กทม.7 ต.ค.-กทม.เตรียมรับมือฝน 7-9 ต.ค. เต็มที่ พร้อมจัดรถรับส่งประชาชนเข้าออกพื้นที่น้ำท่วมขังในชั่วโมงเร่งด่วน
เที่ยงวันนี้ (7ต.ค.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) ตรวจเยี่ยมการทำงานของศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร สำนักการระบายน้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือผลกระทบจากพายุดีเปรสชั่นที่อาจทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย รวมถึงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ช่วงระหว่างวันที่ 7-9 ต.ค.นี้ โดยมี นายสมพงษ์ เวียงแก้ว และนางจินดารัตน์ ชโยธิน ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมตรวจเยี่ยม นายณรงค์ เรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ รายงานข้อมูลการปฏิบัติงาน ณ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ชั้น 6 สำนักการระบายน้ำ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 เขตดินแดง
ผู้ว่าฯกทม.เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนว่า ในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค. 63 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชัน และเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออก อ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ซึ่งจะส่งผลให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งกรณีดังกล่าวกรุงเทพมหานครไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เตรียมความพร้อมในการรับมือปริมาณน้ำฝนที่เกิดจากพายุดีเปรสชั่นดังกล่าว
โดยมีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ฝนและเฝ้าระวังปัญหาน้ำขังเร่งระบายในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้แบ่งภารกิจเฝ้าระวังติดตามในพื้นที่ต่างๆ ด้วย ซึ่งในวันพรุ่งนี้(8 ต.ค.63) จะลงพื้นที่บริเวณอุโมงค์ระบายน้ำพระราม 9 เพื่อตรวจสอบว่าต้องดำเนินการในส่วนใดเพิ่มเติมบ้าง ส่วนตัวคาดว่าพายุดังกล่าวจะส่งผลให้มีฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ สูงสุดประมาณ 100 มิลลิเมตร ซึ่งก็ได้เตรียมความพร้อมรับมือฝนอย่างเต็มที่ ทั้งเครื่องผลักดันน้ำ เครื่องสูบน้ำให้มีความพร้อมใช้งานได้อย่างเต็มกำลัง รวมถึงการจัดเจ้าหน้าประจำจุดเสี่ยงต่างๆ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาในเดือน ส.ค.63 มีฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ มากถึง 150 มิลลิเมตร โดยเมื่อวันที่ 2 ต.ค.มีฝนตกมากกว่า 100 มิลลิเมตร ซึ่งหากมีฝนตกมากกว่า 100 มิลลิเมตร จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการระบายน้ำเพิ่มขึ้น ขณะนี้มี 2 จุดที่ใช้เวลาในการระบายน้ำนานสุดประมาณ 3 ชั่วโมง คือ บริเวณสุขุมวิท 71 ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับ อ.สำโรง จ.สมุทรปราการ และบริเวณหน้าวัดศรีเอี่ยม ซึ่งเป็นพื้นที่แอ่งกระทะและอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง ทางรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว
ผู้ว่าฯกทม.กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้กำชับให้สำนักการระบายน้ำลดระดับน้ำ ในคลองเพื่อเตรียมรองรับปริมาณน้ำฝนในระยะนี้ สำนักงานเขตจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงต่างๆ คอยช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนหากเกิดกรณีมีน้ำขังเร่งระบาย และหากพื้นที่ใดที่มีน้ำสูงทำให้เดินทางเข้าออกลำบากให้สำนักงานเขตจัดรถบริการรับส่งประชาชน ซึ่งในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังรอระบายนั้นกรุงเทพมหานคร ได้ให้ความสำคัญตลอดมา จะเห็นว่าปัจจุบันการระบายน้ำในพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพมหานครสามารถทำได้เร็วขึ้นกว่าเดิม แต่หากเกิดฝนตกหนักปริมาณมากกว่า 100 มิลลิเมตร จำเป็นจะต้องใช้เวลาในการระบายน้ำเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม กทม.พร้อมให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบและได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด .-สำนักข่าวไทย