิบดีกรมควบคุมโรค คาดหญิงฝรั่งเศสติดเชื้อระหว่าง 10-12 ต.ค.จึงเป็นการติดเชื้อในประเทศ และติดเชื้อใน ASQ จึงเตรียมทบทวนมาตรการกักตัวใน ASQ ย้ำกักตัวไม่อยู่ในห้อง 14 วัน ไม่ออกไปไหน เพื่อแพร่โรค


นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในไทย ว่า ขณะนี้พบผู้ป่วยโควิดที่แม่สอดยังไม่ถือเป็นการระบาด เพียงแต่มีการพบผู้ป่วย โดยผู้ป่วยเป็นคนขับชาวเมียนมาที่เข้ามาส่งของในไทย 2คน จากนั้นมีการค้นหาในไทยและพบผู้ป่วยเพิ่มรวม 6 คน และจากการติดตามค้นหาผู้ป่วย รวม 8,800 คนไม่พบเชื้อ เหลือรอผล 63 คนเท่านั้น

ส่วนในผู้ป่วยหญิงฝรั่งเศสวัย 57ปี จากการสอบสวนโรคเชื่อว่าน่าจะเป็นการติดเชื้อในประเทศแน่นอนและมีโอกาสรับเชื้อในสถานกักกัน Alternative state quarantine (ASQ) ระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม แต่ว่าไม่แพร่ในสถานกักตัว เพราะหญิงคนดังกล่าวออกจากสถานกักตัว ในวันที่ 15 ตุลาคม และพบว่าเริ่มมีอาการป่วยในวันที่ 17 ตุลาคม


นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า ส่วนการสอบสวนเชิงระบาดวิทยากรณีพบเชื้อโควิด -19 ในสิ่งแวดล้อมที่ฟิตเนส โดยเป็นการตรวจในวันที่ 22 ตุลาคม ไม่ได้เป็นการบ่งชี้ว่าเป็นเชื้อของหญิงฝรั่งเศส เพราะออกจากสถานที่กักตัวไปแล้วตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม ฉะนั้นต้องมีการตรวจสอบและค้นหาผู้ป่วยที่เข้าไปในบริการและขยายระยะเวลากักตัวเพิ่ม โดยเป็นเสี่ยงออกเป็น เสี่ยงสูง เสี่ยงกลางและต่ำ พร้อมย้ำว่ากรมควบคุมโรค ได้ประสานให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ทบทวนมาตรการของ ASQ โดยตามมาตรฐานของการควบคุมโรค ต้องห้ามไม่ให้ผู้มารับการกักตัวออกจากห้อง 14 วันอย่างเด็ดขาดเพื่อลดความเสี่ยง และโอกาสการรับเชื้อ หรือ แพร่โรคสู่ผู้อื่น

สำหรับกรณีการพบเชื้อโควิดในหญิงฝรั่งเศสหลังพ้นการกักตัวนี้จะมีผลต่อการทบทวนการลดจำนวนวันกักตัวหรือไม่ นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า ไม่มีผลกับการลดการกักตัวเหลือ 10 วัน หากมีการพิจารณา ตามประเทศเสี่ยงสูง เสี่ยงกลาง และเสี่ยงต่ำ พร้อมเผยผลการตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยง 120 คน เสี่ยงสูง40คน ผลตรวจออกแล้วไม่พบเชื้อ 27 คน ที่เหลือรอผล ส่วนผู้เสี่ยงต่ำ 80 คน อยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]