กรุงเทพฯ 13 ต.ค.-สปสช.ชวนประชาชนใน กทม.เสนอรายชื่อคลินิกในดวงใจที่อยากให้เข้าร่วมบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อจะได้ส่งทีมไปเจรจาให้เข้าร่วมเป็นเครือข่ายต่อไป ตั้งเป้าเพิ่มหน่วยบริการปฐมภูมิใน กทม.อีกอย่างต่ำ 500 แห่งภายใน 1 พ.ย. นี้
นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สปสช.อยู่ระหว่างการปรับระบบการให้บริการสาธารณสุขปฐมภูมิในพื้นที่ กทม.ใหม่ โดยนอกจากจะมีหน่วยบริการปฐมภูมิและหน่วยบริการประจำที่เปิดเต็มเวลาแล้ว ยังได้เพิ่มหน่วยร่วมให้บริการ อาทิ คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม คลินิกพยาบาล คลินิกกายภาพบำบัด และร้านขายยา ขย.1 ที่เป็นบริการเฉพะทางหรือเปิดบริการนอกเวลาราชการ เช่น เวลาหลังเลิกงาน ให้สามารถเข้าร่วมให้บริการในระบบหลักประกันสุขภาพได้ โดยทำงานเป็นเครือข่ายร่วมกับหน่วยบริการปฐมภูมิและหน่วยบริการประจำ
ทั้งนี้ ขั้นตอนในขณะนี้ สปสช.อยู่ระหว่างประกาศชวนคลินิก/โรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ กทม. ให้สมัครเข้าร่วมเป็นเครือข่ายหน่วยบริการ ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. 2563 เป็นต้นไป โดยตั้งเป้าว่าจะมีหน่วยบริการต่างๆ เข้าร่วมเป็นเครือข่ายอย่างต่ำ 500 แห่ง โดย สปสช.จะอำนวยความสะดวกลงทะเบียนหน่วยบริการประจำให้ประชาชนก่อน อย่างไรก็ตามเมื่อ สปสช.ลงทะเบียนแล้ว หากประชาชนรู้สึกไม่สะดวกที่จะไปรับบริการในภายหลังหรือประสงค์ที่จะเปลี่ยนหน่วยบริการประจำ ก็สามารถลงทะเบียนย้ายหน่วยบริการประจำได้ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2563 เป็นต้นไป
เลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันนอกจากเปิดให้หน่วยบริการเอกชนที่สนใจสามารถสมัครด้วยตนเองแล้ว ทางศูนย์บริการสารณสุขของ กทม.ทั้ง 69 แห่ง จะเป็นผู้ให้คำแนะนำแก่ สปสช.ว่า ในแต่ละพื้นที่มีหน่วยบริการแห่งใดบ้างที่มีความเหมาะสมที่จะเข้าร่วมในเครือข่าย จากนั้น สปสช.จะเข้าไปเจรจาเชิญชวนอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้แล้ว สปสช. ยังขอเชิญชวนประชาชนสามารถเสนอรายชื่อคลินิกในดวงใจในพื้นที่ กทม.ที่อยากให้เข้าร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพได้อีกทางหนึ่งด้วย
“ไปรับบริการในคลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชนแล้วรู้สึกว่าได้รับการให้บริการที่ดี แพทย์พยาบาลให้การดูแลดีหรือจะด้วยเหตุผลอื่นๆ ที่ทำให้เกิดความประทับใจในการให้บริการ เราเปิดให้ประชาชนสามารถเสนอรายชื่อหน่วยบริการเหล่านี้เข้ามาได้ทาง Facebook สปสช. (https://web.facebook.com/NHSO.Thailand) หรือที่ https://forms.gle/o1M7N62h41v5Ae4n9 หรือโทรศัพท์แจ้งมาได้ที่ 02-554-0500 เพื่อที่ทาง สปสช.จะได้เข้าไปเจรจาเชิญชวนให้หน่วยบริการเหล่านี้มาเข้าร่วมให้บริการแก่ประชาชนต่อไป” นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย