รัฐบาลเผยผลงานการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม

สำนักข่าวไทย ๘ ต.ค.- รัฐบาลเผยรายงานผลการดำเนินงาน ๑ ปี ในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วน ๑๒ เรื่องของรัฐบาล ตัวอย่างผลงานสำคัญของกระทรวงต่างๆ ดังนี้

  • กระทรวงกลาโหม  โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงขยายผลสู่ชุมชน / โครงการหน่วยทหารจ่ายตลาดช่วยเกษตรกรฟื้นฟูเศรษฐกิจ / โครงการรับซื้อและเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร /โครงการขนส่งสินค้าทางการเกษตร “ขนข้าวชาวนา แลกปลาชาวเล”
  • กระทรวงอุตสาหกรรม  โครงการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมชีวภาพ วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพต้นแบบที่ใช้วัตถุดิบจากอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย การจัดทำประกาศคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เรื่อง กำหนดชนิดและคุณภาพน้ำตาลทรายที่ให้โรงงานผลิต พ.ศ.๒๕๖๒ เพื่อให้สามารถนำน้ำเชื่อมที่ผ่านการต้มระเหยที่มีค่าความเข้มข้นของของแข็งที่ละลายไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๐ ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอลได้         
  • กระทรวงการคลัง ๑) โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๖๓  Tier ๑  จํานวน ๔๓.๙๐๔ ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ ๙๘.๒๒ ของพื้นที่เป้าหมายสูงสุด ๔๔.๗ ล้านไร่ มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ ๓.๔๓ ล้านราย และ Tier ๒) จํานวน ๐.๔๘ ลานไร่ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้ง ๒ ส่วน เป็นจํานวนเงินทั้งสิ้น ๔,๐๔๔.๖๒  ล้านบาท ๒) โครงการประกันภัยขาวโพดเลี้ยงสัตว ปีการผลิต ๒๕๖๓   Tier ๑) จํานวน ๒.๐๓๕ ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ ๗๐.๑๘ ของพื้นที่เปาหมายสูงสุด ๒.๙ ล้านไร่ มีเกษตรกรเขารวมโครงการจํานวน ๑๐๖,๐๙๐ ราย Tier ๒) จํานวน ๑,๑๔๕.๗๕ ไร่ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้ง ๒ สวนเป็นจํานวนเงินทั้งสิ้น ๓๕๐.๐๓ ล้านบาท                 

กระทรวงแรงงาน  โครงการสร้างการรับรู้ความปลอดภัย และอาชีวอนามัยแรงงานนอกระบบภาคเกษตร  เสริมสร้างองค์ความรู้ความปลอดภัยในการทำงานในการใช้สารเคมีอันตรายในภาคเกษตร ให้กับแรงงานนอกระบบในภาคเกษตร  ๔,๑๗๐ คน


  • กระทรวงพาณิชย์  ๑. โครงการประกันรายได้เกษตรกร (ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จ่ายเงินส่วนต่างให้เกษตรกร ณ ๓๐ มิ.ย.๖๓ ดังนี้ (๑) ข้าว เกษตรกร ๑,๑๐๒,๒๕๐ ครัวเรือน เป็นเงิน ๑๙,๔๐๙.๒๔ ล้านบาท  (2) มันสำปะหลัง เกษตรกร ๕๓๕,๗๕๙ ครัวเรือน เป็นเงิน ๖,๘๓๖.๙๗ ล้านบาท (๓)  ปาล์มน้ำมัน เกษตรกร ๑,๒๙๑,๖๐๒ ครัวเรือน เป็นเงิน ๕,๑๐๔.๐๑ ล้านบาท และ (๔) ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เกษตรกร ๒๐๗,๗๙๖ ครัวเรือน เป็นเงิน ๖๐๖.๓๐ ล้านบาท   
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๑. บริหารจัดการการผลิตสินค้าเกษตรตามแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri-Map) ปรับเปลี่ยนกิจกรรมการผลิตในพื้นที่ไม่เหมาะสม ตามแผนที่เกษตรจัดการเชิงรุก ๑๗๖,๐๖๘ ไร่ ๒. ปฏิรูประบบเกษตรพันธสัญญาให้เป็นธรรม ออกกฎหมายลำดับรอง (ประกาศ/ระเบียบ) ๖ ฉบับ รับแจ้งและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบธุรกิจ ๒๔๕ ราย ๓. ดำเนินการแก้ไขปัญหาข้าว ขยายศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ๒ ศูนย์ เพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวหอมมะลิ ๒๗,๑๘๔ ไร่ ส่งเสริมการผลิตข้าวพันธุ์ ๔๔,๖๑๗ ไร่ ผลิต และกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าว ๕๙,๓๘๖.๖๐ ตัน จดทะเบียนเครื่องหมายรับรองข้าวพันธุ์แท้ในสหรัฐ ๔. ดำเนินการแก้ไขปัญหายางพารา สนับสนุนให้มีการปลูกแทน ๒.๑๙ ล้านไร่ และอนุมัติวงเงินจัดสรรแก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) ๑ ราย สหกรณ์กลุ่มเกษตรกร ยื่นขอกู้ ๕๑๐ แห่ง ใช้ยางพาราในการซ่อมแซมและปรับปรุงคันคลองชลประทาน ได้ร้อยละ ๓๖.๗๖ ๕.ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและส่งเสริมการทำระบบฟาร์มอัจฉริยะ พัฒนาข้อมูล Big Data พัฒนาพื้นที่การเกษตรพืชเศรษฐกิจโดยใช้เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ ๔ แห่ง ๑ โรงเรือน  ๖. วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการใช้กัญชง ผลิตชุดต้นแบบเครื่องแต่งกายทหารจากเส้นใยเฮมพ์
  • กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 1. โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ ดำเนินการแล้วเสร็จ 6 แห่ง และอยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 17 แห่ง 2. โครงการก่อสร้างจุดจ่ายน้ำถาวรริมถนนสายหลักทั่วประเทศ ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 24 แห่ง ทั่วประเทศ 3. โครงการพัฒนาและส่งน้ำบาดาลระยะไกล ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ 1 แห่ง ที่ตำบลสนามไชย อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี และอยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 2 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดร้อยเอ็ด  4. โครงการพัฒนาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ริมแม่น้ำแบบ Riverbank ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ 4 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดชัยนาท จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดราชบุรี โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร มีนโยบายให้ใช้พลังงานสะอาด (Solar Technology) ระบบโซลาร์เซลล์ เพื่อลดต้นทุนและประหยัดพลังงานไฟฟ้า รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายของเกษตรกร                                                                                    
  • กระทรวงพลังงาน ส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี๑๐ กำหนดให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี๑๐ เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานของประเทศ (สำหรับรถดีเซลทั่วไป) และเริ่มจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี๑๐ โดยกำหนด ส่วนต่างราคาให้ถูกกว่าน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี๗ ที่ ๒ บาท/ลิตร (วันที่ ๑ ต.ค.๒๕๖๒) เพิ่มส่วนต่างราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล บี๑๐ กับบี๗ โดยให้น้ำมันดีเซล หมุนเร็ว บี๑๐ ถูกกว่า บี๗ ที่ ๓ บาท/ลิตร เพื่อจูงใจให้มีการใช้น้ำมันดีเซล หมุนเร็ว บี๑๐ เพิ่มมากขึ้น (วันที่ ๒๘ ก.พ.๒๕๖๓) มีจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี๑๐ ในสถานีบริการทุกสถานี (วันที่ ๑ มี.ค.๒๕๖๓)  
  • กระทรวงคมนาคม ส่งเสริมความปลอดภัยทางถนน พร้อมช่วยเหลือเกษตรกรสวนยางพารากว่า ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท                                                             
  • กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วว. ดำเนินโครงการศูนย์การเรียนรู้วิวัฒนาการใช้ประโยชน์พันธุ์พืช โครงการบริหารจัดการสถานีวิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยีภาคเหนือ (การพัฒนาเกษตรพื้นที่สูง) เช่น งานพัฒนาโทคโนโลยีด้านเห็ด วานิลลา โครงการวิจัยและนวัตกรรมผลิตภัณท์กล้วยหอมทอง เพื่อตอบสนองต่อการทำเกษตรแปลงใหญ่  โครงการพัฒนาศักยภาพผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสุขภาพด้วยนวัตกรรมพื้นที่ระเบียบเศรษฐกิจภาคใต้ (Smart Aging Innovation in SEC) สวทช.จัดทำโครงการขยายผลและถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farm) และการพัฒนาผู้ประกอบการให้บริการ ออกแบบ ติดตั้งระบบเกษตรอัจฉริยะอย่างครบวงจร (Agriculture SystemIntegrators :ASI)
  • กระทรวงสาธารณสุข เร่งศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี “กัญชา” “กัญชง” ๑. การปรับปรุงกฎหมาย ออกกฎหมายลำดับรอง 2 ฉบับ การอนุญาตเกี่ยวกับกัญชา 949 ฉบับ (นำเข้า ผลิต ครอบครอง จำหน่าย) และแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ปลดล็อกกัญชา ให้ผู้ป่วย-แพทย์แผนไทย ครอบครองได้  ๒. พัฒนาแหล่งปลูกกัญชา 6 แหล่ง และได้เตรียมขยายแผนพัฒนาการปลูกใน รพ.สต. 150 แห่ง เพื่อผลิตเป็นยาตำรับแผนไทยใช้ใน รพ.สต. กว่า 3,000  แห่ง ๓. การวิจัยและพัฒนา คุณลักษณะทางเภสัชเวทของพืชกัญชา และการสกัดสาระสำคัญเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ๔. เปิดบริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์แบบผสมผสานแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทย ในสถานบริการ 291 แห่ง ๕. ขับเคลื่อนสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ รองรับนโยบายรัฐบาลส่งผลให้สารมารถส่งออกสารสกัดสมุนไพรไปต่างประเทศ ใน พ.ศ. 2562
  • ศอ.บต.สร้างความมั่นคงเศรษฐกิจครัวเรือน  โดยยึดแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ การสร้างอาชีพจากการทำเกษตรแม่นยำ และการผลิตที่ตรงความต้องการตลาด เช่น ไม้ผล ไผ่เศรษฐกิจ กาแฟ ปศุสัตว์ ประมงชายฝั่ง เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]