นนทบุรี 28 ก.ย. – คณะผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ แถลงแสดงความเสียใจและแสดงความรับผิดชอบ กรณีมีการทำร้ายนักเรียนอนุบาลภายในโรงเรียน โดยพบว่าครูในห้องเรียนที่เกิดกรณีดังกล่าวไม่มีใบประกอบวิชาชีพ
คณะผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ราชพฤกษ์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวแสดงความรับผิดชอบและแสดงความเสียใจ กรณีที่ น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง หรือ “ครูจุ๋ม” ลงโทษนักเรียนอนุบาลด้วยความรุนแรง โดย ดร.วริศนันท์ เดชปานประสงค์ ตัวแทนผู้บริหาร ชี้แจงว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ โดยการบริหารจากนี้จะมีการปรับโครงสร้างผู้บริหาร เพราะเมื่อเกิดข้อผิดพลาด จึงถือเป็นความผิดพลาดของฝ่ายบริหารด้วย อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เชื่อว่าผู้ปกครองได้ขาดความเชื่อมั่น แต่อยากขอโอกาสในการปรับปรุง เนื่องจากทราบแล้วว่ามีการกระทำผิดจริง แต่หากผู้ปกครองเกิดความกังวลใจว่าอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว โรงเรียนจะขอรับผิดชอบในส่วนของค่าเทอมที่ผ่านมา และวันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) โรงเรียนได้เชิญผู้ปกครองนักเรียนห้องดังกล่าวเข้ามาพบ ส่วนห้องอื่นจะทยอยเชิญมาพบต่อไป
นอกจากนี้ คณะผู้บริหารได้ตอบคำถามจากตัวแทนผู้ปกครองที่ถามว่า “ครูทั้ง 4 ท่านที่อยู่ในห้องเรียนที่เกิดเหตุ มีใบประกอบวิชาชีพหรือไม่” ซึ่งผู้บริหารชี้แจงว่า ครูที่มีใบประกอบวิชาชีพจะมีส่วนหนึ่ง และครูที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพจะมีส่วนน้อย โดยโรงเรียนได้ทำใบอนุญาตผ่อนผันในการสอน และครูได้พัฒนาตัวเองในการเรียนต่อ เพื่อให้ได้ใบประกอบวิชาชีพ ในส่วนของ “ครูจุ๋ม” เป็น “พี่เลี้ยง” มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของห้อง จัดเรียงอุปกรณ์ต่างๆ ในส่วนของการเรียนการสอนจะเป็นหน้าที่ของครูประจำชั้น ซึ่งในห้องนั้นครูประจำชั้นเดิมได้ลาออกไป และครูประจำชั้นคนใหม่เป็นครูที่จบการศึกษาด้านการศึกษาปฐมวัย แต่เรื่องใบประกอบวิชาชีพนั้น ทางโรงเรียนได้ทำเรื่องผ่อนผันให้ แต่หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น โรงเรียนได้พิจารณาให้ครูออกไปด้วยกันทั้งหมด
สำหรับความชัดเจนเกี่ยวกับคลิปอื้อฉาวและบทลงโทษเบื้องต้นของครูที่ปรากฏในคลิปวงจรปิดที่พบเห็นพฤติกรรมของ “ครูจุ๋ม” ที่กระทำรุนแรง ปรากฏว่า ครูทั้ง 4 คนที่ปรากฏในคลิปได้ถูกให้ออกจากโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย ครูประจำชั้น ครูชาวฟิลิปปินส์ ครูสอนศิลปะ และครูจุ๋ม
ด้านนายพิบูลย์ ยงค์กมล ประธานอำนวยการโรงเรียนในเครือสารสาสน์ ส่งหนังสือถึงหัวหน้าภาค หัวหน้าเขต และผู้อำนวยการทุกท่าน โดยระบุว่า เรื่องการลงโทษนักเรียน มีนโยบายไม่ให้ตีหรือทำร้ายร่างกาย ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่ทราบกันมานานแล้ว แต่ยังมีการฝ่าฝืนกันเป็นประจำ และที่เป็นเช่นนี้ เพราะผู้บริหารระดับหัวหน้า รวมทั้งผู้อำนวยการไม่ใส่ใจ เคยบอกหลายครั้งแล้วว่าให้อยู่ในห้องได้แค่วันละ 2 ชั่วโมง นอกนั้นให้เดินตรวจ แต่กลับปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้น แปลว่าไม่เคยเดินตรวจ หรือติดกล้องไว้ก็ไม่ดู ฉะนั้นให้หัวหน้าภาคไปตรวจสอบ หากผู้บริหารคนใดไม่ปฏิบัติตามนโยบายให้สั่งลงโทษ ดังนี้ 1.ทำทัณฑ์บน 2.ให้พักงาน 3.ให้ออกจากงาน. – สำนักข่าวไทย
