กระทรวงแรงงาน 28 ส.ค.-รมว.แรงงาน มั่นใจสถานการณ์แรงงานจะดีขึ้น เตรียมถกขอใช้เงินกองทุนต่างด้าว 300 ล้านบาท ช่วยลดภาระแรงงานและนายจ้าง ในการนำเข้าแรงงานต่างด้าวที่มีความต้องการกว่า 4หมื่นคน
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงาน กล่าวถึงกรณีการเตรียมเปิดให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศ ว่า ขณะนี้มีภาคเอกชน บริษัท โรงงาน รวมทั้งภาคการเกษตร แจ้งความต้องการแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ คือกัมพูชา เมียนมา และลาว ประมาณ 40,000 คน ส่วนใหญ่แรงงานไร้ฝีมือ ซึ่งในเบื้องต้นได้สั่งการให้กรมการจัดหางานประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้แรงงานไทยที่ต้องการทำงานได้เข้ามาสมัครก่อน หากได้ไม่ครบจำนวนที่ต้องการ จึงจะพิจารณาเปิดรับแรงงานต่างด้าว
เนื่องจากขณะนี้การจะอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศต้องผ่านหลักเกณฑ์การควบคุมโรคตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ซึ่งต้องกักตัว 14 วัน และมีภาระค่าใช้จ่าย ในการดำเนินการซึ่งเป็นภาระค่าใช้จ่ายของแรงงานและนายจ้าง ซึ่งค่าใช้จ่ายในการกักตัวรัฐบาลและกระทรวงแรงงานไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมด ดังนั้น จะมีการหารือแนวทางเพื่อขอใช้เงินกองทุนเพื่อการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ที่มีเม็ดเงินอยู่ประมาณ 300 ล้านบาท มาใช้สนับสนุนในส่วนนี้ แต่การจะใช้เงินจะต้องมีการทำเรื่องเสนอต่อกรมบัญชีกลาง และขณะนี้ได้ทำหนังสือคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อตีความในเรื่องดังกล่าวนี้
ส่วนแนวโน้มสถานการณ์แรงงาน มั่นใจว่าสถานการณ์จะดีขึ้นแน่นอน เนื่องจากในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ไทยสามารถควบคุมโรคได้เป็นอย่างดีจนเป็นที่ชื่นชมของนานาประเทศ ซึ่งวิกฤติที่ผ่านมาจะเป็นโอกาสในอนาคตสำหรับประเทศไทย ที่จะมีทั้งนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเดินเข้ามาท่องเที่ยวและลงทุนในประเทศไทยอย่างมากมาย เชื่อมั่นในศักยภาพต่างๆ ของประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องสาธารณสุขที่ดีที่สุด
“ตอนนี้เราเป็นเสือบาดเจ็บ กำลังรักษาแผล ถ้าแผลหายเราจะกลับมาเป็นเสือที่เป็นเจ้าป่าเหมือนเดิม และเชื่อว่าวิกฤติจะเป็นโอกาส เชื่อว่าอีก 1 ปี ประเทศไทยจะดีขึ้นเรื่อย ๆ มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามา” นายสุชาติ กล่าว.-สำนักข่าวไทย