สธ.13 ก.ย..-กรมควบคุมโรค ติดตามสถานการณ์โควิด 19 ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด เผยไทยมีมาตรการในการป้องกันควบคุมโรคอย่างเข้มข้นเพื่อวางแผนในการเตรียมความพร้อมรับมือในอนาคต ล่าสุดเมียนมาพบผู้ป่วยรายใหม่ถึง 173 ราย
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย กล่าวว่า จากกรณีที่มีรายงานข่าวการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศเพื่อนบ้านของไทย เช่น ประเทศเมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม บางประเทศมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะ ที่เมียนมา ณ วันที่ 13 ก.ย. 63 พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 173 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 2,595 ราย ส่วนประเทศเวียดนาม มีผู้ป่วยสะสม 1,060 ราย ประเทศกัมพูชา 274 ราย และประเทศลาว มีผู้ป่วยสะสม 23 ราย ในส่วนของประเทศไทย ที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าว อาจพบปัญหาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อเป็นการป้องกันการนำเชื้อโรคโควิด 19 เข้ามาประเทศไทย จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยร่วมมือกันดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคโควิด 19 อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ทั้งในบริเวณตะเข็บชายแดนดังกล่าว และในจังหวัดที่แรงงานต่างด้าวมักเดินทางไปทำงาน
โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการประเมินความเสี่ยงที่อาจแพร่ระบาดมายังประเทศไทย เพื่อวางแผนในการเตรียมความพร้อมรับมือในอนาคต พร้อมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังที่ด่านชายแดนปกติ และได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง และปกครอง โดยให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุขประชากรต่างด้าว (อสต.) ร่วมตรวจสอบพื้นที่และตรวจลาดตะเวนในช่องทางธรรมชาติ รวมทั้งการค้นหาแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย นอกจากนี้ได้มีมาตรการยับยั้งและป้องกันที่สำคัญคือ การให้ความรู้ อสต. เรื่องการตรวจคัดกรอง การป้องกันตนเอง รวมทั้งการเฝ้าระวัง ร่วมกับการค้นหาผู้ติดเชื้อและประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เชิงรุกแก่ประชาชนในพื้นที่ และจัดสถานที่กักกัน local quarantine สำหรับกักตัวด้วย หากพบความผิดปกติ หรือคนแปลกหน้าในชุมชน จะประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ขอให้ปฏิบัติตามแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) อย่างเคร่งครัด และขอให้ประชาชนทุกคนเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขของประเทศไทยที่มีความเข้มแข็งและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422 .-สำนักข่าวไทย