ครูทำร้าย นร.ต้องไม่เกิดใน รร.กทม.

กทม.1 ต.ค.- ผู้ว่าฯกทม.ลั่นปัญหาครูทำร้ายนักเรียนในโรงเรียนสังกัด กทม.ต้องไม่เกิด


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) โพสต์เพจเฟซบุ๊ก “ผู้ว่าฯอัศวิน” เรื่อง ปัญหาครูทำร้ายนักเรียนในโรงเรียนสังกัด กทม.ต้องไม่เกิด โดยระบุว่า กทม.เคร่งครัดในการจัดระบบการศึกษาโรงเรียนสังกัดกทม.ทั้ง 437 แห่งมาโดยตลอด ทั้งในส่วนของบุคลากรทางการศึกษา คุณภาพการศึกษา และการดูแลเด็กจะต้องเป็นไปตามมาตรการที่ทางราชการกำหนด เพราะพ่อ แม่ ผู้ปกครองให้ความไว้ใจและฝากบุตรหลานไว้กับเรา ก็ต้องดูแลเต็มที่ครับ การใช้ความรุนแรงในโรงเรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีครูทำร้ายนักเรียนต้องไม่เกิดขึ้น

ต้องยอมรับครู เป็นอาชีพที่เหนื่อยมากจริงๆ ต้องทุ่มเทและเสียสละดูแลเด็กจำนวนมาก ทั้งด้านวิชาการ พฤติกรรม การอบรมบ่มนิสัยให้เด็กเป็นคนดี และเป็นอนาคตของครอบครัว ดังนั้นคุณสมบัติของครูและบุคลากรทางการศึกษาของกทม.สำคัญ ซึ่งกทม.ได้เข้มงวดตั้งแต่การคัดเลือกความประพฤติ จรรยาบรรณ ความรัก ความเมตตาต่อนักเรียน จิตวิญญาณของความเป็นครู และครูทุกคนต้องมีใบประกอบวิชาชีพครูอย่างถูกต้อง เมื่อบรรจุเป็นครูแล้ว ก็จะต้องฝึกอบรมด้านต่างๆ รวมถึงเทคนิคด้านจิตวิทยาสำหรับครูยุคใหม่ เพื่อให้เข้าใจถึงพฤติกรรมของเด็กในยุคปัจจุบันด้วย


หากจำเป็นต้องลงโทษนักเรียนก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดไว้ และต้องคำนึงถึงอายุของนักเรียนตลอดจนความร้ายแรงประกอบการลงโทษครับ ได้แก่ ว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บน ตัดคะแนนความประพฤติ และทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งเจตนาก็เพื่อแก้นิสัยและความประพฤติที่ไม่ดีของนักเรียน ให้รู้สำนึกในความผิดและไม่ทำผิดซ้ำๆ อีกต่อไป ที่ห้ามเด็ดขาด คือ ห้ามลงโทษนักเรียนด้วยวิธีรุนแรง หรือกลั่นแกล้ง หรือลงโทษด้วยความโกรธ

ส่วนการคัดเลือกครูต่างชาติเพื่อช่วยสอนภาษาต่างประเทศในโรงเรียนก็เช่นกัน ผู้สอนต้องมีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า มีวีซ่าการพักอยู่ในประเทศไทยตามหลักเกณฑ์ถูกต้อง ซึ่งในการคัดเลือกก็จะเข้มข้นมากครับ คณะกรรมการจะดูตั้งแต่ประสบการณ์ แฟ้มงาน ความรู้ความสามารถ ทัศนคติ และการสาธิตการสอน เพื่อให้มั่นใจว่านักเรียนในสังกัดกทม.ของเรา จะได้รับความรู้และนำภาษาต่างประเทศ ไม่ว่าจะจีน อังกฤษ มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันและสร้างแรงบันดาลใจต่อการเรียนภาษาต่างประเทศในอนาคตอีกด้วย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“การท่าเรือฯ” ลงนามในสัญญาจ้างเหมาต่อเรือขุดลำใหม่

“มนพร” เร่งรัด “การท่าเรือฯ” ลงนามในสัญญาจ้างเหมาต่อเรือขุดลำใหม่ ทดแทนเรือสันดอน 7 ที่เสื่อมสภาพ หวังเพิ่มศักยภาพด้านการขุดลอก สนองนโยบายกระทรวงคมนาคม ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพ – ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์

ตรวจสอบความสัมพันธ์ “โกทร-ส.จ.โต้ง” หลังปรากฏข้อมูลอาจเป็นลูกแท้ๆ

กองปราบฯ เร่งตรวจสอบความสัมพันธ์ “โกทร-สจ.โต้ง” หลังปรากฏข้อมูลว่าอาจเป็นลูกแท้ๆ ของ “โกทร” ที่เกิดจากภรรยาเก่า

ข่าวแนะนำ

ภาคเหนือ-อีสาน อากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบน อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อีสานและเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว ยอดดอยและยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง ส่วนภาคใต้ตอนล่าง ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ตร.ขยายผลค้นตัวชายคลั่งพบกระสุนเพียบ

ตำรวจขยายผลหาหลักฐานคดีชายยิงเครือญาติและชาวบ้าน เสียชีวิต 2 ราย พบกระสุนปืนในตัวผู้ก่อเหตุจำนวนมาก ขณะที่สอบปากคำ ครอบครัวชายคลั่งพบมีอาการผิดปกติทางจิต ไม่ยอมไปตรวจรักษา

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก