สปสช.ประชุม ย้ำดูแล ปชช.สิทธิว่างบัตรทอง

กรุงเทพฯ23 ก.ย.-สปสช.ประชุมหน่วยบริการพื้นที่ กทม. แจงมาตรการดูแลประชาชนสิทธิว่าง “บัตรทอง”จากผลกระทบยกเลิกสัญญาคลินิกเบิกค่าบริการเท็จ ยอมรับส่งผลหน่วยบริการภาระงานเพิ่ม พร้อมขอบคุณที่ร่วมดูแล ย้ำเป็นเพียงช่วงเปลี่ยนผ่าน สปสช.ขณะนี้แก้ไขปัญหา เชื่อ 1-2 เดือน จัดหาหน่วยบริการใหม่รองรับได้ ขณะที่ เลขาธิการ สปสช.ลงพื้นที่สำนักงานเขตหลักสี่ กทม.ดูแลประชาชนลงทะเบียนขอเปลี่ยนหน่วยบริการ


นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นประธานเปิด “การประชุมรับฟังการชี้แจงแนวทาง การรองรับการให้บริการและการจ่ายชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ สำหรับประชาชนสิทธิว่าง กรณีหน่วยบริการประจำถูกยกเลิกสัญญาในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง โดยมีผู้แทนหน่วยบริการภาครัฐในพื้นที่กรุงเทพมหานครเข้าร่วม อาทิ ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. โรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ กทม. โรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ทหาร กรมการแพทย์ทหารเรือ และกรมการแพทย์ทหารอากาศ รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชน อาทิ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เป็นต้น รวม 135 แห่ง

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเพิกถอนสัญญาคลินิกเอกชนจากการตรวจสอบพบการเบิกจ่ายผิดปกติและทุจริต ในฐานะเลขาธิการต้องขอขอโทษจากความรู้สึกจริงๆ ส่วนตัวก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุนี้เกิดขึ้น ทำให้เกิดผลกระทบ 2 ส่วน คือ ขวัญกำลังใจของผู้ให้บริการ ซึ่งรู้สึกว่าทำไม่ปัญหาถึงรุนแรง และไม่มีการดูแลกัน ต้องชี้แจงว่าเรื่องนี้เป็นความจำเป็นของประเทศ เพราะเรื่องทุจริตเป็นสิ่งที่เรายอมไม่ได้ เงินทุกบาททุกสตางค์ในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติล้วนเป็นเงินภาษีประชาชน เมื่อพบหลักฐานเราจำเป็นต้องดำเนินการ และเพิกถอนสัญญา


แต่สิ่งที่ตามมาคือภาระงานที่เพิ่มขึ้นในเวลาอันสั้นของหน่วยบริการที่ยังอยู่ในระบบและต้องแบกรับ ส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งหลายแห่งไม่ได้เตรียมตัวกับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการสื่อสารที่ไม่ทันต่อสถานการณ์ ทำให้หน่วยบริการรองรับไม่เข้าใจ ดังนั้นจึงนำมาสู่การประชุมชี้แจงความร่วมมือในวันนี้เพื่อดูแลประชาชนสิทธิว่างให้เกิดความเข้าใจตรงกัน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับหน่วยบริการและประชาชน

ภาระงานที่เกิดขึ้นฉับพลันของหน่วยบริการที่เพิ่มขึ้นขณะนี้ สปสช.ไม่ปฏิเสธ และขอโทษมาที่นี้ โดยเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่ต้องขอความร่วมมือจากหน่วยบริการ ต้องขอขอบคุณ แต่ยืนยันว่า สปสช.จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดในการจัดหาหน่วยบริการใหม่รองรับประชาชนในคลินิกที่ถูกยกเลิกสัญญาภายใน 1-2 เดือน เพื่อให้ระบบบริการสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ต้องชี้แจงว่าในจำนวนประชาชน 8 แสนคน ที่ขึ้นทะเบียนคลินิกที่ถูกเพิกถอนสัญญา 64 แห่ง มีเพียง 30% ที่เจ็บป่วยและต้องเข้ารับบริการต่อเนื่อง แต่เมื่อมีข่าวนี้ได้ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกขึ้นเพราะเป็นสิทธิของเขา ไม่ใช่ทั้งหมดที่เข้ารับบริการ

ด้าน นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สปสช.เองไม่คาดฝันและไม่คิดว่าจะมีคลินิกเอกชนที่ต้องถูกยกเลิกสัญญามากขนาดนี้ ทำให้หน่วยบริการภาครัฐต้องเข้ามาอุ้มเพื่อให้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติอยู่ได้ ซึ่งต้องขอบคุณทุกหน่วยบริการที่เข้ามาร่วมดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน แต่ขอให้ความมั่นใจว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นนี้คงไม่นาน เป็นเพียงแค่ช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านเท่านั้น เพราะ สปสช.คงไม่สามารถปล่อยให้ปัญหาอยู่ได้นานได้ โดยจะเร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด และในวันนี้จึงได้เชิญทุกคนมาหารือ นอกจากการชี้แจงแนวทางมาตรการต่างๆ ที่ต้องขอความร่วมมือในการดูแลประชาชนแล้ว ยังเป็นการรับฟังผลกระทบที่เกิดขึ้นกับหน่วยบริการเพื่อนำมาเร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็ว


“สปสช.เองก็ไม่อยากทำรุนแรงจนเกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง ขณะนี้ยังมีคลินิกเอกชนอีก 106 แห่ง ที่พบการเบิกค่าบริการผิดปกติที่รออยู่อีก สุดท้ายเชื่อว่าคลินิกชุมชนอบอุ่นจะถูกออกจากระบบเกือบหมด แต่ สปสช.จำเป็นต้องทำ และ สปสช.เองก็ไม่มีทางเลือก เพราะเป็นการทำทุจริต เราสัญญาว่าจะพยายามหาเครือขายหน่วยบริการภาคเอกชนมาร่วมมือโดยเร็วที่สุด แต่ต้องไม่ใช่ผู้ประกอบการที่ทุจริตรายเดิม เชื่อว่ายังมีผู้ประกอบการเอกชนรายใหม่ที่พร้อมจะเข้าร่วม”

นพ.การุณย์ กล่าวว่า ในรอบแรก 2 แสนคน สปสช.สามารถจัดหาหน่วยบริการทดแทนได้ แต่รอบที่ 2 จำนวน 8 แสนราย สปสช.กำหนดเป็นสิทธิว่าง เพราะหน่วยบริการรัฐเองก็เต็มที่รับไม่ไหว แต่สิทธิว่างนี้ถือว่าประชาชนยังมีสิทธิบัตรทองอยู่ ขอให้หน่วยบริการช่วยดูแลหากมีประชาชนสิทธิว่างในกลุ่มนี้ไปรับบริการ โดย สปสช.จะจ่ายชดเชยค่าบริการให้ ทั้งนี้จากข้อมูลผู้รับผลกระทบนั้น ประมาณ 30% มีการเจ็บป่วยที่ต้องรับการรักษาส่วนหนึ่ง โดยตัวเลขการรับบริการไม่ได้มากและน่ากลัวอย่างที่คิด

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 11.00 น.นพ.ศักดิ์ชัย พร้อมด้วย นพ.ปริญญา ชมวงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต13 กทม.ลงพื้นที่สำนักงานเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ณ จุดลงทะเบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการที่ สปสช.ยกเลิกสัญญาคลินิกเอกชน 64 แห่งที่พบการเบิกจ่ายผิดปกติและเบิกจ่ายค่าบริการไม่ถูกต้อง โดยได้ให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าสิทธิบัตรทองยังอยู่ ไม่ได้ถูกยกเลิก ยังคงเหมือนเดิม และเรื่องนี้เกิดเฉพาะในพื้นที่ กทม. ไม่รวมจังหวัดอื่นที่การให้บริการในระบบยังเหมือนเดิม ขณะที่การแก้ไขปัญหา เบื้องต้น สปสช.ได้เร่งดูแลในส่วนผู้ป่วยเร่งด่วนที่ต้องได้รับการรักษาต่อเนื่องแล้ว และคาดว่าในอีก 1-2 เดือน คงมีหน่วยบริการใหม่เพิ่มเติมเข้ามาในระบบเพื่อให้ประชาชนเลือกหน่วยบริการใหม่ได้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป่วนปัตตานี! ลอบบึ้มชุด รปภ.งานกีฬา อบต.น้ำดำ เจ็บ 4 นาย

21 ก.ค.- ป่วนงานกีฬา อบต.น้ำดำ ปัตตานี คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาฯ ขณะรักษาความปลอดภัย บาดเจ็บ 4 นาย วันที่ 21 ก.ค.68 เมื่อเวลา 16.50 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณสามแยกคอกควาย บ้านบือแนยามู หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เบื้องต้นแรงระเบิด ทำให้ อส.ชคต.น้ำดำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 นาย อาการหูอื้อ ถูกนำส่งโรงพยาบาลทุงยางแดง จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว กำลังรักษาความปลอดภัยสนามกีฬา งานกีฬา อบต.น้ำดำ ระหว่างทางได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดียทักษิณคิดเพื่อไทยทำ

21 ก.ค.- “แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดีย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” ถามเป็นของเขาได้อย่างไร เหมือนตอนปล่อยคลิปเสียงแล้วมาบอกไม่ได้ปล่อย ด้าน “สรวงศ์” ขอสื่อไทยเลิกเป็นกระบอกเสียงกัมพูชา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังร่วมงานแถลงข่าวทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2569 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนางสาวแพทองธาร ตอบสั้นๆ กรณีที่มีรายงานข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วมในวันพรุ่งนี้ว่า “ไม่ทราบเลยค่ะ ” ส่วนวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.)ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีอะไรพูดเป็นพิเศษกับผู้เข้าร่วมงานหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า “ให้รอฟัง” เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาระบุว่ามีส่วนร่วมในการคิดนโยบาย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” นางสาวแพทองธาร นิ่งคิดก่อนที่จะหันไปถามนายสรวงศ์ ว่า “เป็นของเขาได้อย่างไร” ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าเขาเคลมว่าเป็นแบบนั้น นางสาวแพทองธาร ยิ้ม นิ่งคิดก่อนที่นายสรวงศ์จะบอกว่า “สื่อไทยต้องเลิกเป็นกระบอกเสียงให้กัมพูชา” นางสาวแพทองธารจึงพูดต่อว่า “ก็เหมือนที่เขาบอกว่าปล่อยคลิป แล้วก็บอกว่าไม่ได้ปล่อย ใช่ไหม เหมือนกันนั่นแหละ” -สำนักข่าวไทย

มติ มส. เคาะแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง

21 ก.ค.- ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง กรณีการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุที่ผิดพระธรรมวินัย พร้อมกำหนดกรอบเวลาวินิจฉัยรู้ผลภายใน 10 วัน หากมีหลักฐานชัด และขั้นตอนการสละสมณเพศของพระที่กระทำผิด ย้ำการปรับครั้งนี้ เพื่อความรวดเร็วในการจัดการ เพิ่มบทบาทสำนักพุทธฯ แสวงหาข้อมูลและร่วมมือกับหน่วยงานอื่น รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ร่วมแถลงข่าวเปิดเผย ภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมวันนี้ โดย รศ.ดร.ชัชพล ระบุว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติม กฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง เพื่อใช้ในการเร่งรัดการปฏิบัติต่อพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดต่อพระธรรมวินัย หนึ่ง เกี่ยวกับการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุตามพระธรรมวินัย กฎนี้เดิมตราขึ้นปีตั้งแต่ปี 2521 โดยจะมีการเพิ่มเติมที่ให้อำนาจข้าราชการมีส่วนนำเสนอประเด็นได้โดยไม่ต้องรอคณะสงฆ์อย่างเดียว โดยอำนาจวินิจฉัยยังเป็นคณะสงฆ์ ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ จะมีส่วนในการสนับสนุนข้อมูล พยานหลักฐาน ช่วยเร่งรัดกระชับกระบวนการให้จัดการได้ไวขึ้น โดยร่างกฎมหาเถรมาคมเรื่องลงนิคหกรรม ที่จะบังคับใช้เพิ่มเติมใหม่ จะมีการเพิ่มเติมหมวด โดยเฉพาะวิธีการปฏิบัติเมื่อปรากฏหลักฐานพระสงฆ์กระทำผิดชัดแจ้ง เช่น แบ่งเป็นในการพิจารณาพระภิกษุที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดพระธรรมวินัย เนื่องจากเสพเมถุน หรือต้องอาบัติปาราชิกอื่นๆ […]

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกาเป็นเหตุให้สึก

บก.ปปป. 21 ก.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกา 2 ราย เป็นเหตุให้สึก ส่วนการทุจริตก่อสร้างพุทธอุทยาน และ มจร. อยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียน “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า หลังเกิดกรณีของ “กอล์ฟ” ได้ตรวจสอบเอาผิดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงชั้นเทพ ส่วนกรณีวัดที่จังหวัดนครสวรรค์ มีสมณศักดิ์สูงกว่าคือชั้นธรรม ซึ่งเรื่องอาญาในการทุจริต โดยมีข้อมูลเชื่อมโยงกันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี วันนี้จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน แม้พระจะสึกไปแล้วยังต้องได้รับการตรวจสอบจากตำรวจด้วยว่าจะเข้าข้อหาอาญาทุจริตหรือไม่ จากการตรวจสอบมีเส้นเงินที่ตรวจสอบพบเกี่ยวกับกอล์ฟ หลายเส้นเงิน ทาง ผบช.ก. จึงสั่งให้ตรวจสอบทุกวัด ทุกรูป แม้จะตรวจสอบไม่พบจากคลิปวิดีโอหรือแชตไลน์ ก็ให้ทำการตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วย ส่วนกรณีการตรวจสอบก่อสร้างของพุทธอุทยาน และโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า […]