fbpx

นิติฯมธ.โพสต์ชี้แจงการคัดเลือกร้านกาแฟ

กรุงเทพฯ 3 ต.ค.-คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์คำชี้แจง 7 ข้อ กรณีการคัดเลือกผู้ให้บริการเครื่องดื่มภายในพื้นที่ท่าพระจันทร์ ดำเนินการไปตามขั้นตอน โปร่งใส เป็นไปตามหลักเกณฑ์กฎหมาย


ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการสิ้นสุดสัญญาของร้านกาแฟยิ้มสู้ซึ่งให้บริการเครื่องดื่มแก่บุคลากรและนักศึกษาในบริเวณพื้นที่ของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ บนสื่อสังคมออนไลน์นั้น คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (“คณะนิติศาสตร์”) ขอชี้แจงดังต่อไปนี้

1.การที่คณะนิติศาสตร์ดำเนินการคัดเลือกผู้ให้บริการเครื่องดื่มเมื่อสัญญากับผู้ให้บริการรายเดิมสิ้นสุดลง เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปกติภายใต้กฎเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร้านยิ้มสู้คาเฟ่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ให้บริการเครื่องดื่มในพื้นที่ของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ตั้งแต่ปี 2561 โดยสัญญาได้สิ้นสุดในช่วงกลางปี 2563 อย่างไรก็ตามเนื่องจากในช่วงเวลามีการปิดมหาวิทยาลัยเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ผ่อนผันให้ผู้ให้บริการในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยให้บริการต่อไปได้โดยไม่เสียค่าเช่า คณะนิติศาสตร์จึงอนุญาตให้ร้านยิ้มสู้ค่าเฟ่ให้บริการต่อไป โดยไม่ได้เรียกเก็บค่าเช่าพื้นที่แต่อย่างใดจนกระทั่งสิ้นเดือนมิถุนายน 2563


2.เมื่อมีการจัดการเรียนการสอนตามปกติในเดือนสิงหาคม 2563 คณะนิติศาสตร์จึงได้ดำเนินการคัดเลือกผู้ให้บริการตามหลักเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีผู้เสนอตัวเข้ารับการคัดเลือก 2 ราย ได้แก่ ร้านยิ้มสู้คาเฟ่ และ Café Amazon คณะนิติศาสตร์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกจำนวน 14 คน ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนผู้บริหาร ตัวแทนคณาจารย์ ตัวแทนบุคลากรสายสนับสนุน ตัวแทนนักศึกษา โดยคณะกรรมการทำการประเมินในสองส่วน ส่วนแรกเป็นการประเมิน 9 รายการ เช่น ขั้นตอนทางธุรการ ความสะอาดและความปลอดภัยของอาหาร การจัดเตรียมอาหาร การให้บริการ การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และข้อเสนอค่าตอบแทน โดยกรรมการที่เข้าร่วมประชุมจำนวน 12 คน แยกกันประเมินแล้วจึงนำผลคะแนนมารวมกัน ปรากฎว่าร้านยิ้มสู่คาเฟ่ได้คะแนนรวม 1,059 คะแนน Café Amazon ได้คะแนน รวม 1,092 คะแนน ส่วนที่สองเป็นการประเมินรสชาติ ปริมาณ ความเหมาะสมของราคา ความน่ารับประทาน และความสะอาด โดยคณะกรรมการเปิดโอกาสให้ตัวแทนของประชาคมซึ่งประกอบด้วยอาจารย์ เจ้าหน้าที่และนักศึกษาของคณะนิติศาสตร์ทุกหลักสูตรที่ทำการเรียนการสอนที่ท่าพระจันทร์เข้ามามีส่วนร่วมในการประเมินส่วนที่สองนี้ มีผู้เข้าร่วมประเมินทั้งสิ้น 44 คน โดยผู้ประเมินแต่ละคนแยกกันประเมินแล้วจึงนำผลคะแนนมารวมกัน ปรากฎว่าร้านยิ้มสู่คาเฟ่ได้คะแนนรวม 856.5 คะแนน Café Amazon ได้คะแนนรวม 1,011 คะแนน เมื่อพิจารณาผลการประเมินทั้งสองส่วน Café Amazon ได้รับคะแนนมากกว่าร้านยิ้มสู้คาเฟ่

3.วิธีการคัดเลือกที่คณะกรรมการคัดเลือกใช้ในครั้งนี้เป็นวิธีการคัดเลือกแบบเดียวกันกับที่ใช้ในการคัดเลือกเมื่อปี 2561 ซึ่งร้านยิ้มสู้คาเฟ่ได้รับการคัดเลือก

4.คณะกรรมการคัดเลือกเล็งเห็นถึงผลกระทบที่อาจมีต่อลูกจ้างที่เป็นคนพิการของร้านยิ้มสู้คาเฟ่ จึงได้สอบถามความเป็นไปได้ที่ Café Amazon จะว่าจ้างลูกจ้างที่เป็นคนพิการต่อไปในกรณีที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ให้บริการรายใหม่ ซึ่ง Café Amazon ตอบรับที่จะว่าจ้างลูกจ้างที่เป็นคนพิการต่อไปหากได้รับการคัดเลือก


5.คณะกรรมการอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานผลการคัดเลือกเพื่อเสนอให้คณบดีคณะนิติศาสตร์พิจารณาว่าจะเห็นชอบกับผลการคัดเลือกหรือไม่ ในกรณีที่คณบดีคณะนิติศาสตร์เห็นชอบก็จะดำเนินการทำสัญญากับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกต่อไป คณะนิติศาสตร์ขอยืนยันว่า นับถึงเวลาที่เผยแพร่คำชี้แจงนี้ คณะกรรมการคัดเลือกยังจัดทำรายงานการคัดเลือกไม่แล้วเสร็จ และคณบดีคณะนิติศาสตร์ยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบกับผลการคัดเลือกแต่อย่างใด โดยปกติแล้วการแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบจะดำเนินการภายหลังจากที่คณบดีคณะนิติศาสตร์ให้ความเห็นชอบกับผลการคัดเลือกแล้ว

6.อย่างไรก็ตามในระหว่างที่มีการจัดทำรายงานผลการคัดเลือก เจ้าหน้าที่ของคณะนิติศาสตร์ได้แจ้งผลการประเมินต่อร้านกาแฟยิ้มสู้อย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้ทราบถึงขั้นตอนปฏิบัติในกรณีที่ร้านยิ้มสู้คาเฟ่ไม่ได้รับการคัดเลือก โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ร้านยิ้มสู้คาเฟ่ทราบว่า ในกรณีที่ร้านยิ้มสู้คาเฟ่ไม่ได้รับการต่อสัญญา ร้านยิ้มสู้คาเฟ่จะได้รับอนุญาตให้บริการต่อไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 คณะนิติศาสตร์ไม่เคยกำหนดให้ร้านยิ้มสู้คาเฟ่ยุติการให้บริการและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 โดยที่ยังคิดอัตราค่าเช่าเต็มเดือนพฤศจิกายนแต่อย่างใด

7.คณะนิติศาสตร์ต้องขออภัยที่การสื่อสารภายในก่อให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและสร้างความไม่สบายใจให้กับศิษย์เก่า นักศึกษาปัจจุบัน และบุคคลทั่วไป แต่ขอยืนยันว่ากระบวนการคัดเลือกที่ได้ดำเนินการมาแล้วมีความโปร่งใสและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย และในการพิจารณาให้ความเห็นชอบกับผลการคัดเลือกนั้น คณบดีคณะนิติศาสตร์จะพิจารณาถึงการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ความเป็นธรรม และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นบุคลากร นักศึกษาผู้รับบริการทั่วไป ตลอดจนลูกจ้างที่เป็นคนพิการของร้านยิ้มสู้คาเฟ่ หากร้านยิ้มสู้คาเฟ่ไม่ได้รับการพิจารณาให้ต่อสัญญา คณะนิติศาสตร์จะดำเนินการทุกวิถีทางที่จะให้ลูกจ้างที่เป็นคนพิการได้ทำงานต่อไปกับผู้ให้บริการใหม่บนพื้นฐานของความสมัครใจของลูกจ้างแต่ละคน

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 3 ตุลาคม 2563 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบรอง ผอ.โรงเรียนดัง หน.แก๊งค้ายา พบข้าราชการเป็นลูกค้าเพียบ

รวบหัวหน้าแก๊งค้ายาเป็น “รอง ผอ.” โรงเรียนดังย่านปากเกร็ด พร้อมสมุน ขยายผลพบลูกค้าเป็นข้าราชการอีกจำนวนมาก

คนไทย-คนจีนขับรถไล่ชนกันหน้าคลับดังเมืองพัทยา คาดหึงหวงสาวที่มาด้วย

รถตู้ 3 คัน และรถฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน ขับไล่ชนกันไปมา บริเวณหน้าคลับแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา พบเป็นศึกระหว่างคนไทย 1 กลุ่ม และคนจีน 1 กลุ่ม สาเหตุคาดมาจากคนจีนหึงหวงแฟนสาวที่มาด้วย

ปัญหาต่างชาติในภูเก็ต ตอนที่ 3

ปัจจุบันการเข้ามาทำธุรกิจรถเช่าของต่างชาติที่ใช้คนไทยเป็นนอมินีในภูเก็ตมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่รถของชาวต่างชาติในภูเก็ตก็มากขึ้นด้วย ปัญหานี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่โยงใยไปถึงเรื่องของภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยทางการท่องเที่ยว ไม่เฉพาะแค่ภูเก็ต แต่เป็นของเมืองไทยด้วย

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง คุณหญิงพรทิพย์ และพวก ในคดี GT200

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง “คุณหญิงพรทิพย์” และพวกรวม 10 คน ในคดีจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ระบุไม่พบมีมูลความผิด ทุจริต มีการแสวงหาประโยชนแก่ตนเองและผู้อื่นโดยมิชอบ

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัดบางพื้นที่

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัดในระยะนี้ ส่วนภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ปรับแผนเดินรถจากเหตุขัดข้อง-ลดค่าโดยสาร 20%

รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ปรับแผนการเดินรถจากเหตุขัดข้อง ตามมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมปรับลดค่าโดยสาร 20% จนกว่าจะเดินรถได้ตามปกติ

การรถไฟฯ แจ้งเหตุขบวนรถธรรมดาที่ 233 (กรุงเทพ-สุรินทร์) ตกราง

28 มี.ค. – การรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งเหตุขบวนรถธรรมดาที่ 233 (กรุงเทพ-สุรินทร์) ตกราง ส่งผลให้ขบวนรถเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ ล่าช้า นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า วันนี้ (28 มีนาคม 2567) เวลา 17.10 น. การรถไฟฯ ได้รับแจ้งเหตุขบวนรถธรรมดาที่ 233 (กรุงเทพ – สุรินทร์) ตกรางบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 254/7-9 ระหว่างสถานีโคกกรวด – สถานีภูเขาลาด จังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากมีต้นไม้ล้มกีดขวาง ส่งผลให้ขบวนรถในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือเกิดความล่าช้า เบื้องต้นไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหรืออันตรายแต่อย่างใด และได้สั่งให้ฝ่ายเกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการยกรถที่ตกรางดังกล่าว เพื่อให้สามารถเปิดการเดินรถในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือได้ตามปกติโดยเร็ว โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถยกขบวนรถที่ตกรางให้แล้วเสร็จ พร้อมเปิดใช้งานได้ตามปกติได้ภายในคืนนี้ ทั้งนี้ จำเป็นต้องขนถ่ายผู้โดยสาร จำนวน 2 ขบวน ดังนี้ การรถไฟฯ ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ ผู้โดยสารสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์ […]

ออกหมายเรียก “บิ๊กโจ๊ก” รอบ 3 หากไม่มา ชงศาลออกหมายจับ

คณะพนักงานสอบสวนชุดทำคดีเว็บพนันออนไลน์ “BNK Master” ออกหมายเรียก “บิ๊กโจ๊ก” รอบ 3 กำหนดเข้าพบ 1 เม.ย.นี้ หากยังไม่มาเตรียมขอศาลออกหมายจับ