ทั่วโลกติดเชื้อโควิดกว่า 31 ล้านราย

กรุงเทพฯ 21 ก.ย.-ผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบ 3 แสนราย/วัน รวมสะสมกว่า 31 ล้านราย ด้านเมียนมา พบรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด 671 ราย ภายในวันเดียว ล็อกดาวน์ในบางพื้นที่


กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันที่ 21 กันยายน 2563 ว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย วันนี้ (21ก.ย.) ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 2 ราย ทำให้มีผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,342 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 95.32 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 105 ราย หรือร้อยละ 2.99 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 59 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,506 ราย

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกในช่วงนี้เพิ่มขึ้นเกือบ 300,000 ราย/วัน ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกสะสมกว่า 31 ล้านราย และมีหลายประเทศกลับมาพบการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งแต่ละประเทศมีมาตรการบริหารจัดการสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป อาทิ อังกฤษ ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 4,000 รายในวันเดียว ได้ออกมาตรการเข้มการกักตัวผู้ติดเชื้อและผู้สัมผัสใกล้ชิด และสั่งปรับผู้ที่ฝ่าฝืน รวมถึงเอาผิดนายจ้างที่ลงโทษลูกจ้างที่ต้องกักตัว


สำหรับเมียนมา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จำนวน 671 ราย ภายในวันเดียว ได้มีมาตรการลดความแออัด ชาวเมียนมาที่เดินทางกลับเข้าประเทศจะต้องถูกกักตัว 14 วัน และกักตัวที่บ้านต่ออีก 7 วัน และล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อในประเทศ

สำหรับประเทศไทย การติดเชื้อในขณะนี้ส่วนใหญ่มาจากผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งภาครัฐได้วางมาตรการเฝ้าระวังควบคุมโรค ทั้งด่านท่าอากาศยานและด่านพรมแดน ผู้เดินทางทุกรายต้องเข้ารับการกักตัวเพื่อเฝ้าระวังอาการในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) สถานกักตัวที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine) หรือสถานพยาบาลทางเลือก (Alternative Hospital Quarantine) และตรวจหาเชื้อตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยสถานกักตัวทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม หรือโรงพยาบาล ผู้กักตัวจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายหากพบติดเชื้อจากประกันโควิดที่ทำไว้ก่อนการเดินทางเข้าประเทศ ส่วนสถานที่รัฐจัดให้จะจัดไว้สำหรับคนไทยที่เดินทางเข้าประเทศเท่านั้น โดยรัฐจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้

ส่วนคนในประเทศ ขอให้อย่าประมาท ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า ทุกครั้งที่ออกจากบ้านและตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ เลี่ยงการนำมือสัมผัสบริเวณใบหน้า ตา จมูก ปาก เว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่นเท่าที่ทำได้ เลี่ยงการเข้าไปในสถานที่แออัด เมื่อป่วยขอให้อยู่บ้าน หรือรักษาตัวให้หายก่อนไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อลดโอกาสในการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น-ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น เตือนภาคใต้ตอนล่างฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่