กช.สั่งสอบใบประกอบวิชาชีพครูที่ทำรุนแรงกับเด็ก

กทม. 26 ก.ย.-คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สั่งสอบใบประกอบวิชาชีพครูที่ทำรุนแรงกับเด็ก พร้อมแย้มข้อมูลว่า โรงเรียนนี้ในหลายสาขาเคยมีเรื่องถูกร้องเรียนมาแล้วหลายครั้งหลายคน ทั้งเรื่องบูลลี่เด็ก เก็บค่าเรียนแพง

นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ กช. ให้ข้อมูลถึงประเด็นครูทำรุนแรงกับเด็กว่า ได้สอบถามไปที่ศึกษาธิการจังหวัดนนทบุรี ทราบว่า โรงเรียนได้ไล่ครูพี่เลี้ยงที่เป็นข่าวออกแล้ว และสั่งให้ตรวจสอบครูพี่เลี้ยงที่บอกว่าได้รับคำสั่งให้มาปฏิบัติหน้าที่ว่า เป็นครูจริงและมีใบประกอบวิชาชีพครูหรือไม่ หากไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู แต่มาทำหน้าที่เป็นครูพี่เลี้ยงตามบทบาทหน้าที่ และทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จะแจ้งไปยังสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาเพื่อกล่าวโทษต่อไป


นอกจากนี้ ยังได้ให้ศึกษาธิการจังหวัดนนทบุรี ไปตรวจสอบด้วยว่าผู้ใหญ่อีก 2-3 คนที่อยู่ในคลิป และมีการะบุว่าเป็นครูนั้น เป็นครูจริงหรือไม่ หากเป็นครูจริง แต่เห็นเหตุการณ์แล้วนิ่งเฉย ไม่ทำอะไร ก็เท่ากับยอมรับกับสิ่งที่ครูพี่เลี้ยงทำ ซึ่งในส่วนนี้ก็ปล่อยไว้ไม่ได้เช่นกัน

ทั้งนี้ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ยอมรับด้วยว่า ระยะหลังโรงเรียนแห่งนี้ในหลายสาขา มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนจำนวนมาก และเรื่องร้องเรียนส่วนใหญ่ มีทั้งการเก็บค่าเล่าเรียนที่แพงมาก บางสาขาแม้มีการรับเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวไปแล้ว แต่ค่าเทอมก็ไม่ลด หรือแม้แต่ปัญหาครูบูลลี่เด็กเรื่องอาหารกลางวัน ตนเองจึงมอบหมายให้กลุ่มงานโรงเรียนสามัญศึกษาประสานผู้รับผิดชอบโรงเรียนสารสาสน์วิเทศให้เข้ามารับทราบปัญหา


ขณะที่ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ให้ข้อมูลเพิ่มว่า การกระทำของครู เข้าข่ายความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนครูประจำชั้นคนอื่นที่ปรากฏในคลิป อาจจะถูกดำเนินคดีฐานเป็นผู้สนับสนุนให้เกิดการทำร้ายร่างกายได้เช่นกัน หากสอบสวนพบว่ารู้เห็น หรือได้ยิน แต่ไม่ให้การช่วยเหลือ ห้ามปราม

ส่วนคลิปที่พ่อแม่ผู้ปกครอง บันดาลโทสะเข้าทำร้ายครู ขณะเปิดคลิปที่โรงเรียน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เตือนว่า อย่าใช้อารมณ์แก้ปัญหา ผู้ปกครองควรใช้กฎหมาย เพราะการทำร้ายครูก็ผิดเช่นเดียวกัน แม้จะเห็นใจผู้ปกครอง แต่กฎหมายไม่มีคำว่าเห็นใจ การบันดาลโทสะไปทำร้ายครู ก็มีความผิดเช่นกัน แม้กฎหมายมาตรา 72 จะเปิดช่องว่า ผู้ใดบันดาลโทสะด้วยเหตุไม่เป็นธรรม ต่อผู้ที่ข่มเหง ศาลอาจลงโทษน้อยกว่าที่กำหนดไว้เพียงใดก็ได้ก็ตาม แต่ก็ต้องรับโทษเหมือนกัน

ด้าน รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่น แนะวิธีเยียวยาสภาพจิตใจเด็กถูกทำร้ายร่างกาย จนหวาดกลัวไม่อยากไปโรงเรียนว่า ต้องใช้เวลา เพราะไม่เหมือนแผลทางร่างกายที่นานวันจะหายไป เด็กอนุบาลที่มีความทรงจำในระยะยาว มีโอกาสที่เด็กจะเกิดภาพจำจนโต ผู้ปกครอง ครู และผู้เกี่ยวข้องไม่ควรไปถามคาดคั้นเด็กซ้ำๆ อีกส่วนที่จะช่วยให้เด็กได้รับการเยียวยาบาดแผลทางจิตใจ คือให้เด็กอยู่ในบรรยากาศที่อบอุ่น ปลอดภัย มีการกอด ให้ความรัก ความเข้าใจ บาดแผลนั้นก็จะหายไปได้ในที่สุด ยกเว้นมีการกระทำรุนแรงซ้ำๆ อาจทำให้บาดแผลยิ่งฝังลึก


นอกจากนี้ กุมารแพทย์ยังแนะให้หมั่นสังเกตและสอบถามบุตรหลาน ด้วย 3 คำถามง่ายๆ คือวันนี้เรียนมาทั้งวันรู้สึกอย่างไร เป็นอย่างไร อยากเล่าอะไรให้ฟังบ้าง หากเด็กไม่อยากเล่า อย่าไปกดดัน และในทางจิตวิทยาสามารถใช้การเล่นให้เด็กเล่าเรื่องหรือวาดรูป เพื่อสังเกตุความผิดปกติได้

ส่วนการย้ายหรือไม่ย้ายโรงเรียนเด็ก กุมารแพทย์มองว่าไม่ใช่คำตอบ เพราะหัวใจสำคัญคือต้องทำให้เกิดระบบเฝ้าระวังระหว่างผู้ปกครอง ครู อะไรที่พลาดไปแล้ว ขอโทษและปรับแก้ หากโรงเรียนทำได้ เด็กจะสามารถปรับตัวและเยียวยาสภาพจิตใจได้เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-อีสานอุณหภูมิลดลงอีกเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยในภาคอีสาน ส่วนภาคเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก

พาชมเรือใบอิตาลีจอดเทียบท่าภูเก็ต

เมื่อ 2 วันก่อน สำนักข่าวไทยเก็บภาพของเรืออเมริโกเวส ปุชชี่ ขณะกำลังจะเข้าจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ชมไปแล้ว วันนี้คุณเพลินพิศ ชูเสน จะพาไปทำความรู้จักเรือลำนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับพาไปเยี่ยมชมภายในตัวเรือ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว