เปิดใจประธานโรงเรียนเครือสารสาสน์

อสมท 1 ต.ค.63- ประธานอำนวยการโรงเรียนในเครือสารสาสน์ เปิดใจ ขอความเป็นธรรมให้โรงเรียนและบุคคลากรส่วนใหญ่ พร้อมปรับปรุงคุณภาพโรงเรียน


นายพิบูลย์ ยงค์กมล ประธานอำนวยการโรงเรียนในเครือสารสาสน์ ผ่านรายการเจาะลึกประเด็นร้อน  วิทยุ MCOT FM 100.5 ระบุ ที่ผ่านมาได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อหลายแห่ง ซึ่งบางครั้งถูกใส่สีใส่ไข่ มองเพียงด้านเดียวไม่ได้มองหลายด้าน ทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง โรงเรียนในเครือต้องได้รับความเสียหายไปทั้งหมด ทั้งที่เสียหายมาจากครูกลุ่มเดียวที่กระทำผิด  ดูแล้วไม่เป็นธรรมกับโรงเรียนส่วนใหญ่

ทั้งนี้ขอชี้แจงในเรื่องที่ตนเองให้สัมภาษณ์ผ่านรายการตอนหนึ่งว่า ตนก็ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู ยอมรับว่าไม่มีใบอนุญาตจริง แต่เนื่องจากในสมัยที่ตนเองเป็นครูนั้น ยังไม่มีข้อกำหนดที่บุคคลากรครูจะต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งคนรุ่นเก่าจะรู้ดีกันอยู่แล้ว แต่ถูกนำมาใช้เป็นข้อท้วงติงกล่าวหาว่าเป็นตัวอย่างให้ครูคนอื่นในโรงเรียนทำได้ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วโรงเรียนมีครูไม่กี่คนที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู


สำหรับกรณีที่มีการตรวจสอบครู 400 คน พบใบอนุญาตเพียง 90 กว่าคน ขอยืนยันว่าครูเกือบทั้งหมดมีใบอนุญาตถูกต้อง แต่ในวันที่ตรวจสอบนั้นอาจไม่ได้นำใบอนุญาตมาแสดงด้วย ขณะที่ครูอีกส่วนหนึ่งซึ่งมีจำนวนน้อยอยู่ระหว่างขอผ่อนผันดำเนินการเรียนเผื่อสอบใบอนุญาตให้ถูกต้องตามระเบียบที่กระทรวงฯกำหนดไว้  ทั้งนี้หากครูไม่มีใบอนุญาตถูกต้องโรงเรียนไม่สามารถขอรับเงินอุดหนุนได้แน่นอน ที่ผ่านมาโรงเรียนถูกตีความผิดไปจากความเป็นจริงอย่างมาก ขอให้มองให้รอบด้านอย่ามองเพียงจุดเดียว ซึ่งหากมีกฎระเบียบใหม่ให้นำใบอนุญาตของแต่ละบุคคลมาแสดงไว้ที่โรงเรียนก็พร้อมจะปฏิบัติการ

นายพิบูลย์ กล่าวว่า ในส่วนโครงสร้างการบริหารจัดการโรงเรียน ปัจจุบันได้แบ่งหน้าที่ในการดูแลโรงเรียนให้ลูก และผู้เชี่ยวชาญดูแล มีโครงสร้างบริหารแบ่งเป็น 3 ส่วน มีหัวหน้า 3 ส่วน มีผู้ช่วยและเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีก 12 คน แต่ทำไมถึงมีความบกพร่องในการตรวจสอบความเรียบร้อยของโรงเรียนต้องติดตามตรวจสอบแก้ไขข้อบกพร่อง ส่วนตนเองดูแลในส่วนของภาพรวมด้านการขยายกิจการ ไม่ได้ลงลึกในวิชาการหรือการเรียน ยอมรับไม่ได้เจาะลึกทุกโรงเรียน  โดยขณะนี้มีกว่า 50 สาขา แบ่งคนในการดูแล โดยมีเครือข่ายทั่วประเทศ ใช้กระบวนการบริหารโรงเรียนแต่ละแห่งทั่วประเทศ นำรูปแบบคล้ายภาครัฐมาปรับใช้ในการบริหารกับเครือสารสาสน์ โดยเน้นยำกับทุหกโรงเรียนเสมอให้โรงเรียนดูดีๆ ห้ามทำเหตุรุนแรงกับเด็กเด็ดขาด

ทั้งนี้ในเรื่องราคาค่าเล่าเรียนในความเป็นจริงแล้วโรงเรียนได้แบ่งโปรแกรมการเรียนเป็นหลายระดับ ไม่ได้มีเฉพาะการเรียนแบบ 2 ภาษาเท่านั้น ซึ่งมีโปแกรมที่มีราคาถูกสามารถเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเรียนการสอนของครอบครัวทุกระดับได้ เป็นโปรแกรมการเรียนที่ได้ความรู้พอกับสองภาษา เรียกว่าโปรแกรมอาเซียน ใช้บุคคลากรจากผู้เชี่ยวชายในประเทศอาเซียนมาสอน เช่น ฟิลิปปินส์ ทำให้ค่าเล่าเรียนมีราคาถูก เพียงหลักหมื่นบาท ไม่ได้เป็นแสนอย่างที่เข้าใจกัน แต่ได้ความรู้ใกล้เคียงกับโปรแกรมการเรียน  2 ภาษา ส่วนค่าเทอมเป็นแสนไม่จริงเป็นการใส่ไข่ เป็นกลุ่มที่เรียนในโปรแกรม 2 ภาษา เพราะจ้างบุคคลากรมาแพง ทั้งนี้เป็นความตั้งใจต้องการช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาส คนยากจน ให้มีโอกาสเข้าถึงระบบการเรียนที่มีคุณภาพ


นายพิบูลย์ ยืนยันว่าโรงเรียนไม่ได้มองเพียงกำไรอย่างเดียว ที่ผ่านมาได้มีการก่อตั้งโรงเรียนเพื่อเด็กยากจนในหลายพื้นที่ ให้ที่เรียนที่กินโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เช่น ที่แม่วาง จ.เชียงใหม่ มีเด็กนักเรียน 300 คน ขาดทุนปีละ 2ล้านบาท ที่ บางตาล จ.ราชบุรี ช่วยเด็ก 1,500 คน ขาดทุนปีละกว่า 2 ล้านบาท บางคนได้ทุนเรียนฟรีอยู่ฟรี และยังสนับสนุนให้เด้กมีความสามารถที่หลากหลายฝึกเด็กให้มีความสามารถด้านเล่นดนตรี ป.1-ป.6 เล่นคีย์บอร์ดเป็น ม.1-ม.3 เล่นกีต้าร์ หรือไวโอลินเป็น ขณะที่สาขาทั่วไปกำไรขาดทุนอยู่ที่จำนวนของเด็กที่เข้าเรียนจะมีกำไรพอเลี้ยงตัวได้ก็ต่อเมื่อมีเด็กเข้ามาเรียนจำนวนมาก พร้อมย้ำคุณภาพสำคัญมากถ้าโรงเรียนไม่มีคุณภาพก็จะไม่มีเด็กมาเรียน สำหรับผู้บริหารสาขาที่มีปัญหาจะมีมาตรการลงโทษต่อจากนี้ ซึ่งมีบางคนที่ให้ออกไปแล้ว ส่วนการเสนอให้ปิดโรงเรียนชั่วคราวไม่เห็นด้วย ใครจะพื้นที่รองรับให้เด็กอีกกว่า 3,800 คน จะไปอยู่ที่ไหน ควรต้องพูดคุยกันให้ชัดเจน ซึ่งโรงเรียนพร้อมปรับปรุงให้เหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

น้ำปิงล้นตลิ่ง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน เตรียมรับมือน้ำ หลังน้ำปิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เชียงใหม่ 27 ก.ย. – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย หลังระดับน้ำปิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดสูงถึง 4.15 เมตร ในคืนนี้ ประเมินเบื้องต้นยังสามารถบริหารจัดการได้ และสั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ค่ำวันนี้ (27 ก.ย. 68) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SWOC1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือระดับน้ำในแม่น้ำปิงหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของจังหวัด ส่งผลให้ให้มวลน้ำจำนวนมากจะไหลลงมาผ่านตัวเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเวลา 22.00-24.00 น. คืนนี้ ชลประทานเชียงใหม่คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3.9 เมตร เป็น 4.0-4.15 เมตร และจะส่งผลให้น้ำปริ่มและเอ่อล้นตลิ่งเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการสถานการณ์ได้ เนื่องจากมีการเสริมคันกันน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้สูงถึง 4.2 เมตร สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่อำเภอต่างๆ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่แตง ทางอำเภอได้รายงานว่าตลอดทั้งวันยังมีฝนตกในพื้นที่ […]

การรถไฟฯ แจ้งน้ำท่วมทำ “ทางรถไฟขาด” สั่งปรับแผนเดินรถ

27 ก.ย. – การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก “ทางรถไฟขาด” ที่บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา สั่งปรับแผนเดินรถ ขณะนี้ได้สั่งการและดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ พร้อมปรับแผนการเดินรถเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนี้ 1.ขบวนรถด่วนที่ 75/76 กรุงเทพอภิวัฒน์ – หนองคาย – กรุงเทพอภิวัฒน์2.ขบวนรถสินค้าที่ 553 มาบตาพุด – บัวใหญ่3.ขบวนรถสินค้าที่ 532 สำราญ – บางละมุงให้เปลี่ยนการเดินขบวนรถในเส้นทางชุมทางแก่งคอย – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่ – หนองคาย 4.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439 ชุมทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ เดินถึงสถานีบ้านเหลื่อม5.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 434 ชุมทางบัวใหญ่ – ชุมทางแก่งคอยรอสถานการณ์น้ำที่สถานีชุมทางบัวใหญ่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่สามารถประมาณการเวลาในการเปิดทางได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงและยังไม่มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบ เมื่อมีความคืบหน้าในการเปิดเส้นทางเดินรถ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้.-513-สำนักข่าวไทย

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]