ไทยยังใช้การตรวจวินิจฉัย PCR หาเชื้อโควิด

กทม.20 ก.ย.-นพ.ยง เผยการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของไทยยังใช้วิธี PCR ซึ่งเป็นวิธีที่ไวที่สุดและง่ายกว่าการเพราะเชื้อเลี้ยงไวรัส แต่มีโอกาสเกิดผลบวกปลอมได้ จึงต้องใช้วิธีติดตามคนไข้มากกว่ายึดถือกระดาษแผ่นเดียว


ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ว่า โควิด-19 กับการตรวจวินิจฉัย ด้วย PCR กับการติดเชื้อหรือความรุนแรงของโรคหรือไม่

ทุกวันนี้เราตรวจวินิจฉัยหาผู้ติดเชื้อด้วยวิธี real time PCR เป็นวิธีการตรวจที่มีความละเอียดและความไวสูงมาก เป็นการตรวจหา RNA ส่วนหนึ่งของไวรัสเท่านั้น ไม่ได้ตรวจไวรัสทั้งตัว


การตรวจพบ จึงแยกไม่ได้ว่าไวรัสนั้นยังมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต สามารถแพร่กระจายโรคได้หรือไม่ได้ และไม่ได้บอกความรุนแรงของโรค

โดยทั่วไปการจะบอกว่าไวรัสมีชีวิต จะทำได้โดยเพาะเชื้อ culture ดูว่าไวรัสแบ่งตัวเพิ่มจำนวนได้หรือไม่ ส่วนใหญ่ไวรัสจะยังมีชีวิตอยู่ในช่วงก่อนมีอาการ และหลังมีอาการแล้วระยะหนึ่งอาจจะเป็น 7-10 วัน หลังจากนั้นโอกาสที่จะแพร่กระจายโรคก็จะเริ่มลดลง แต่จะยังตรวจพบ RNA ของไวรัสอยู่ได้อีกระยะหนึ่ง ในบางรายอาจอยู่นานเป็นเดือน หลายคนเรียกว่า ซากไวรัส

ในการตรวจการติดเชื้อ โควิด-19 ในปัจจุบันยังใช้ PCR เพราะถือเป็นวิธีที่ไวที่สุดและง่ายกว่าการเพราะเชื้อเลี้ยงไวรัส


การตรวจด้วย PCR สามารถบอกเชิงปริมาณ โดยดูค่า Ct หรือ cycle threshold เป็นตัวเลขที่บอกถึงการขยายปริมาณ virus ไปกี่รอบแล้วจึงจะตรวจพบ

ถ้ามีไวรัสน้อย ต้องขยายจำนวนมากจึงจะตรวจพบ Ct ก็จะสูง ทั่วไปแล้ว ขยายเกิน 30 รอบหรือค่า CT เกินกว่า 30 จะมีไวรัสจำนวนน้อยโอกาส แพร่กระจายโรคก็น้อย ถ้าขยายถึง 40 รอบแล้วยังตรวจไม่พบ ก็ถือว่าไม่มีไวรัส หรือผลเป็นลบ

ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่อยู่ใน state quarantine จะมีปริมาณไวรัสค่อนข้างน้อย และไม่ค่อยมีอาการของโรค

อย่างไรก็ตามก็ยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนหนึ่ง ที่ไม่มีอาการแต่มีปริมาณไวรัสมากหรือมีค่า Ct ต่ำ บุคคลเหล่านี้จะมีโอกาสแพร่เชื้อได้สูงดังที่เราเห็นใน super spreader

การตรวจด้วย PCR เมื่อมีความไวสูงก็มีโอกาสที่จะเกิดผลบวกปลอมได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีค่า Ct ใกล้ 40 หรือมากกว่า 35 เช่นผู้ป่วยรายหนึ่งการตรวจ 3 ห้องปฏิบัติการ 4 วิธีให้ผลลบ แต่อีกห้องปฏิบัติการ 1 ให้ผลบวก จะแปลผลอย่างไร ในทางปฏิบัติจะเอาแอนติบอดีมาช่วย และวิธีติดตามคนไข้ มากกว่ายึดถือกระดาษแผ่นเดียว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พยาบาลถูกตบ

“สมศักดิ์” พร้อมช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า

“สมศักดิ์” รมว.สธ. พร้อมสนับสนุนหา “ทนายความ” ช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า บอกหากเจ้าตัวไม่ดำเนินคดี กระทรวงฯ พร้อมออกโรงแทน หวั่นเป็นเยี่ยงอย่าง

รพ.ระยอง ยันดำเนินคดีถึงที่สุดญาติคนไข้ตบพยาบาล

โรงพยาบาลระยอง แถลงปมญาติคนไข้ตบหน้าพยาบาล เผยหลังเกิดเหตุได้ดูแลอาการบาดเจ็บของพยาบาลผู้ประสบเหตุทันที ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

ข่าวแนะนำ

“หลิว จงอี” ถึงกลาโหม เสนอ 4 ข้อปราบแก๊งคอลฯ

“หลิว จงอี” ถึงกลาโหม เตรียมเสนอ 4 มาตรการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “บิ๊กอ้วน” คณะทูตจีนรอต้อนรับ ขณะเจ้าตัวสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่ตอบสื่อ

สธ.ลั่นเอาผิดญาติคนไข้ตบพยาบาลให้ถึงที่สุด

ผอ.โรงพยาบาลระยอง เข้าพบผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข ปมญาติคนไข้บุกตบพยาบาล สธ. ยืนยันต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้านพยาบาลยังเครียด เยื่อบุแก้วหูอักเสบรุนแรง

รวบชาวจีนเช่าคอนโดพระราม 9 เปิดเว็บพนันออนไลน์

ตำรวจบุกจับ ชาวจีน 15 คน เช่าคอนโดยกชั้น ย่านพระราม 9 เปิดเป็นฐานปฏิบัติการเว็บพนันออนไลน์ พบเงินหมุนเวียนในบัญชีดิจิทัล กว่า 9 ล้านบาท