จิตแพทย์ ชี้อ้างเครียดทำรุนแรงกับเด็กไม่ได้

สำนักข่าวไทย -27 ก.ย.- จิตแพทย์เด็ก ชี้ต่อให้เด็กดื้อซนจนมาเกินปกติ การใช้ความรุนแรงไม่ใช่ทางแก้ไขปัญหา แนะจูงใจในเชิงบวก ชวนเล่นสนุก เป็นทางออก ส่วนผู้ใหญ่ไม่สามารถอ้างเครียด กระทำรุนแรงกับเด็กได้ เพราะต้องเรียนรู้หาทางจัดการกับความเครียดของตนเอง ส่วนคนชอบแหย่เด็ก หรือแหย่สัตว์ อาจเป็นนิสัยที่บ่มเพาะตั้งแต่วัยเด็ก ห่วงเด็กได้รับความรุนแรงตั้งแต่เล็ก ส่อกลายเป็นคนไม่รู้จักสู้คน หรือไม่สลับขั้ว ใช้ความรุนแรงจนเป็นนิสัยในการแก้ปัญหา


พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ รองผอ.สถาบันสุขภาพจิตและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงปัญหาเด็กเล็กถูกกระทำรุนแรงใน รร. ว่าเรื่องนี้ในอนาคตอาจส่งผลบ่มเพาะในเด็กโตขึ้นมี 2 ลักษณะ คือ 1. โตขึ้นไม่กล้าสู้คน เพราะถูกรังแกแต่เด็ก กลายเป็นซึมเศร้า 2. โตขึ้นกลายเป็นคนที่ชอบใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา เรื่องเหล่านี้เกิดจากการเรียนรู้ในวัยเด็ก ส่วนวิธีการที่ผู้ปกครองจะสังเกตได้ หากเด็กถูกกระทำรุนแรงใน รร. มีได้ตั้งแต่การสังเกตตามร่างกาย หรือสังเกตจากการพูดคุย เช่น เด็กพูดน้อย หวาดกลัว หรือ ความสามารถในการช่วยเหลือตัวเอง ลดลง เช่น จากการปัสสาวะเองได้ กลับมากลายเป็นปัสสาวะรดที่นอน, นอนผวา, หวาดกลัวง่าย การพูดคุยกับลูกในวัยเด็ก ควรมีทุกวัน ไม่ใช่รอให้เกิดปัญหา การคุยทำให้พ่อแม่ลูกใกล้ชิดกันมากขึ้น

ส่วนการแก้พฤติกรรมของเด็กหากมีการดื้อซนในโรงเรียน พญ.วิมลรัตน์ ยืนยันไม่จำเป็นต้องโต้ตอบหรือ แก้ไขพฤติกรรมของเด็กด้วยความรุนแรง เพราะความดื้อซนในวัยเด็ก เกิดจากการทำกิจกรรมที่ซ้ำๆ ไม่สนุก หรือร้อน หิว เบื่อ เป็นธรรมดาในวัยเด็ก ต้องจูงใจด้วยพฤติกรรมเชิงบวก สอนชวนคุยให้สนุก ทำกิจกรรม แบบสนุกสนาน น่าสนใจ เด็กก็ทำตามไม่ต้อต้าน ไม่ใช่ข่มขู่ ลงโทษ แบบนี้ยิ่งต่อต้าน ส่วนในผู้ใหญ่ที่ชอบรังแกเด็ก หรือกระทำรุนแรง เหมือนผู้ใหญ่บางคน ชอบแหย่เด็ก แหย่สัตว์ เรื่องแบบนี้ อาจเป็นความผิดปกติได้ตั้งแต่ทางจิต หรืออาจไม่ใช่ แต่เป็นการบ่มเพาะเรียนรู้ในวัยเด็กของเขา มีการใช้ความรุนแรง

ส่วนข้ออ้างเรื่องความเครียด เลยกระทำรุนแรงกับเด็กนั้น ต้องยอมรับว่าคนที่มีความเครียด การควบคุมตัวเองมักทำได้น้อยกว่าคนปกติอยู่แล้ว แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เหตุผลที่ต้องมากระทำรุนแรงกับผู้อื่น ต้องมีการจัดการกับความเครียดของตนเอง ไม่ใช่ระบายคนอื่น เช่น การออกกำลังกาย การพบจิตแพทย์ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก