สธ.16 ก.ย.-กรมอนามัย พบเคสดีเจ ทำให้คนไทยใส่ใจป้องกันตนเองมากขึ้น กลับมาสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือและเว้นระยะห่าง จากเดิมการ์ตกลดลง
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า หลังจากกลับมามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดอีกครั้ง ทำให้คนส่วนใหญ่หันกลับมาป้องกันตนเองมาขึ้น จากเดิมผลการสำรวจการป้องกันตนเองสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง กลับมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 90 จากเดิมลดลงเหลือร้อยละ 80 ซึ่งจากการสำรวจสถานประกอบการ พบว่าห้างสรรพสินค้า มีการผ่อนคลายตั้งแต่ระยะต้น ๆ และมีมาตรการ ทั้ง 1.ล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกออล์ฮอล์ 2.พนักงานสวมหน้ากาก ซึ่งต้องขอชื่นชม 3.จัดให้เว้นระยะห่างกัน 4.การทำความสะอาดพื้นผิวที่เป็นจุดสัมผัสร่วม เช่น ลิฟต์ บันไดเลื่อน ทุก 1-2 ชั่วโมง 5.ลดแออัด
6.คัดกรองและแอปพลิเคชันติดตาม 7.ระบบระบายอากาศ มีการทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศทุกๆ 6 เดือน 8.ศูนย์อาหาร /ร้านอาหาร เน้นลดการสัมผัสร่วม จัดเครื่องปรุง จาน ช้อนแยกเป็นชุดๆ 9.การดูแลพนักงานคัดกรองไข้ทุกวัน และอบรมให้ความรู้ในการปกป้องตัวเองจากความเสี่ยง 10.ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้เรื่องการปฏิบัติตัว 11. จัดบริการอื่นๆ เพื่อลดการสัมผัสระหว่างผู้ให้และผู้รีบบริการ
ด้านนายอมร อมรกุล ผู้จัดการใหญ่ สายปฏิบัติการ บริษัทเดอะมอลกรุ๊ป กล่าวว่า คนเรามีวิถีชีวิตต่างกัน ดังนั้นห้างฯ ต้องสร้างสมดุลให้ได้ ดังนั้นในช่วงการระบาดโควิดจึงมีมาตรการ 5 ข้อคือที่จะย่อหย่อนหรืออะลุ่มอล่วยไม่ได้ ซึ่งไม่อยากให้มองว่าเป็นการรบกวน แต่เป็นมาตรการควบคุมป้องกันโรคร่วมกันคือ
1.การคัดกรองไข้คนเข้าห้างถ้าประตูคนน้อยใช้พนักงานวัดไข้คนต่อคน ส่วนประตูที่มีคนเข้าห้างเยอะจะใช้เครื่องเทอร์โมสแกน สิ่งสำคัญคือการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า 100% ถ้าคนไหนไม่ใส่ก็ต้องขออภัยที่ไม่สามารถอนุญาตให้เข้าได้
2.การเว้นระยะ ห่างจะเห็นชัด ทั้งเข้าคิวจุดต่างๆ แม้กระทั่งห้องน้ำ
3.การทำความสะอาดเชิงรุก
4.การสร้างสังคมไร้สัมผัส ดำเนินการต่างๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือ
5.การติดตาม เฝ้าระวังพนักงานทั้งเรื่องการเจ็บป่วยและประวัติต่างๆ เพราะเป็นผู้ที่ต้องใกล้ชิดลูกค้า..-สำนักข่าวไทย