ศิริราช 22 ก.ย.-คณบดีศิริราชชี้ 3 ปัจจัยเสี่ยงรุมเร้าทำไทยติดโควิดสูง ทั้งจากการระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน-อุณหภูมิโลกลด-การชุมนุมทางการ เมือง พร้อมห่วงหากโควิดติดในกลุ่มผู้ชุมนุมจะน่าห่วงสุด เพราะเด็กวัยหนุ่มสาว ไม่แสดงอาการ และแพร่โรคเร็ว
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ขณะนี้มี 3 ปัจจัยหลักในสถานการณ์ปัจจุบันที่อาจส่งผลให้ไทยเสี่ยงติดโควิด
1.สถานการณ์จากประเทศเพื่อนบ้านรอบประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นเมียนมา ที่วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 600 กว่าคน และอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น และยังกลุ่มแรงงานเมียนมาพยายามผ่านชายแดนเข้าไทยตลอดเวลา หรือแม้แต่สถานการณ์ใน มาเลเซียที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น ต่อเนื่อง
2.ปัจจัยของภูมิอากาศ ที่ขณะนี้เข้าสู่ช่วงฝน อากาศเย็นลง เป็นช่วงที่เชื้อไวรัสระบาดได้ง่าย อยู่ในอากาศได้นานขึ้น และประเทศทางตะวันตกอุณหภูมิลดลง เพราะฉะนั้นองค์การอนามัยโลก คาดการณ์ว่าต่อจากนี้อาจเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทั้งโลก
และ 3.เกิดกิจกรรมชุมนุมที่ทำให้คนเข้ามารวมตัวกัน และจำนวนไม่น้อยละเลิกมาตรการป้องกัน ทั้งการไม่ใส่หน้ากาก การอยู่ใกล้กัน อีกทั้งมีการพูดตะโกนใส่กัน เหล่านี้เป็นปัจจัยเสี่ยงทั้งสิ้น
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ทั้ง 3 ปัจจัยที่ว่าที่กำลังเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ทำให้เกิดอัตราเสี่ยงโรคสูง จึงฝากเตือนเพราะไม่อยากเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อ เพิ่มมากขึ้น แต่หากมีเกิดขึ้นก็อย่าตื่นตระหนก แต่ขอให้รีบกลับมาระวังตัวเอง ทำสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วว่าต้องทำ แต่อาจจะละเลย ไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากาก รักษาระยะห่าง ล้างมือ สแกนเช็กอินเช็กเอาต์ และอยากให้ทบทวนกิจกรรมชุมนุมทั้งหลาย ซึ่งเข้าใจว่าคนทำกิจกรรมก็มีวัตถุประสงค์ แต่คำถามคือช่วงเวลานี้เป็นช่วงวิกฤติของประเทศ หากเกิดการชุมนุมและเกิดการติดเชื้อกระจาย เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่หากการชุมนุมเป็นกลุ่มใหม่ของการติดเชื้อ นึกภาพได้เลยว่าจะกระจายเร็วแค่ไหน จึงฝากย้ำเตือนถึงสิ่งที่เราทำดีมาตลอดในมาตรการป้องกันตนเองอย่าละเลย .-สำนักข่าวไทย
