สปสช.เพิ่มศักยภาพจัดส่งยาทางไปรษณีย์

สปสช.21 ก.ย.-สปสช จับมือไปรษณีย์ไทย เพิ่มศักยภาพจัดส่งยาให้ผู้ป่วยบัตรทอง รองรับบริการการแพทย์ยุคใหม่ เริ่มมาแล้ว 5 เดือน มีรพ.เข้าร่วม 209 แห่ง ส่งยาให้ผู้ป่วย1.3แสนราย จำนวน 1.4 แสนครั้ง


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในการลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการพัฒนาระบบบริการจัดส่งยา เวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ทางไปรษณีย์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ระหว่างบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

นายอนุทิน กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ได้มีการพัฒนารูปแบบการให้บริการ ด้านการแพทย์ให้สอดรับกับสถานการณ์ และรองรับบริการทางการแพทย์ในอนาคต ซึ่งการจัดส่งยาให้กับผู้ป่วยทางไปรษณีย์ เป็นหนึ่งในบริการใหม่ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพื่อรองรับสถานการณ์นี้เช่นกัน โดยกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) จะสนับสนุนค่าใช้จ่าย การจัดส่งยาให้กับโรงพยาบาลในสังกัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อให้กับผู้ป่วย และลดความแออัดในโรงพยาบาล


เบื้องต้นเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ทั้งโรงพยาบาลและผู้ป่วยให้การตอบรับจำนวนมาก ช่วงเดือนแรกมีบริการจัดส่งยาให้ผู้ป่วยทางไปรษณีย์เกือบ 3หมื่น ครั้ง ทำให้มีการขยายระยะเวลาการสนับสนุนค่าบริการจัดส่งยาให้กับโรงพยาบาลในสังกัดตลอดปี 2563 และเตรียมต่อเนื่องในปีงบประมาณ 2564 โดยคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดสรรงบประมาณในการสนับสนุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีโรงพยาบาลตอบรับ เข้าร่วมจัดส่งยาทางไปรษณีย์ให้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองแล้ว 209 แห่ง ผู้ป่วยรับบริการจัดส่งยา 1.2 แสนคน และมีการจัดส่งยาให้ผู้ป่วย 1.44 แสนครั้ง

สำหรับแนวทางความร่วมมือในระยะต่อไป บริษัทไปรษณีย์ไทยจำกัด ได้วางแผนพัฒนาให้บริการจัดส่งยาในกลุ่มประเภทยาที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ โดยออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับการจัดส่ง พร้อมระบบขนส่งพิเศษ แยกจากระบบจัดส่งปกติของไปรษณีย์ไทย เพื่อควบคุมให้ยายังคงคุณภาพตลอดระยะทางการจัดส่งจนถึงมือผู้ป่วย ซึ่งภายในปี 63 จะเริ่มทดลองบริการจัดส่งยา ที่ต้องควบคุมอุณหภูมินำร่องระยะแรกในพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑล และจะพัฒนาบริการให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างจังหวัด ในปี 2564.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

กะเหรี่ยงโจมตีฐานทหาร

ชาวเมียนมาหนีตายข้ามมาฝั่งไทย หลังทหารกะเหรี่ยงโจมตีฐานทหารเมียนมา

สถานการณ์แนวชายแดนไทย-เมียนมา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารกะเหรี่ยงจำนวนมากบุกโจมตีฐานทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่ระมาด จ.ตาก ล่าสุดยังปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้ชาวเมียนมา 233 คน ต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยมาฝั่งไทย