สธ.3 0ก.ย.-“นพ.ธนรักษ์” เผยประเด็นการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 ยังไม่มีหลักฐานว่าเชื้อกลายพันธุ์มีการแพร่เร็วกว่า หรือรุนแรงกว่าแต่อย่างใด ส่วนวัคซีนอีก 6 เดือน จะรู้ว่าทำการทดลองในระยะสามได้ผลอย่างไร
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้กล่าวว่าการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์จี มีความรุนแรงและรวดเร็วกว่าเดิมนั้นว่า จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีหลักฐานว่าเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์จีดังกล่าวแพร่พันธุ์ได้เร็วและมีความรุนแรงกว่าเดิม เมื่อพิจารณาดูต้นทางของข้อมูลดังกล่าวพบว่า ข้อมูลนี้มาจากนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นคนค้นพบสายพันธุ์จีนี้ และกล่าวถึงเชื้อนี้ แต่ยังไม่มีข้อบ่งชี้และหลักฐานเด่นชัด นักวิทยาศาสตร์คนที่พูดเรื่องนี้ก็ออกมายอมรับแล้วว่าเสียใจก็พูดออกไป เพราะทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องของการคาดเดาเท่านั้น
“สิ่งที่ควรจะต้องมองไปข้างหน้าคือการนำข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่มีนำมาใช้ตามความเป็นจริงไม่ผสมการคาดเดา การพูดจาและสื่อสารที่นำส่งไปที่การเข้าใจผิดเป็นสิ่งไม่สมควร” รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ยังกล่าวว่าแนวคิดเกี่ยวกับการปฏิบัติในระยะต่อไป ไม่ใช่การป้องกันไม่ให้มีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นเลย แต่เรามีเป้าหมายที่จะควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดให้ได้ ไม่ให้มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างหรือแพร่ระบาดในระดับวิกฤติและควรสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพวิถีชีวิตวิถีทางสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วโควิด-19 สามารถทำร้ายคนไทยและทุกคนทั่วโลกแม้ไม่มีผู้ป่วยในประเทศเลยก็เกิดกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขเริ่มวางแผนระยะยาวไปจนปีหน้าหรือในระยะที่มีวัคซีนเข้ามาใช้แล้ว เมื่อนั้นโควิด-19 ก็จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นสำหรับไทย ถึงอยากให้คนไทยช่วยประคับประคองวิถีชีวิต ทั้งสุขอนามัยทางเศรษฐกิจให้สามารถเดินได้ตอบไปอย่างมั่นคง.-สำนักข่าวไทย