1 พ.ย.นี้ บัตรทอง กทม.รักษาที่ไหนก็ได้

ศูนย์ราชการฯ 22 ต.ค.- สปสช.จับมือ กทม.ดีเดย์ 1 พ.ย.63 บัตรทอง กทม.รักษาที่ไหนก็ได้ สิทธิว่าง 2 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ สปสช.จัดหน่วยบริการประจำใหม่ให้ใกล้คลินิกเดิมที่สุด


สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดเสวนา “ปฏิรูประบบสุขภาพเมืองกรุงแนวใหม่ : สปสช.เปิดเกณฑ์เชิญสถานพยาบาลเข้าร่วมระบบบัตรทอง” โดยมี นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี รองเลขาธิการ สปสช. และ นพ.ชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมอภิปราย

นพ.ชวินทร์ รองปลัด กทม. กล่าวว่า จากการที่ สปสช.ยกเลิกหน่วยบริการปฐมภูมิไป 190 แห่งและกำลังอยู่ระหว่างหาคลินิกมาร่วมให้บริการ ทำให้มีผู้มารับบริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม.มากขึ้นประมาณ 50% ดังนั้น ก็ต้องขออภัยหากได้รับความไม่สะดวกหรือต้องรอนานขึ้นในช่วงนี้ ซึ่งทาง กทม.หามาตรการรองรับต่างๆ เช่น การจ้างแพทย์ที่เกษียณแล้วมาช่วยตรวจ หรือขยายเวลาตรวจให้มากขึ้น เป็นต้น ขณะเดียวกันในช่วงนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะพัฒนาระบบปฐมภูมิใน กทม.ใหม่ ซึ่งในรูปแบบใหม่นี้จะบริหารแบบ Area Base เพื่อให้ผู้บริหารจัดการสามารถรู้สภาวะในพื้นที่และทำโครงการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เช่น เขตสัมพันธวงศ์มีจำนวนผู้สูงอายุเยอะที่สุด การจัดกิจกรรมด้านสุขภาพก็จะจัดให้สอดคล้องกับโรคหรือภาวะสุขภาพและแตกต่างจากเขตอื่นๆ เป็นต้น


รองปลัด กทม.กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันในพื้นที่ กทม.มีหน่วยบริการกว่า 4,000 แห่ง เป็นคลินิกเวชกรรมกว่า 2,000 แห่ง คลินิกเฉพาะทางอีกกว่า 200แห่ง ซึ่ง สปสช.อยู่ระหว่างเชิญชวนหน่วยบริการเหล่านี้เข้ามา เป็นเครือข่ายร่วมดูแลประชาชนในพื้นที่นั้นๆ ส่วนศูนย์บริการสาธารณสุขในแต่ละเขต ก็จะเป็นแม่ข่ายในการจัดการสุขภาวะของประชาชนในพื้นที่ โดยทำงานเชื่อมโยงกับหน่วยบริการที่อยู่ในเครือข่าย ช่วยแนะนำสนับสนุนการทำงานของคลินิกเหล่านี้ให้อยู่ในระบบที่กำหนด

“ต้องแยกเรื่องรักษา กับการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ในด้านการรักษา คลินิกส่วนใหญ่เน้นเรื่องการรักษาอยู่แล้ว ตอนนี้เราพยายามให้คลินิกเข้ามาในระบบการรักษาก่อน แต่ความหมายของพี่เลี้ยง คือ การดึงข้อมูลเข้ามาเพื่อให้ศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม.รู้สุขภาวะของประชาชนในพื้นที่และให้คำแนะนำในกรณีที่คลินิกติดขัดหรือมีความไม่เข้าใจบางอย่างเกิดขึ้น ตลอดจนเป็นผู้นำในการ organize เครือข่ายในการทำกิจกรรมหรือโครงการด้านสุขภาพต่างๆ ด้วย” รองปลัด กทม.กล่าว

รองปลัด กทม.กล่าวด้วยว่า นอกจากหน่วยบริการปฐมภูมิแล้วในระบบใหม่จะมีคลินิกเฉพาะทางเข้ามาร่วมเป็นหน่วยร่วมบริการ ประชาชนก็จะสามารถเข้าถึงคลินิกพิเศษเฉพาะทางได้เลยโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ไม่จำเป็นต้องไปหาหมอเฉพาะทางในโรงพยาบาล และในส่วนของการส่งต่อไปโรงพยาบาลใหญ่ๆ กทม.ได้แบ่งพื้นที่เป็น 6 โซน และแต่ละโซนจะมีโรงพยาบาลประจำโซนเพื่อรับส่งต่อประชาชนในกลุ่มเขตนั้นๆ ด้วย


“กทม.รู้สึกภูมิใจที่มีโอกาสดูแลคุณภาพชีวิตประชาชน เพียงแต่ที่ผ่านมาศักยภาพของ กทม.เพียงลำพังไม่สามารถครอบคลุมได้หมด เมื่อมี สปสช.เข้ามาหนุนเสริมการทำงาน ก็ทำให้เราสามารถดูแลประชาชนได้ครอบคลุมมากขึ้น” รองปลัด กทม.กล่าว

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ในอดีตประชาชนต้องไปลงทะเบียนหน่วยบริการประจำกับคลินิกเดียว แล้วไปใช้บริการที่คลินิกนั้นแต่ในระบบใหม่จะเปลี่ยนระบบการทำงานเป็นเครือข่าย คลินิกไม่ได้ทำงานเดี่ยวๆ แล้ว ในเครือข่ายจะมีศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม.เป็นแม่ข่าย และมีอีก 2 ส่วนอยู่ในเครือข่ายด้วยคือหน่วยบริการปฐมภูมิ ซึ่งคือหน่วยบริการปกติที่ประชาชนไปลงทะเบียนเป็นหน่วยบริการประจำ และที่เพิ่มเข้ามาคือหน่วยร่วมบริการ เป็นคลินิกที่อาจให้บริการเฉพาะบางช่วงเวลาหรือคลินิกเฉพาะทางต่างๆ ซึ่งเข้ามาเป็นเครือข่ายทำงานร่วมกัน แล้วประชาชนสามารถไปรับบริการที่ไหนก็ได้ในเครือข่ายนี้

รองเลขาธิการ สปสช.กล่าวว่า ระบบนี้จะนำร่องในพื้นที่ กทม.ตั้งแต่วันที่ 1พ.ย.63 โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการรับสมัครคลินิกเอกชนเข้ามาร่วมเป็นเครือข่าย ซึ่งคลินิกที่สนใจสามารถเข้าร่วมได้ 2 ลักษณะ คือ เป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ หมายความว่าต้องดูแลประชากรในพื้นที่ เช่น ออกไปเยี่ยมบ้าน ไปดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง เป็นต้น และอีกส่วนคือหน่วยร่วมบริการ เช่น คลินิกเฉพาะทางหรือเปิดบริการไม่ถึง 56 ชม./สัปดาห์

ขณะเดียวกัน สปสช.ยังปรับระบบการจ่ายเงิน โดยหน่วยบริการปฐมภูมิจะมีวงเงินงบประมาณเหมาจ่ายตามจำนวนประชากรและรับค่าบริการตามการให้บริการที่กำหนด (ree Schedule) ส่วนหน่วยร่วมบริการจะได้เงินจาก สปสช.โดยตรงตามรายการที่ให้บริการแก่ผู้ป่วย โดย สปสช.จะกำหนดราคาในรายการยา เวชภัณฑ์และหัตถการต่างๆ แล้วมาเบิกตรงได้เลย เหมือนที่เคยเก็บจากประชาชน เพียงแต่เปลี่ยนมาเก็บจากสปสช.แทน ดังนั้น ในมุมของผู้ให้บริการก็จะสะดวก เพียงสมัครเข้ามา เมื่อมีผู้ไปรับบริการ สปสช.ก็ตามไปจ่ายให้ แต่ในความเป็นเครือข่าย ทางศูนย์บริการสาธารณสุขก็จะลงไปให้คำแนะนำและดูแลเรื่องคุณภาพด้วย

รองเลขาธิการ สปสช.กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของประชาชนนั้น ประชาชนที่มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพใน กทม.มี 3.7 ล้านคน ในจำนวนี้ 1.7 ล้านคน มีหน่วยบริการประจำแล้ว ถ้าอยู่ในกลุ่มนี้ไม่ต้องทำอะไรเลย ส่วนอีก 2 ล้านคนที่เหลือเป็นสิทธิว่าง เพราะหน่วยบริการประจำถูกยกเลิกไป ขณะนี้สามารถไปรับบริการที่ไหนก็ได้ แต่ในวันที่ 1 พ.ย. 2563 จะมีคลินิกใหม่มารองรับ

“ถามว่าประชาชนกลุ่มนี้ วันที่ 1 พ.ย. 2563 ต้องทำอะไรบ้าง ผมขอตอบว่าก็ไม่ต้องทำอะไรเช่นกัน เพราะ สปสช.มีข้อมูลอยู่แล้วว่าเคยลงทะเบียนกับหน่วยบริการประจำไว้ที่ไหน ดังนั้นเมื่อ สปสช.สามารถจัดหาคลินิกรายใหม่มาร่วมเป็นเครือข่ายได้แล้ว เราจะลงทะเบียนหน่วยบริการใหม่ให้ท่านให้อยู่ใกล้คลินิกเดิมมากที่สุด สะดวกที่สุด ดังนั้นวันที่ 1พ.ย.63 นี้ 2 ล้านคนนี้ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องวิ่งไปลงทะเบียนที่ไหน สามารถไปรับบริการที่ไหนก็ได้ ทางหน่วยบริการจะดูให้ว่าหน่วยบริการประจำของท่านอยู่ที่ไหนและสามารถไปรับบริการได้ในครั้งต่อไป หรือจริงๆ ก็ไปรับบริการที่หน่วยอื่นก็ได้ เพียงแต่โดยธรรมชาติของคนเราย่อมอยากไปรับบริการใกล้บ้านและอยากมีหมอประจำครอบครัวเพื่อดูแลให้คำปรึกษาในระยะยาว และถ้าไม่พอใจก็สามารถเปลี่ยนหน่วยบริการประจำได้เช่นกัน” รองเลขาธิการ สปสช.กล่าว

รองเลขาธิการ สปสช.กล่าวด้วยว่า ในส่วนของโรงพยาบาลรับส่งต่อนั้น ในอดีตประชาชนเวลาลงทะเบียนหน่วยบริการปฐมภูมิ ก็มักมองไปที่หน่วยบริการรับส่งต่อด้วยว่าจะได้โรงพยาบาลไหน แต่หลังจากนี้อยากให้ประชาชนมองไปที่หน่วยบริการปฐมภูมิใกล้บ้านก่อนว่าแทนที่จะไปได้ที่เดียว ก็ไปรับบริการได้ทุกที่ และถ้าจำเป็นต้องส่งต่อก็จะมีโรงพยาบาลรับส่งต่อเบื้องต้น แล้วถ้าโรงพยาบาลรับส่งต่อไม่สามารถรักษาได้ก็จะหาโรงพยาบาลระดับ super tertiary เช่น โรงเรียนแพทย์ มารองรับให้เอง ซึ่งก็ขอเชิญชวนโรงพยาบาลเอกชนด้วย หากมีเจตจำนงค์ในการดูแลประชาชนในพื้นที่ก็สามารถสมัครเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อได้ โดย สปสช.จะจ่ายอย่างน้อย 8,350 บาท/AdjRW ซึ่งเชื่อว่าจะดึงดูดโรงพยาบาลเอกชนให้เข้าร่วมมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ