กทม.22ส.ค.-โพลประชาชนกว่าร้อยละ 94 ระบุประชาชนทุกคนคือผู้ที่ต้องออกมาปกป้อง เทิดทูน สถาบันหลักของชาติ และเห็นด้วยอย่างยิ่งประเทศไทยมีดีกว่าหลายประเทศทั่วโลก , เป็นประเทศที่มีโครงการพระราชดำริสร้างประโยชน์สุขแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า และเป็นประเทศที่คนในชาติช่วยแก้วิกฤติโควิดได้คำชมอันดับต้นๆ ของโลก ฯลฯ
ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL ) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง “ประเทศกูมี” กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการ ทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่าน “เสียงประชาชนในโลกโซเชียล”(Social Media Voice) ด้วยระบบ Net Super Poll จำนวน 35,273ตัวอย่างในโลกโซเชียล และ “เสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิม”(Traditional Voice) จำนวน 1,409 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 16 – 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา
พบว่า ส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 94.9 ระบุว่า ประชาชนทุกคนคือผู้ที่ต้องออกมาปกป้อง เทิดทูน สถาบันหลักของชาติ รองลงมาร้อยละ 89.5 ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงาน และร้อยละ 86.9 กองทัพ คือผู้ที่ต้องออกมาปกป้อง เทิดทูนสถาบันหลักของชาติ
สำหรับ “สิ่งที่ประเทศไทยมี” ถึงร้อยละ 97.6 ระบุประเทศที่มีโครงการพระราชดำริสร้างประโยชน์สุขแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า เช่น ฟื้นฟูป่าชายเลน โครงการแก้มลิง โครงการชั่งหัวมันและอื่นๆ เป็นพันโครงการ, รองลงมาร้อยละ 97.4 ประเทศไทยมีศาสนาเป็นศูนย์รวมจิตใจ ความดี หลักธรรม คุณธรรมและความช่วยเหลือเกื้อกูล ร้อยละ 96.8 ประเทศไทยมีลูกหลาน ดูแลพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ด้วยความกตัญญู ร้อยละ 96.2 ประเทศไทยมีสอนให้ประชาชนรู้จักพึ่งพาตนเองด้วยเศรษฐกิจพอเพียง จน สหประชาชาติยกย่องเชิดชูสูงสุดไปทั่วโลก
ร้อยละ 92.9 ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีคนในชาติช่วยแก้วิกฤติโควิดได้คำชมอันดับต้นๆ ของโลก , ร้อยละ 89.8 ประเทศไทยมีปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง , ร้อยละ 87.1 ประเทศที่มีโครงการ ธนาคารต้นไม้ ประชาชนปลูกไม้มีค่าไว้ขายได้ , ร้อยละ 86.1 ประเทศไทยเป็นประเทศที่ กองทัพช่วยแก้ภัยพิบัติประชาชน น้ำท่วม ดินถล่ม ,ร้อยละ 78.5 ประเทศ ที่มีรถไฟฟ้า เทคโนโลยี ทันสมัย และร้อยละ 60.3 ประเทศที่ คนทุกวัย รู้เท่าทัน ต่างชาติเข้ามาสร้างความปั่นป่วน ให้คนไทยแตกแยกกันเอง
และคำถาม “ประเทศไทยมีดี กว่าหลายประเทศทั่วโลก” ร้อยละ 98.0 เห็นด้วยถึงเห็นด้วยอย่างยิ่ง และร้อยละ 2.0 ไม่เห็นด้วยถึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
สำหรับผลการสำรวจ “เสียงประชาชนในโลกโซเชียล”(Social Media Voice) ผ่านระบบ Net Super Poll ในการศึกษาแนวโน้มการก่อตัวและการปั่นกระแสคนในโลกโซเชียลจากตัวอย่างการใช้ข้อความการเมืองจำนวน 35,273 ตัวอย่าง พบว่า ข้อความการเมือง “เยาวชนปลดแอก” วันที่ปล่อยข้อความ 12 กรกฎาคม 2563 วันที่ปั่นยอดสูงสุด 23 กรกฎาคม ช่องทางที่นิยมทวิตเตอร์ร้อยละ 75.3 และอินสตาแกรม ร้อยละ 14.9
“ให้มันจบที่รุ่นเรา” วันที่ปล่อยข้อความ 18 กรกฎาคม วันที่ปั่นยอดสูงสุดวันที่ 16 สิงหาคม ช่องทางที่นิยม ทวิตเตอร์ ร้อยละ 60.0 และอินสตาแกรม ร้อยละ 32.5
“ขีดเส้นตายไล่เผด็จการ” วันที่ปล่อยข้อความ 6 สิงหาคม 2563 วันที่ปั่นยอดสูงสุด 12 สิงหาคม 2563 ช่องทางที่นิยม อินสตาแกรมร้อยละ 54.2 ขณะที่ทวิตเตอร์ ร้อยละ 41.9
และข้อความ “ประเทศกูมี” วันที่ปล่อยข้อความ 24 มิถุนายน 2563 และวันที่ปั่นยอดสูงสุดวันที่ 19 สิงหาคม โดยช่องทางที่นิยม ทวิตเตอร์ร้อยละ 73.2 และอินสตาแกรม ร้อยละ 10.7 และวิดีโอร้อยละ 6.3 .-สำนักข่าวไทย