สธ.31ส.ค.-รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อม รับมือและเข้มงวด ไม่รับแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย ภาคประชาสังคมช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่อง พบบุคคลแปลกหน้ารีบแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด หลังประเทศแถบเอเชีย มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันค่อนข้างมาก
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันที่ 31 สิงหาคม 2563 ว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางต่างประเทศ (อังกฤษ) และเข้ารับการเฝ้าระวังกักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ ไม่มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่ม มีผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,252 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 95.31 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 102 ราย หรือร้อยละ 2.99 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 58 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,412 ราย
สำหรับข้อมูลผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ เดินทางมาจากประเทศอังกฤษ 1 ราย เป็นเพศหญิง สัญชาติอังกฤษ อายุ 29 ปี อาชีพรับจ้าง (ครูสอนภาษา) เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2563 พร้อมสามีและบุตรสาวเข้าพักที่สถานที่กักตัวที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine) ในกรุงเทพมหานคร ตรวจพบเชื้อ ในการตรวจครั้งที่ 2 ในวันที่ 27 สิงหาคม 2563 มีอาการไข้ ปวดศีรษะ
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ในต่างประเทศยังมีการระบาดเป็นวงกว้าง มีรายงานผู้ติดเชื้อทั่วโลกสะสม 25,384,436 ราย มีอัตราการเพิ่มของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละวันกว่า 200,000 ราย สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทยอยู่ระดับค่อนข้างดีต่อเนื่อง แต่ยังคงต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากประเทศแถบเอเชีย ได้แก่ อินเดียและบังกลาเทศ มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันค่อนข้างมาก และพบว่ามีการระบาดมายังชายแดนประเทศเมียนมา ทำให้สถานการณ์ในเมียนมาเริ่มรุนแรงขึ้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าวสามารถเป็นบทเรียนให้ไทยได้ตื่นตัวและเฝ้าระมัด ระวังมากขึ้น สิ่งที่น่ากังวลของประเทศไทยคือการเดินทางเข้ามาของกลุ่มแรงงานต่างด้าวตามเขตแนวชายแดนไทย-เมียนมา โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อม อาทิ ด้านความมั่นคงซักซ้อม รับมือและเข้มงวด ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ตรวจคัดกรองผู้ที่มีอาการปอดอักเสบหรือมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เพื่อวินิจฉัยการติดเชื้อโควิด-19 ให้ได้โดยเร็ว ภาคเอกชน เช่น โรงงาน สถานประกอบการ หอพัก ไม่รับแรงงานต่างด้าวที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย และภาคประชาสังคม อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว ช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่อง หากพบบุคคลแปลกหน้าให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด- 19 ในประเทศได้
สำหรับวันหยุดยาวที่จะมาถึงในวันที่ 4 – 7 กันยายน 2563 นี้ ขอเชิญชวนประชาชนช่วยกันดูแลเศรษฐกิจของประเทศ “กินของไทย ใช้ของไทย และเที่ยวไทย อย่างปลอดภัย” และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน ไม่นำตัวเองไปสัมผัสกับความเสี่ยงต่าง ๆ หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดคนรวมกันจำนวนมาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ หากมีอาการป่วย เป็นไข้ หรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ ควรพักรักษาตัวไม่ไปในสถานที่ต่าง ๆ ป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น และลงทะเบียนเข้า-ออก สถานที่ในแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ทุกครั้งที่เข้าใช้บริการ ทั้งนี้เพื่อเศรษฐกิจและชีวิตจะเดินต่อไปได้ .-สำนักข่าวไทย