พาไปดูโรงเรียนสังกัด กทม. มาตรฐานโรงเรียนชั้นนำ

2 ต.ค.-วันนี้จะพาไปดูการเรียนการสอนของโรงเรียนรัฐ ในสังกัดท้องถิ่น คือ โรงเรียนในสังกัด กทม. หลายคนพอพูดถึงโรงเรียนสังกัด กทม. ยังมีความคิด ความเชื่อ ว่าเป็นโรงเรียนที่อยู่นอกสายตา ชื่อชั้นอาจจะไม่ได้เทียบเท่ากับโรงเรียนรัฐดังๆ หรือเอกชน เลยจะพามาดู 1 ใน 435 โรงเรียนสังกัด กทม. คือ โรงเรียนประชานิเวศน์ (ฝ่ายประถม)

โรงเรียนประชานิเวศน์ (ฝ่ายประถม) เป็นหนึ่งใน 11 โรงเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในสังกัดสำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร ที่มีผลการประเมิน 3 รอบ จากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ในระดับดีมาก ถึง 3 ครั้ง


เข้ามาในโรงเรียนก็เป็นโรงเรียนขนาดไม่ใหญ่โตมาก มีนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึง ป.6 รวมกัน 1,800 คน ไปดูบรรยากาศการเรียนการสอน ไล่ตั้งแต่อนุบาล เด็กๆ ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด เท่าที่ทางคุณครูและพี่เลี้ยงประจำห้อง และทางโรงเรียนจะดูแลได้ ได้เรียน ได้เล่น ดูแล้วเด็กๆ มีความสุขมาก เห็นกล้องแล้วยิ้ม เล่นกล้องตลอด ถามพี่เลี้ยงที่นี่บอกว่า ต้องผ่านการคัดเลือก ประเมินอย่างเข้มงวด ดูแลเด็กทุกคนเหมือนเป็นลูก เป็นหลานแท้ๆ ทุกคน

ถัดไปดูห้องเด็กโตขึ้นมาหน่อย คือชั้น ป.2 เท่าที่สังเกตเด็กๆ ในโรงเรียนแห่งนี้ กล้าคิด กล้าแสดงออกมากๆ แม้คุณครูจะสูงวัยใกล้เกษียณ แต่ความสดใส คึกคัก รอยยิ้มมีให้เด็กตลอด ไม่ว่าจะถามอะไร ให้ตอบอะไร เด็กๆ ในห้องก็จะแย่งกันตอบกันอย่างสนุกสนาน
ไม่เพียงแค่ห้องเรียนปกติ แต่ที่นี่ยังมีห้องเรียน 2 ภาษาด้วย แต่ไม่ได้เรียกว่า EP แต่เรียกว่า BP หรือ bilingual programm มีตั้งแต่ชั้น ป.1-ป.6 ชั้นละ 2 ห้อง


เด็กๆ จะได้เรียน 5 วิชา (คณิตศาสตร์, อังกฤษ, วิทยาศาสตร์, สุขศึกษา, ศิลปะ) ที่เป็นภาษาอังกฤษจากครูชาวต่างชาติ ซึ่งครูจะเป็นทางสำนักการศึกษาส่วนกลางสอบ และคัดเลือกมาเองทุกขั้นตอน และต้องมีใบประกอบวิชาชีพทุกคน ก่อนส่งมาประจำที่โรงเรียน เด็กๆ ก็ดูจะเพลิดเพลินกับการเรียนการสอนมากๆ บรรยากาศดูสนุกสนานและน่าเรียนมากๆ

และที่สำคัญค่าใช้จ่ายของโรงเรียนแห่งนี้ แม้จะเป็นห้อง 2 ภาษา พ่อแม่สบายใจได้ ไม่เสียเงินสักบาท แถมมีอาหารเช้า ข้าวเที่ยง นม เสื้อผ้า ชุดพละ สมุด หนังสือ ค่ากิจกรรมต่างๆ ที่ทาง กทม. สนับสนุนทั้งหมด คือขอแค่ให้ผ่านเกณฑ์การประเมินความพร้อมที่โรงเรียนกำหนด ก็จะได้เข้ามาอยู่ที่นี่ ดีขนาดนี้ แน่นอนการแข่งขันสูงมากๆ เช่นกัน อย่างห้องสองภาษา อัตรา 1 ต่อ 5 ส่วนห้องปกติ 1:3

ถามคุณจุฑาภัค มีฉลาด ผอ.โรงเรียน เล่าให้ฟังว่า หลักสูตรที่ใช้ในการเรียนการสอน เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาธิการเช่นเดียวกับโรงเรียนอื่นๆ ทั่วประเทศ และโรงเรียนก็มีผลการทดสอบ ONET สูงกว่าระดับชาติ 8 ปีต่อเนื่อง สิ่งที่โรงเรียนให้ความสำคัญคือ ความใส่ใจของครูผู้สอนทุกคนจะต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสมและมีใบอนุญาตใบประกอบวิชาชีพครู ที่สำคัญจะต้องผ่านการคัดเลือกคัดกรองตามหลักจริยธรรม รวมไปถึงพี่เลี้ยงในชั้นอนุบาลก็จะต้องผ่านการคัดเลือกคัดกรองอย่างเข้มงวด จะต้องมีการประเมินอยู่เป็นประจำ หากไม่ผ่านการประเมินก็จะให้ออกทันที


สิ่งที่ทำให้ทางโรงเรียนประสบความสำเร็จในการเรียนการสอนไม่ใช่แค่ตัวครูหรือแบบการเรียนการสอน แต่เป็นการดึงผู้ปกครองมามีส่วนร่วมทุกครั้งที่มีการประชุมผู้ปกครองโรงเรียนจะอธิบายให้ทุกคนได้เข้าใจว่าในปีการศึกษานี้ลูกๆ จะต้องเรียนอะไรบ้าง และนำแบบประเมินกลับไปตรวจสอบสิ่งที่ลูกๆ ได้เรียนว่าตรงตามหลักสูตรหรือไม่ ลักษณะเช่นนี้มีไม่กี่โรงเรียนนำไปปฏิบัติ และยืนยันโรงเรียนนี้ไม่มีการลงโทษด้วยการใช้ความรุนแรงเด็ดขาด

ด้านผู้ปกครองที่นำลูกมาเรียน วันนี้เจอทั้งคุณครู และคุณหมอ ทั้งคู่บอกว่าเคยคิดจะนำลูกเข้าโรงเรียนเอกชน แต่ต้องประเมินความพร้อมของตัวเองว่าสามารถส่งได้ขนาดไหน และทำการบ้านศึกษาข้อมูลจากคนที่เคยส่งลูกเรียนในที่ต่างๆ ที่เลือกไว้ จนตกผลึกทางข้อมูล แต่โรงเรียนที่ดี ที่ดังก็ไม่ใช่คำตอบที่จะทำให้ลูกประสบความสำเร็จ พ่อแม่ ผู้ปกครอง และเด็กก็ต้องมีความพร้อมเช่นเดียวกัน

โรงเรียนสังกัด กทม. ที่มีทั้งหมด 435 แห่ง มีสถานศึกษาที่ สมศ. รับรอง 389 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 89.43 ไม่รับรอง 46 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 10.57 โดยมีผลประเมินระดับดีมาก 27 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 6.21 ระดับดี 362 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 83.22 ในจำนวนนี้ได้ระดับดีมากทั้ง 3 รอบ 11 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 2.30

สำหรับโรงเรียนสังกัด กทม. ที่มีผลการประเมินระดับดีมากทั้ง 3 รอบ ได้แก่ รร.คันนายาว (ธาริน เจริญสงเคราะห์ ) รร.จินดาบำรุง รร.ประชานิเวศน์ (ฝ่ายประถมศึกษา) รร.คชเผือกอนุสรณ์ รร.วัดขุมทอง รร.พลมานีย์ รร.วัดใต้ (ราษฎรนิรมิตร) รร.วัดบึงบัว รร.ลำพะอง (ราษฎร์จำเริญบำรุง) รร.วัดภาษี และ รร.วัดสัมพันธวงศ์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย