กทม.7 ต.ค.-ทดสอบเดินรถบีทีเอสสายสีเขียวถึงสถานีคูคตครั้งแรกฉลุย พร้อมเปิดให้บริการ 6ธันวาคมนี้ เชื่อมต่อการเดินทางขนส่งมวลชนระบบราง 3 จังหวัด สมุทรปราการ กรุงเทพฯ ปทุมธานี ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ต.ค.63 บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าการเปิดเดินไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ซึ่งบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี ได้นำขบวนรถไฟฟ้าวิ่งทดสอบครั้งแรก (First Train In) บนเส้นทางส่วนต่อขยายจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (N17) เพิ่มเติมอีก 7 สถานี คือ
สถานีพหลโยธิน 59 (N18)
สถานีสายหยุด (N19)
สถานีสะพานใหม่ (N20)
สถานีโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช (N21)
สถานีพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ (N22)
สถานีแยกคปอ. (N23)
และสถานีคูคต (N24)
โดยการนำขบวนรถไฟฟ้าวิ่งทดสอบครั้งแรก (First Train In) เป็นไปด้วยความเรียบร้อย งานโยธา และงานติดตั้งระบบการเดินรถทั้ง 7 สถานีแล้วเสร็จเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
จากนั้นในช่วงตลอดเดือน ต.ค.จะทดสอบเดินรถแบบ Dynamic Test เพื่อทดสอบฟังก์ชั่นการทำงานของระบบขณะเคลื่อนไปบนรางและการทดสอบเดินรถเสมือนจริง (Trial Running) ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเปิดให้บริการประชาชนในเดือนธันวาคม 2563 นี้
ผู้ว่าฯกทม.กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดเดินรถไฟฟ้าในเส้นทางส่วนต่อขยายจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุไปยังสถานีปลายทางคูคต ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟฟ้าที่มีความสำคัญของ กทม.โซนเหนือ ผ่านสถานที่ราชการและย่านชุมชนประกอบด้วย ย่านสะพานใหม่ สายหยุด ตลาดยิ่งเจริญ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ โรงเรียนนายเรืออากาศ ย่านลำลูกกา และคูคต เป็นทางเลือกให้กับประชาชนให้หันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ช่วยลดปริมาณการจราจรที่คับคั่งบนถนนพหลโยธิน
นอกจากนี้เมื่อเปิดเดินรถไฟฟ้าในเส้นทางส่วนต่อขยายจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ไปยังสถานี คูคต จะถือเป็นการเปิดให้บริการเดินรถเต็มระบบ จากสถานีคูคตไปจนถึงสถานีเคหะฯ ที่มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 68.25 กิโลเมตร จำนวน 59 สถานีเชื่อมโยง 3 จังหวัด ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัยในการเดินทาง ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับชาวกรุงเทพมหานครและปริมณฑลด้วย .-สำนักข่าวไทย